สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

teenee : ทุกวันนี้หันไปทางไหนก็เห็นแต่คนก้มหน้าก้มตาอยู่กับมือถือ นั่งจิ้มหน้าจอสี่เหลี่ยมอย่างขะมักเขม้นจนแทบไม่ได้สนใจผู้คนแวดล้อมรอบข้างบ้างเลย แล้วเชื่อไหมคะว่าบางครั้งก็เป็นสาเหตุให้ต้องประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น ทั้ง ๆ ที่ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นเลยสักนิด หนำซ้ำถ้ามัวแต่สื่อสารกันผ่านสมาร์ทโฟนสุดไฮเทค ยังจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาอีกมากมายเลยด้วย

 ans1 ans1 ans1

1. โรคซึมเศร้าจากเฟซบุ๊ก เพราะใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางระบายความรู้สึก บางครั้งยิ่งระบายก็ยิ่งหดหู่

2. โนโมโฟเบีย (Nomophobia) อาการกระวนกระวายกลัวการไม่มีมือถือใช้ในการติดต่อสื่อสารหรืออัพเดตสเตตัส

3. ละเมอแชต (Sleeping-Texting) ติดแชตจนรบกวนการนอนทำให้พักผ่อนได้ไม่เต็มที่

4. สมาร์ทโฟนเฟซ การก้มลงมองและจ้องที่โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตมากเกินไปจนเกิดอาการปวดเมื่อยใบหน้าและลำคอ

5. โรควุ้นในตาเสื่อม เห็นภาพเป็นคราบดำ ๆ คล้ายหยากไย่เมื่อมองไปยังแสงสว่าง

 :96: :96: :96: :96:

แก้อาการติดโซเชียลมีเดีย
• ยอมรับว่าตัวเองติด
• จำกัดเวลาเล่น
• ไม่ควรจดจ่อมากนัก
• เว้นช่วงพักสมองก่อนถึงเวลานอน
• หางานอดิเรกอื่น ๆ ทำ
• วางโทรศัพท์ให้พ้นสายตา

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qTTJNRGN5Tnc9PQ==&sectionid= (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qTTJNRGN5Tnc9PQ==&sectionid=)

สรุปแล้ว ต้องการให้ใช้ Socail network หรือ ไม่อยากให้ใช้กัน เห็นสรุป เป็นโรคนั้น โรคนี้ ทำอย่างกับว่า ประชากร ทั้งโลกนี้ 6000 กว่าล้านคน โง่ ดักดาน อยู่ได้ คนที่ใช้ ฉลาด ไม่เป็นโรค ก็มีเยอะแยะ ทำไมเอามาทำสถิติ เหมือนกับ เครื่องระเบิด สักเครื่องสองเครื่อง กับเครื่องที่ไม่ระเบิด ล้านเครื่อง พอระเบิดปั๊ป ก็บอกว่ามันไม่ดี เชียวนะ ไอ้คนที่เขียนนี่ ใช้อยู่หรือป่าว

  :49: :signspamani: :33: