สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมคณะ และนายสาโรจน์ ลาภหงษ์ทอง นายกอบต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง เดินทางมายังวัดสังกระต่าย ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง เพื่อตรวจสอบสภาพความเก่าแก่และความสวยงามตามธรรมชาติ หลังจากพบว่าวัดดังกล่าวมีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี และมีต้นโพธิ์ 4 ต้น มีรากงอกออกมาช่วยยึดตัวโบสถ์ไม่ให้พังทลายลงมา ซึ่งนายเอนกได้ตรวจสอบโดยรอบพื้นที่และเก็บข้อมูลอย่างละเอียด โดยมีนายสาโรจน์คอยอธิบายเกี่ยวกับวัดดังกล่าว

นายสาโรจน์ กล่าวว่า วัดนี้เป็นวัดร้างที่เหลือแต่โบสถ์โบราณมีอายุหลายร้อยปี ที่เทศบาลต.ศาลาแดงเป็นผู้ดูแล ปัจจุบันไม่มีหลังคาโบสถ์แล้ว แต่ตัวโบสถ์เป็นปูนนั้นไม่พังลงมา เพราะมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ 4 ต้น ใช้รากยึดตัวโบสถ์จนแน่น โดยเมื่อมองอยู่ห่างๆ จะเห็นเหมือนมีเพียงต้นโพธิ์ แต่พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าด้านล่างต้นโพธิ์เป็นโบสถ์โบราณ ที่สร้างเป็นห้องไว้ 3 ห้อง ประตูโบสถ์อยู่ด้านข้าง พอเดินเข้าไปภายในก็จะพบหลวงพ่อแก่น แต่พอเข้าไปในห้องใหญ่จะพบพระประธานองค์ใหญ่ 1 องค์ องค์ย่อมลงมาอีก 2 องค์

 :96: :96: :96: :96:

ด้านนายเอนก กล่าวว่า หลังจากตนรับทราบว่าที่วัดสังกระต่ายแห่งนี้ มีโบสถ์เก่าแก่และมีต้นโพธิ์ใช้รากเกาะยึดสวยงามไม่ให้โบสถ์พัง จึงเดินทางมาตรวจสอบ หลังจากได้พบก็รู้สึกถึงความร่มเย็นและสวยงามตามธรรมชาติ โบสถ์มีโครงสร้างเก่าแก่ ซึ่งทางกรมศิลปากรจะต้องจดทะเบียนโบสถ์แห่งนี้เป็นโบราณสถาน และเตรียมเก็บข้อมูลว่าโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยใด ที่สำคัญจะต้องเร่งเสริมความแข็งแรง โดยบูรณะส่วนที่จะพังเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นก็คงจะจัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd09EQTNNekl6TXc9PQ==&subcatid= (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd09EQTNNekl6TXc9PQ==&subcatid=)