หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : แนวทางการฝึกจิต(2) เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 23, 2014, 10:45:24 pm (https://fbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/t1.0-9/523651_351046618310132_1399890588_n.jpg) สมาธิชาวบ้าน : แนวทางการฝึกจิต(2) เมื่ออบรมจิตมาจนถึงขั้นที่เจอ “ว่าง” ก็นับว่าผู้ปฏิบัติมาได้ถูกทางแล้ว ที่กล่าวเช่นนี้เพราะอะไร? เพราะว่ามันแสดงถึงว่ารู้มันโตขึ้น ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรให้รู้ก็ตาม นี่คือความเดิมแท้ของจิต ไม่ใช่ว่าอบรมไปแล้วจิตรู้หายไป ถ้ารู้มันโตขึ้น แต่ไม่มีอะไรให้มันรู้ต่างหาก มันถึงว่าง ว่างเพราะจิตพรากออกมาจากความคิด ถ้าเข้าไปว่างในอาการอย่างนี้ติดไปนานๆ เข้า ธาตุรู้จะตื่นขึ้นมา แต่ไม่มีอะไรให้รู้ เรียกว่า “ติดว่าง” เมื่อรู้โตมาก กว้างใหญ่ไพศาล แต่ไม่มีอะไรให้มันรู้เลย มันก็ว่าง เพราะไม่มีเครื่องรู้ มันได้จิตเดิมแท้ แต่ว่าไม่มีอะไรให้มันรู้ ดังนั้นเราจึงต้องหาอุบายให้มัน เพื่อให้มันไม่ติดว่าง มันก็จะไปรู้ในภูมิวิปัสสนาต่อไป นี่คือแนวทางการฝึกจิต :96: :96: :96: :96: หลังจากนั้นพอเราหาอุบายมาให้มัน ด้วยการฟังธรรมก็ดี หรือให้มันมีการพิจารณาต่างๆ ก็ดี อาการที่มันได้สมาธิจิตนี้ก็จะเกิดรู้อย่างใหม่ขึ้นมา ซึ่งการรู้อย่างนี้จะอยู่เหนืออำนาจของสมมติบัญญัติอันเป็นความคิดที่เคยครอบงำมันอยู่ ตอนแรกๆ มันรู้เพราะอำนาจความคิดที่ครอบงำมัน แต่ทีนี้พอมันเกิดรู้อย่างใหม่ขึ้นมา ไอ้รู้ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในอำนาจของความคิดแล้ว เรียกได้ว่า “รู้ธรรมเห็นธรรม” หรือ “รู้แจ้งเห็นจริง” สุดแท้แต่จะใช้คำเรียกอะไร แต่ว่ามันเป็นการรู้ความจริง :25: :25: :25: :25: ทีนี้จิตเมื่อรู้ความจริงต่างๆ ของเรื่องราวในชีวิตประจำวัน จากเมื่อก่อนที่เรารู้แต่สมมติบัญญัติที่มาครอบงำความคิดเรา ก็จะกลายมาเป็นเรารู้แจ้งเห็นจริง หลายคนอาจจะเรียกว่า “วิปัสสนา” เพราะมันยังอยู่ภายใต้อำนาจโลกรู้ ถึงรู้อย่างไรก็อยู่ภายใต้อำนาจสมมติบัญญัติโลก แต่ก็รู้ความจริง อาศัยสมมติบัญญัติโลกรู้ธรรมภายใต้ขอบเขตโลกไป ธรรมในลักษณะนี้มันก็ทำให้ผู้ปฏิบัตินั้นเกิดความเข้าใจในธรรม เกิดปัญญาธรรมเข้าใจในธรรม อยู่บนโลกได้อย่างไม่ทุกข์ เพราะว่าความจริงมันปรากฏทุกอย่าง รู้แจ้งเห็นจริงหมด อะไรที่เคยโง่อยู่พอมี ปัญญาแล้วก็หายโง่ แต่ก็ยังไม่ถึงพระนิพพาน มันเป็นแค่อาการรู้ธรรมของโลกเท่านั้น (https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xap1/t1.0-9/166766_436056946475765_409578777_n.jpg) พอรู้ธรรมเสร็จ ความทุกข์ที่มีบนโลกก็น้อยลง รู้ว่าความอิจฉา ริษยา ความโกรธ ความอาฆาต พยาบาท มันก็มาทำร้ายตัวเอง ทำร้ายอย่างไรก็เห็นความจริงหมด เหมือนคนที่เขาไปเอาถ่านไฟแดงๆ มาอุ้มไว้ คนโง่ก็อุ้มไว้ คนไม่โง่ก็วางไป มันก็ไม่ร้อน คนโง่ก็อุ้มไว้ต่อไปอีก พอเห็นความจริงดังนี้ก็วางถ่านไฟนั้น ไม่อุ้มไว้ ทิ้งวางไป มันก็ไม่ร้อน เห็นความจริงแล้วก็รู้ความจริง ความจริงของโลก โลกก็เป็นอย่างนี้ เกิดมาทุกทีก็เป็นอย่างนี้ ผู้ปฏิบัติก็ได้ฌานได้ญาณ เกิดความรู้ความเห็นต่างๆ ตามขั้นของการปฏิบัติ ถ้าไปรู้อะไรที่คนทั่วไปไม่รู้ก็จะกลายเป็นผู้วิเศษไป เช่น ไปรู้อดีต รู้อนาคต เพราะว่าคนทั่วไปไม่สามารถรู้แบบนั้นได้ นี่ก็เป็นความเข้าใจแบบอวิชชาที่เกิดขึ้น เหมือนกับสัตว์เดรัจฉานบนโลก พอสัตว์ตัวไหนรู้ภาษามนุษย์ก็จะกลายเป็นสัตว์วิเศษขึ้นมาทันที มนุษย์พอไปล่วงรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่เหนือความรู้ของมนุษย์ทั่วไป ก็จะกลายเป็นผู้วิเศษไป ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย. ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/240814/95115 (http://www.thaipost.net/tabloid/240814/95115) หัวข้อ: Re: สมาธิชาวบ้าน : แนวทางการฝึกจิต(2) เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ สิงหาคม 25, 2014, 09:10:12 am st11 st12
หัวข้อ: Re: สมาธิชาวบ้าน : แนวทางการฝึกจิต(2) เริ่มหัวข้อโดย: Akira ที่ สิงหาคม 25, 2014, 11:15:52 am st11 st12 st12
เสียดายไม่ใช่ บทความที่พระอาจารย์ เขียน ถ้าเป็นพระอาจารย์เขียน เรื่อง สมาธิ ชาวบ้าน ถ้าจะอ่านเข้าใจมากกว่านี้ :c017: :25: :25: |