หัวข้อ: "ขาแชท" ระวัง.! การใช้ "สแตนดี้วางมือถือ" แชทในรถ ผิดกฎหมาย.! เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 31, 2014, 10:16:34 am (http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2014/07/30/ib5h5j5abj7bfdbjbfjhg.jpg) บช.น.คุมเข้ม 'แชทไลน์มือถือ' ขณะขับรถ บช.น.คุมเข้ม 'แชทไลน์มือถือ' ขณะขับรถ โทษปรับ 400-1,000 บาท หากโต้เถียงส่งขึ้นศาล 30 ก.ค.57 พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจราจร กล่าวว่า ได้กำชับสั่งการตำรวจจราจร 88 สน. และจราจรกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) คุมเข้มกวดขันวินัยจราจรผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยหรือเล่นแชท เล่นไลน์ หรือดูข้อมูลอินเตอร์เน็ตในมือถือก็ตามถือว่า มีความผิดรวมถึงการนำที่วางมือถือยึดติดกับพวงมาลัยรถยนต์เพื่อใช้โปรแกรมแชทในขณะขับรถเป็นการกระทำที่มีความผิดทั้งสิ้นผู้ขับขี่ไม่สามารถกระทำได้ในขณะขับขี่รถยนต์และรถจักรยายนต์ยนต์เข้าข่ายความผิดใช้โทรศัพท์ขณะขับรถตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่8) พ.ศ.2551 มาตรา 43 ห้ามมิให้ผู้ขับรถใช้โทรศัพท์เคลื่อนขณะขับรถเว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมีอุปกรณ์เสริมสำหรับสนทนา (สมอลล์ทอล์ค) เท่านั้น โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์ (http://www.matichon.co.th/online/2014/07/14066974691406697689l.jpg) พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า การใช้ที่ตั้งมือถือที่พวงมาลัยรถหรือสแตนดี้เป็นการรบกวนสมาธิในการขับรถอย่างมากเนื่องจากต้องละสายตาจากท้องถนนเพื่อพิมพ์ข้อความก็ต้องละมือข้างหนึ่งไปจากการควบคุมพวงมาลัยรถซึ่งมีความผิดตามกฎหมายมีโทษปรับไม่เกิน 400- 1,000 บาท แต่กรณีวางมือถือที่สแตนดี้และเปิดลำโพงเสียงเพื่อสนทนานั้นไม่ถือว่าเป็นความผิด ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับการใช้สมอลล์ทอล์ค หากตรวจพบการกระทำความผิดดังกล่าวตำรวจจราจรจะดำเนินการจับกุมทันที ทั้งนี้หากมีกรณีโต้เถียงผู้ทำผิดไม่ยอมรับจะนำเรื่องไปสู่การพิจารณาบนชั้นศาลเพื่อดูหลักฐานพยานว่ามีเจตนาเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถหรือไม่ :96: :96: :96: รองผบช.น. ย้ำเตือนว่า พฤติกรรมการเล่นไลน์เล่นแชทในมือถือขณะขับรถนั้นเป็นอันตรายมากนอกจากจะผิดกฎหมายแล้วยังส่งผลง่ายต่อการเกิดอุบัติเหตุและเป็นที่มาของการจราจรติดขัดยิ่งขึ้นเนื่องจากผู้ขับขี่ไม่มีสมาธิและไม่ได้สนใจเมื่อปล่อยสัญญาณไฟเขียวทำให้รถเคลื่อนตัวช้าซึ่งความจริงแล้วตำรวจจราจรไม่อยากจับกุม พฤติกรรมเหล่านี้เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความวุ่นวายบนท้องถนนมากขึ้นโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มองเห็นถึงความสำคัญเพราะหากไม่ดำเนินการตามกฎหมายก็จะส่งผลเสียในหลายด้านอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่อผู้ขับขี่หรือผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันผู้ที่ขับรถจึงควรมีจิตสำนึกในการใช้ทางสาธารณะด้วยไม่ใช่คำนึงถึงความสนุกสนานเพลิดเพลินของตนเองฝ่ายเดียว ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.komchadluek.net/detail/20140730/189201.html (http://www.komchadluek.net/detail/20140730/189201.html) http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1406697469 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1406697469) |