สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

นักวิจัยออสเตรียพบ ผู้ใช้เฟซบุ๊กเป็นระยะเวลานาน มักมีแนวโน้มเกิดอารมณ์ไม่ดีมากขึ้น

นักวิจัยด้านพฤติกรรมพบว่า ผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กเกือบทุกคนมักจะรู้สึกแย่ลงเรื่อยๆ ตามเวลาที่เพิ่มขึ้นในการเล่นเฟซบุ๊กมากกว่าการใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อกิจกรรมอื่นๆ เนื่องจากเฟซบุ๊กทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งความรู้สึกดังกล่าวอาจทำให้เกิดภาวะอารมณ์เสียขึ้นได้โดยง่าย

งานวิจัยล่าสุดนี้ของนักวิจัยจากออสเตรียพบว่า ผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กเป็นระยะเวลานานมักจะมีแนวโน้มว่าจะเกิดอารมณ์บูดมากขึ้น ไม่ว่าจะเห็นข้อความที่แสดงบนหน้าจอในเชิงบวกหรือลบก็ตาม สวนทางกับการศึกษาของทีมงานเฟซบุ๊กเอง ที่เคยศึกษาเรื่องอำนาจของเว็บไซต์กับอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งทางเฟซบุ๊ก พบว่า แม้เฟซบุ๊กสามารถส่งผลต่ออารมณ์ให้แย่ลงได้ ทว่าก็สามารถช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ด้วย ถ้าผู้นั้นไม่เขียนหรือเห็นข้อความในเชิงลบ

ทั้งนี้ นักวิจัยได้ทำการทดลองจากผู้เข้าร่วมการทดสอบ โดยการสอบถามเวลาที่ใช้ในการเล่นเฟซบุ๊กในแต่ละวัน แล้วให้แต่ละคนให้คะแนนระดับอารมณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังการใช้จากนั้นจึงทดลองอีกครั้ง โดยศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง 3 กลุ่มตัวอย่าง

กลุ่มหนึ่งให้ใช้เฟซบุ๊ก ขณะที่อีกกลุ่มใช้อินเทอร์เน็ตได้ทุกอย่าง ยกเว้นเว็บไซต์สังคมออนไลน์ ส่วนกลุ่มสุดท้ายให้ใช้อินเทอร์เน็ตตามความชอบเป็นเวลา 20 นาที พบว่า กลุ่มที่ใช้เฟซบุ๊กจะรู้สึกอารมณ์แย่ลง เนื่องจากคิดว่าใช้เวลาที่ผ่านไปแบบไม่เกิดประโยชน์ใดๆ มากกว่ากลุ่มอื่นๆ

นักวิจัยจึงสรุปว่า ผลการทดลองนี้ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะมนุษย์รู้สึกว่าสิ่งที่ทำไม่เกิดประโยชน์มากนัก ก็มักจะทำให้เกิดความรู้สึกแย่หรืออารมณ์ไม่ค่อยดีนัก

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.posttoday.com/ดิจิตอลไลฟ์/308051/ใช้เฟซบุ๊กนานระวัง-อารมณ์บูด (http://www.posttoday.com/ดิจิตอลไลฟ์/308051/ใช้เฟซบุ๊กนานระวัง-อารมณ์บูด)
http://www.dailygizmo.tv/ (http://www.dailygizmo.tv/)