สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 08, 2014, 11:31:31 am



หัวข้อ: กระทำการสิ่งใดจะสำเร็จได้ ต้อง "กตัญญูรู้คุณคน"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 08, 2014, 11:31:31 am

(http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2014/09/act01030957p1.jpg)

กระทำการสิ่งใดจะสำเร็จได้ ต้อง "กตัญญูรู้คุณคน"

เย็นย่ำของค่ำวันหนึ่ง เมื่อเดือนที่แล้วผู้เขียนได้เหลือบไปเห็นหนังสือที่หิ้งในบ้านพักที่มหาวิทยาลัยพะเยา ชื่อว่า "องค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย ผู้เป็นเจ้าแห่งสรวงสวรรค์ (ยุคพระศรีอาจารย์ถึงแล้ว) มีไว้สวดบูชาดีนักแล "พระคุมภีร์คำสอนอันศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้" ถ้าผู้ใดอ่านแล้วประพฤติปฏิบัติธรรมให้คงไว้ซึ่งคุณธรรมประจำใจ จะเป็นการสร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่แก่ตนเอง ครอบครัวของท่านที่ทำบุญให้ทานสร้างกุศลสั่งสมแต่กรรมดี สวรรค์ย่อมประทานเป็นสิริมงคลทุกท่านซึ่งผู้เขียนจะพิจารณาสื่อสารประเด็นพระคัมภีร์คำสอนที่สำคัญๆ ให้กับพวกเราได้ทราบ ความว่า

ยุคนี้ เมืองมนุษย์มีความทุกข์ ความเดือดร้อน องค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยได้เสด็จลงมาโปรดสัตว์โลกให้พ้นทุกข์ (ดอกบัวขาวเกิดแล้ว) พระคัมภีร์เล่มนี้มีพุทธานุภาพมาก สามารถบันดาลให้มนุษย์หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้กล่าวคือ ถ้าภายในจิตใจมีทุกข์เศร้าหมอง แก้ไขมิได้ องค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย จะดลใจบุตรีชายหญิงของผู้คนให้กลับตัวกลับใจ ทำตัวเป็นคนดี ถ้าครอบครัวป่วยที่เรื้อรัง ไม่หาย ป่วยจะหายได้ หรือผู้ที่มีชีวิตตกอับมืดมิด จะพบแสงสว่างต่อการดำรงชีวิตได้

การเกิดดับของสัตว์โลกในแต่ละภพ องค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยจะทรงกำหนดโดย "ยุติธรรมด้วยพระองค์เอง" พระองค์ทอดพระเนตรเห็นทั่วพื้นภพและสว่างแจ้ง ไม่มีแม้เพียงเศษธุลีใด จะรอดพ้นดวงพระเนตร อีกองค์เทพทุกๆ พระองค์ก็ช่วยดูอยู่ทรงมีเมตตาอันสูงส่ง เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ทางโลกได้ยอมเสียสละตัดเนื้อกายตน อุทิศให้ใช้เป็นยารักษาโรคแก่ผู้ยากไร้ บัดนี้ถึงยุคของศรีอริยเมตไตรยแล้วพระองค์ทรงมุ่งมั่นมาโปรดสัตว์โลก ให้คงความอยู่รอดปลอดภัย พร้อมทั้งร่มเย็นผาสุกโดยทั่วถึงกันหมด

พระองค์ทรงเป็นผู้เป็นเจ้าแห่งสรวงสวรรค์ พระองค์เสด็จลงมา มือถือพระขรรค์ เพื่อรักษาความปลอดภัย องค์เทพรับสนองตามพระบัญชาของสมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย ฉะนั้นทุกๆ พระองค์จึงได้ลงมาช่วยเหลือเรื่องในทางโลกมนุษย์...

 ans1 ans1 ans1 ans1

หลักคำสอนของพระพุทธศาสนา อบรมสั่งสอนให้ยึดความมี "เมตตากรุณา" และคุณธรรมเป็นหลักต่อการดำรงชีวิตเป็นหลักคำสอนหลักเดียว ธรรมะทั้งหมดต้องเริ่มต้นที่ "ใจ" ก่อนคำสอนบทนี้ ประดุจแสงสว่างของ "พระอาทิตย์" เพราะเป็น "สัจธรรม" ที่ยืนยงอยู่ได้ตลอดกาล ผู้มีคุณธรรมย่อมพ้นภัยพิบัติทั้งปวง และสามารถช่วยเหลือปกปักษ์รักษาสัตว์โลกทั้งมวลให้พ้นทุกข์ได้

พ่อแม่บังเกิดเกล้าเป็นผู้ประทานร่างกาย สังขารให้แก่เรา ฉะนั้นเมื่อเติบใหญ่แล้วจะต้องประพฤติปฏิบัติชอบ ผู้เป็นลูกต้องมีความกตัญญูรู้คุณและเชื่อฟัง ลูกที่เชื่อฟังและกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ผู้บังเกิดเกล้าก็เหมือนกับเคารพเทิดทูนสักการบูชาฟ้าดินด้วย

พ่อแม่ผู้บังเกิดเกล้ามีคุณต่อลูกมากมายเหลือล้นเหนือพรรณนา และตัวเองก็ต้องเป็นพ่อแม่คนต่อไป ฉะนั้นถ้าลูกแช่งด่าพ่อแม่ผู้บังเกิดเกล้า ไม่เพียงแต่ต้องถูกขึ้นชื่อว่าเป็น "ลูกทรพี" เท่านั้น หากยังขัดต่อ "อาญาฟ้าดิน" ขัดต่อองค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยต่อพระองค์เจ้า ซึ่งต้องรับโทษมหันต์ยิ่งนัก บ้างถึงต้องไปเกิดเป็นสัตว์


(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfa1/v/t1.0-9/418052_258421094239352_1396550641_n.jpg?oh=479b5044446d6c9dc20cd82d6605c702&oe=5492B06B&__gda__=1418548962_fb1e1b21ad2cf61d0077adb94626904c)

คนสมัยโบราณสอนคนให้ยึดความกตัญญู เชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่เป็นที่ตั้ง คนที่มีความกตัญญูเชื่อฟังพ่อแม่นั้นยังความซาบซึ้งปีติอันดีต่อองค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยต่อพระองค์เจ้าและเสด็จปู่สวรรค์ เสด็จย่าสวรรค์ เสด็จพ่อสวรรค์ เสด็จแม่สวรรค์ จึงอย่าได้เอาใจออกห่างจาก "ผู้มีพระคุณ" รู้เตือนตัวเตือนตนตลอดเวลา

เมื่อพ่อแม่ให้ความรักความเมตตา ปราณีต่อลูก ลูกต้องย่อมกตัญญู เชื่อฟัง ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพ่อแม่ พี่น้องผ่อนปรน ยึดใจ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรักความสามัคคี ความสุขย่อมเกิดภายในครอบครัวจากการนี้

อนึ่งลูก "อกตัญญู" และไม่เชื่อฟังคำกล่าวตักเตือน ทำให้ผู้เป็นพ่อแม่ต้องทนทุกข์ลำบากใจเป็นที่สุด จากพฤติกรรมอันมิชอบของผู้ที่เป็นลูกนี้จะมีอันเป็นไปดัง "กงเกวียนกำเกวียน" หมุนเวียนเหมือนวัฏจักรของฟ้าดิน กล่าวคือ ผู้ที่เป็นลูกอกตัญญูจะต้องรับกรรมอันเป็นบาปหนายิ่งโทษทุกข์ในชาติปัจจุบันจะเป็นทวีคูณไปตลอดชั่วชีวิต

 st12 st12 st12 st12

ฉะนั้นถ้าผู้ใดรู้สึกนึกผิด จะเร่งรีบกลับตัวกลับใจทำตนให้เป็นคนดีเสียใหม่โดยเร็วที่สุดให้ประพฤติปฏิบัติชอบ อ่านคัมภีร์สั่งสมบุญกุศลเอาไว้ การทำความดีหรือความชั่วก็ตามอย่าคิดว่า "ฟ้าดินไม่รู้" เพียงแต่ผลกรรมจะติดตามมาสนองช้าหรือเร็วเท่านั้น คนทำดีพระเจ้าช่วยคุ้มครอง และประทานความเป็นสิริมงคลมาให้ ส่วนคนทำชั่วต้องถูกลงโทษด้วยกรรมตามสนอง

เรื่องการทำความดีก่อกรรมทำความชั่วจงจำใส่ใจและให้ระลึกไว้อยู่เสมอของการดำรงชีวิต ให้นั่งสงบนิ่งแล้วคิด "ทบทวน" ความผิดพลาดของตนเองเพื่อแก้ไขทำตัวเสียใหม่ กลับใจเป็นคนดี เริ่มได้ทันทีไม่มีอะไรจะสายเกินไป สำหรับชีวิตเรา...

จงอย่าพูดคุยเรื่องไร้สาระกล่าวโทษผู้อื่นเกินข้อเท็จจริง เพ้อเจ้อ ส่อเสียด ใส่ร้ายผู้อื่น หาควรไม่เพราะ "ความยุติธรรมมีอยู่พร้อมแล้วตามกฎธรรมชาติ ถ้ายังไม่ขัดเกลานิสัยจิตใจของตนเองให้เป็นคนดีมีศีลธรรม ความทุกข์และภัยร้ายย่อมจะมาถึงตนอย่างร้ายแรง ทั้งนี้รวมถึงการกุข่าวก่อให้เป็นเรื่องเป็นราว ให้ภัยผู้อื่นปราศจากความจริง ยังความเสียหายและโกรธแค้นแก่ผู้เสียหาย ผู้ที่มีการกระทำอันมิชอบดังกล่าว ภัยร้ายแล้วทั้งโทษทุกข์จักท่วมท้นจะกลับตอบสนองแก่ตนเองทั้งสิ้น

 :49: :49: :49: :49:

คนที่ใจร้าย อารมณ์ฉุนเฉียว มักจะมีแต่เรื่อง ปัญหาอันมิชอบ อีกโทษทุกข์ภัยร้ายจะมาก มีทั้งอริศัตรูจะมีไปทั่วทุกแห่ง ฉะนั้นต้องระวังยับยั้งอารมณ์ของตน ด้วยความอดทนอดกลั้นตั้งสติอย่าให้เกิดปากเสียงทะเลาะวิวาทหรือคติความใดๆ ไม่ว่าจะแพ้ชนะก็ตาม ในที่สุดก็จะมีแต่ "ความว่างเปล่า"

ด้วยเหตุนี้การควบคุมสติให้มีสมาธิ อดทนอดกลั้นต่อความมิชอบทั้งปวงฟ้าดินย่อมรู้เห็น บุคคลที่มีใจเป็นกุศล นิสัยดีสุขุมรอบคอบเยือกเย็นใครๆ ก็ยอมรับนับถือและเกรงใจ มีนิสัยใจคอกว้างขวางละเอียดอ่อน แม้นจะทำการใดๆ ย่อมสำเร็จได้

ผู้ที่รู้จักให้ "อภัย" ก็คือผู้มีเมตตาธรรม ฉะนั้นจึงควรดับความใจร้อนและอารมณ์ฉุนเฉียวของตนด้วยตนเอง


(https://scontent-b-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xfa1/v/t1.0-9/p417x417/425474_258421084239353_1588791562_n.jpg?oh=16d4d1c2331934d646d99fa7168ee482&oe=548E7611)

สำหรับข้าวปลาอาหารและเครื่องบริโภคทั้งปวงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต่อชีวิตมนุษย์ องค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย ทรงสอนว่า "อย่ากินทิ้งกินขว้าง" หรือทำให้สูญเสียหมดเปลือง ถ้าใช้จ่ายเกินความพอดี จะเป็นหนี้ตลอดชีวิต จะเป็นผีตายอดอีกด้วย

จงระลึกเสมอว่า พืชไร่ที่เป็นอาหารถึงแม้จะเกิดจากพื้นดิน แต่จงรู้ไว้ด้วยว่า กว่าจะเจริญเติบโตผลิดอกออกผลได้ก็ด้วยความยากลำบาก สัตว์เลี้ยงก็เช่นกัน จงอย่าฆ่าทำลายชีวิตสัตว์ตามใจชอบ เว้นแต่มีเหตุอันควร จึงฆ่าได้ด้วยความจำเป็น ถ้าไม่เช่นนั้น หากทำด้วยไม่ชอบด้วยเหตุผลกรรมจะตามสนอง

ทรงสั่งสอนให้คนประพฤติดีปฏิบัติชอบ ประกอบสัมมาชีพโดยธรรมแล้วแม้บุญกับบาป ไม่มีรูปร่างตัวตน แม้ร่องรอยไม่เห็น แม้ไม่ประกอบอาชีพ โดยถูกต้องแล้ว สักวันต้องพบกับความ "หายนะ" ที่รออยู่ข้างหน้า

 :25: :25: :25: :25:

การมีความรักสามัคคีต่อกันภายในครอบครัว เป็นสิ่งอันประเสริฐสุด พึงนับได้ว่าเป็น "ความสุข" อันดับ "แรก" ของครอบครัว นอกจากนี้ให้มีความขยันหมั่นเพียรต่อสัมมาชีพ ประหยัดมัธยัสถ์ ซึ่งเป็นคุณงามความดี ที่ไม่อาจประเมินคุณค่าได้

การผูกมิตรคบค้าสมาคมต้องมีความซื่อสัตว์สุจริตต่อกัน อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่ฝ่ายเดียว คนที่โลภมากมักใหญ่ใฝ่สูง โดยไม่ประมาณตนเองจะนำความผิดพลาดและไม่สมหวังมาสู่ตนเอง เพราะความสุขที่แท้จริงหาใช่อยู่ที่การมีเงินมีทองมากมาย ความสุขสบายที่แท้จริงคือความ "ภาคภูมิใจ" อยู่ที่การมี "บุตรหลาน เป็นคนดีมีสติปัญญา"

 st11 st11 st11 st11

อนึ่งครอบครัวมีฐานะดี มั่งมีศรีสุข ก็อย่าได้คุยโอ้อวด เพราะผู้ที่อวดตัวทระนงหยิ่งยโส ส่วนมากจะอยู่ได้ไม่นาน ผู้มีใจเมตตา ซื่อสัตย์ ใจสงบเสงี่ยมเจียมตัว อ่อนน้อมถ่อมตนจะเป็นบุคคลที่มี "เสน่ห์" แก่ผู้คนที่ได้พบเห็น อยากคบค้าสมาคมด้วย

โดยสรุปพระคัมภีร์ พระคาถา พระองค์สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยทรงเน้น 2 ประการ คือ ให้คนยึด "คุณธรรม" และ "เมตตากรุณา" เป็นหลักสำคัญยิ่งต่อการดำรงชีวิตความเป็นมนุษย์ การดำรงชีวิตของคนต้องใช้ความนึกคิด จิตใจ สติปัญญา ไตร่ตรองในกิจการนั้นๆ ให้ถ่องแท้รอบคอบเสียก่อน โดยต้องเริ่มต้นจากการเป็นผู้มีใจ "กตัญญูรู้คุณคน" หากเป็นผู้ที่ไม่มีกตัญญูรู้คุณคนแล้ว จะกระทำการสิ่งใดก็ยากจะสำเร็จได้นะครับ



บทความ โดย นพ.วิชัย เทียนถาวร อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ที่มา:มติชนรายวัน 3 กันยายน 2557
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1409743921 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1409743921)