หัวข้อ: นิทานชาดก หรือนิยายไซไฟที่แต่งขึ้น อ่านดี ๆ แล้ว ก็มีประโยชน์ คร้า.. เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ พฤศจิกายน 02, 2010, 01:31:59 am (http://www.jadedragon.net/pic/index_002.jpg)
อ่านเรื่องข้างล่างนี้แล้วอาจดูเหมือนนิทานชาดก หรือนิยายไซไฟที่แต่งขึ้น จะจริงหรือไม่จริง ไม่ใช่ประเด็น แต่เขาให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า ทำไมพวกเราจึงมาเจอกัน รักกัน ชอบกัน เกลียดกัน และต้องส่งเมล์เรื่องนี้ถึงกัน และ คงไม่ทุกคนที่เราส่งให้เปิดอ่านเมล์นี้ แล้วไปพบกัน มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ sorry sorry sorry เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา ก็เข้ามา! เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน เขามองเห็น ภาพของคนที่รักอยู่ในนั้นไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไปกลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา ขณะมองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพนั้น เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมา คลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่า เป็นศพ ด้วยใจสงสาร จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็น ภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2 แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก รักนะ รักนะ รักนะ ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด ..... คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ,แม่,พี่,น้อง,ญาติ,เพื่อน,ศัตรู,คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน รั้งยังไงก็ไม่อยู่ ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้ ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่ หัวข้อ: Re: นิทานชาดก หรือนิยายไซไฟที่แต่งขึ้น อ่านดี ๆ แล้ว ก็มีประโยชน์ คร้า.. เริ่มหัวข้อโดย: นาตยา ที่ พฤศจิกายน 02, 2010, 10:02:49 pm โชคดีของชายหนุ่ม ที่มีพระอภิญญา มาอธิบายเรื่องกรรมให้เห็น
ยังนึกเหมือนกันว่า วาสนา ความผูกพันนั้น มีอะไรทีผูกกันไว้ สิ่งที่ผูกกันไว้ ก็คือการอนุเคราะห์ กันนี้เอง สิ่งที่เรารู้ก็มีเพียงชาตินี้ ดังนั้้น คนที่เป็นทุกข์ ก็มีปัญหา ทางจิตใจ เรื่องนี้ พออ่านเสร็จ จึงทำให้รู้เรื่องหนึ่งว่า ใจ ถ้าเป็นทุกข์ แล้ว ย่อมทำให้ กาย ทรุดโทรม จึงขอยืมคำของพระอาจารย์ มาอ้างอิงดังนี้ ใจ ที่เป็นทุกข์ เพราะมี นิทาน เป็นที่ตั้ง ใจ ที่มี นิทาน เป็นที่ตั้ง ย่อมมี สมุทัย คือ ตัณหา เป็นแดนเกิด ใจที่มี สมุทัย ตัณหาเป็นแดนเกิด ย่อม อยู่กับ อวิชชา ใจ ที่มี อวิชชา จึง ต้องวนเวียน ในสังสารวัฏฏ์ มิจบสิ้น หัวข้อ: Re: นิทานชาดก หรือนิยายไซไฟที่แต่งขึ้น อ่านดี ๆ แล้ว ก็มีประโยชน์ คร้า.. เริ่มหัวข้อโดย: สายฟ้า ที่ พฤศจิกายน 03, 2010, 01:12:06 pm สุดยอดตอนที่หลวงตา ท่านสรุป นี้ครับ ถึงบ้างอ้อ เลย
เห็นด้วยครับ โรคใจ ใช้ยานอกไม่ได้ ครับ ต้องใช้ ธรรมะ บำบัดครับ คนป่วยโรคใจ มีมากครับ :bedtime2: :25: |