สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 09, 2014, 11:00:03 am



หัวข้อ: ไม่มีผู้ให้ไม่มีผู้รับ : บาตรเดียวท่องโลก
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 09, 2014, 11:00:03 am

(http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2014/09/08/78dabcabgk7977a6bk88k.jpg)

ไม่มีผู้ให้ไม่มีผู้รับ : บาตรเดียวท่องโลก
โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร

กลุ่มชาวไทยที่อาศัยอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์และจากเมืองไทยได้ร่วมแรงร่วมใจจัดงานทอดผ้าป่าเพื่อนำปัจจัยที่รวบรวมได้ช่วยบูรณะซ่อมแซมห้องครัว ณ วัดธรรมปาละ สวิตเซอร์แลนด์ ในปีนี้เจ้าภาพผู้จัดงานได้ออกค่าใช้จ่ายเช่ารถบัสที่ใช้ในการเดินทางมาวัดสำหรับผู้ร่วมบุญเกือบ ๖๐ ชีวิต               

ระหว่างนั่งอยู่บนรถบัสที่เดินทางมาวัดและจัดขบวนเดินเข้าวัดก็มีพระไทยนำสวดมนต์ตลอดการเดินทาง งดการร้องเพลง ดื่มเสพของมึนเมาและพิธีในทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างเรียบง่าย ทุกคนนั่งฟังธรรมด้วยความสงบและเคารพสำรวม

 :49: :49: :49: :49:

หลายครั้งที่มีข่าวรถบัสคว่ำ รถบัสชนในขณะนำผู้ร่วมงานทำบุญทอดผ้าป่าหรือทอดกฐินไปยังวัดต่างๆ และมีการร้องเพลงตีกลองเสียงดังตลอดการเดินทาง รวมทั้งดื่มเสพของมึนเมา นอกจากนี้งานพิธี ประเพณีหลายงานที่รวมเรียกว่า งานบุญ หรือหาทุนเข้าวัด ไม่ว่าจะเป็นงานประเพณีประจำปี งานศพ งานบวชฯลฯ อาจมีการฆ่าสัตว์ เล่นการพนัน ดนตรีหรือการแสดงที่ไม่เหมาะสม มีการดื่มเสพของมึนเมาหรือส่งเสียงดังก่อให้เกิดความเดือดร้อนให้แก่ผู้อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง

แท้จริงแล้ว บุญ คือ ความผ่องใส เบากาย เบาใจ สุขใจ สงบใจ ไม่สร้างความเดือดร้อนทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น การทำบุญที่ถูกต้องดีงาม ต้องเป็นไปอย่างเรียบง่าย สงบ ประหยัด ประกอบด้วยความรัก เมตตากรุณา สามัคคี ไม่ใช่เป็นไปเพื่อความหลง เพลิดเพลิน มัวเมา ฟุ่มเฟือย ขาดซึ่งสติยั้งคิด โหดร้าย ทะเลาะ โกรธ ทำร้าย ทำลายกัน

 :25: :25: :25: :25:

การให้ทานก็เป็นบุญชนิดหนึ่ง การสละซึ่งทรัพย์สิน เงินทองหรือสิ่งของ วัตถุที่ต้องได้มาด้วยความบริสุทธิ์ สุจริต เพราะไม่เกิดจากความเดือดร้อนของตนเองและผู้อื่น ผู้ให้ต้องมีความสุข ปิตียินดีทั้งสามกาล คือ ก่อนให้ กำลังให้ และหลังให้ นอกจากนี้ บุญจะมีประโยชน์มากเมื่อให้ผู้ทรงศีลถูกต้องงดงาม อยู่บนหนทางแห่งการปล่อยวาง ลดตัวตน รวมทั้งผู้ให้ต้องปล่อยวางทรัพย์หรือสิ่งที่ให้อย่างแท้จริงไม่คาดหวัง กะเกณฑ์ หวังผลตอบแทนจากการให้ เพราะการให้ทานเป็นจุดเริ่มต้นของความเข้าใจว่า ไม่มีอะไรเป็นของเราที่แน่นอนยั่งยืน

เพราะเราเกิดมาไม่มีอะไรติดตัว เราตายไปก็ไม่มีอะไรติดตัวเช่นเดียวกัน เมื่อเราได้สมมุติว่าสิ่งนี้ สิ่งนั้น เป็นของเรา ใจเราจึงค่อยๆ หนักมากขึ้นตามความยึดมั่น ถือมั่น จิตใจที่เคยเบาสบายจากความไม่มี ก็เริ่มมีภาระแห่งจิตใจและยากที่ปล่อย กลับทำให้จิตใจหลงและมีความอยากเพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

 st12 st12 st12 st12

ดังนั้น การให้จึงเปรียบเสมือนการเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง และทำจิตใจค่อยๆ เบาสบาย ด้วยการลดภาระของจิตใจให้ยึดมั่นถือมั่นให้น้อยลง แม้ร่างกายนี้แท้จริงก็ไม่ใช่ของเรา วันหนึ่งต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติตามผลการกระทำแห่งจิตใจ การที่ยังอยากหวังผลนั่น ผลนี่จากการให้ จึงเป็นการสร้างภาวะตัวตน ของตนอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่เป็นการให้เพื่อเกิดอิสรภาพอย่างแท้จริง เพราะการให้จะได้รับผลบุญอันยิ่งใหญ่

เมื่อไร้ซึ่งตัวผู้ให้ ไม่มีอะไรเป็นของเรา แล้วใครคือ ผู้ให้


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140908/191740.html (http://www.komchadluek.net/detail/20140908/191740.html)