สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

มีคนเคยถามว่า “ถ้ามาร้อยเอ็ดแล้วไม่เที่ยววัด จะเที่ยวอะไร” จึงตอบไป “ลองไปดูเอง” ทั้งที่ใจจริงอยากตอบเหลือเกินว่า “ถ้าไม่เที่ยววัดก็คงต้องเที่ยวทุ่งกุลาร้องไห้” ร้อยเอ็ดมีดีด้านวัดก็ต้องมาเที่ยวให้ถูกทาง เพราะแค่เพียงรอบบึงพลาญชัยก็มีถึง 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ วัดจึงเป็นแรงดึงดูดให้คนเข้ามาเที่ยว โดยเฉพาะ “สายไหว้” เข้ามาทำบุญวัดเหนือ เมื่อครั้งร้อยเอ็ดยังเป็นสาเกตนคร

 ans1 ans1 ans1 ans1

วัดเหนือได้ถูกสร้างขึ้นและถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดใน จ.ร้อยเอ็ด จนได้ฉายา “วัดเหนือพร้อมบ้าน วัดกลางพร้อมเมือง” (วัดกลางกล่าวไว้ในวัดถัดไป) ส่วนสำคัญที่สุดคือ สถูปทรงบัวเหลี่ยม อายุ1,300 ปี เป็นที่บรรจุอัฐิของเจ้าอาวาสวัดสมัยนั้น ชาวบ้านมักเรียกพระธาตุยาคู แต่ไม่ใช่พระธาตุยาคูเดียวกับที่ จ.กาฬสินธุ์ เพราะยาคูในภาษาอีสานเทียบได้กับตำแหน่งเจ้าอาวาส

สิ่งที่เก่าแก่ที่สุดของวัดมีอายุราว 3,000 ปี อยู่ที่เสาหินโบราณสูง 1.5 ม. ตรงฐานมีกลีบบัวคว่ำบัวหงาย จารึกอักษรปัลลวะของอินเดียสมัยคุปตะเขียนว่า “ปุณณะมะญะ” แปลว่า ผู้สร้างขึ้นด้วยความใจบุญสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเขตหลักเมืองหรือเขตพุทธสถานมาก่อน

วัดกลางมิ่งเมือง สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำ จ.ร้อยเอ็ด “พระพุทธมิ่งเมืองมงคล” คนถิ่นล้วนศรัทธาและยกเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชีวิต พระอุโบสถของวัดกลางมิ่งเมืองสร้างขึ้นต้นรัชกาลที่ 3 ลักษณะเป็นศิลปะแบบล้านช้างซึ่งมีความสวยงาม ความแปลก และขนาดใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น

ฝาผนังด้านนอกมีภาพจิตรกรรมทั้ง 4 ด้านบอกเล่าตำนานพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลายชาติ ส่วนด้านในมีใบเสมาโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินด้านหน้าพระพุทธมิ่งเมืองมงคล ใกล้กันกับพระอุโบสถมีศาสนสถานที่ดูแตกต่างไปจากวัด มีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมขอม มีลวดลายวิจิตรทำจากกระเบื้องเคลือบ แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันถูกปล่อยให้ทรุดโทรม บางส่วนแตกหัก และห้องด้านในถูกปล่อยให้รกร้างจนทำให้เสียคุณค่าไป นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงไม่กล้าขึ้น เสียโอกาสที่จะเห็นความประณีตและวิวมุมสูงของเมืองร้อยเอ็ด

วัดบูรพาภิราม เมื่ออยู่ในตัวเมืองร้อยเอ็ดเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เห็น “พระเจ้าใหญ่” ภายในวัดบูรพาภิราม ซึ่งความยิ่งใหญ่นี้เกิดจากความศรัทธาของศิษยานุศิษย์ที่ได้บริจาคปัจจัยสร้าง “พระปรางประทานพร” ที่สูงที่สุดโนโลกชาวบ้านเรียกกันสั้นๆ ว่า พระเจ้าใหญ่ หรือหลวงพ่อโต ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่คอยคุ้มครองชีวิตให้เป็นสุข และเชื่อว่าหากกราบไหว้จะได้อานิสงส์สูงเทียมฟ้าเช่นกัน

วัดป่ากุง ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดไปทาง อ.ศรีสมเด็จ 26 กม. จะพบบุโรพุทโธภายใน “วัดป่ากุง” เจดีย์หินทรายที่จะได้นำสถาปัตยกรรมบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย มาเป็นแบบอย่าง แต่ไม่เหมือนทุกกระเบียดเช่น ของไทยผนังด้านนอกของแต่ละชั้นจะมีภาพแกะสลัก ชั้น 1 เป็นภาพพระชาติสุดท้ายที่พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญทานบารมี ชั้น 2-3 ภาพพุทธประวัติ ชั้น 4 ภาพชัยมงคลคาถา และชั้น 5 ภาพสังเวชนียสถาน 4 ตำบล นอกจากนี้ยอดเจดีย์หุ้มด้วยทองคำจริงน้ำหนัก 101 บาท และภายในเจดีย์สามารถใช้สอยได้ซึ่งของจริงไม่มี

แม้ว่าวัดป่ากุงจะไม่อยู่ในตัวเมืองร้อยเอ็ดและสร้างเสร็จเมื่อปี 2547 ซึ่งถือว่าไม่นานนัก แต่ก็กลายเป็นอีกหนึ่งวัดที่ชาวร้อยเอ็ดเคารพกราบไหว้ ซึ่งถ้ามองทางการท่องเที่ยวก็เหมือนเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ทั้งจดจำง่ายและน่าดึงดูดใจ

 :96: :96: :96: :96:

วัดเหนือ วัดกลางมิ่งเมือง และวัดบูรพาภิราม เป็น 3 ใน 9 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์รอบบึงพลาญชัย ส่วนอีก 6 แห่งที่เหลือ ได้แก่ บึงพลาญชัย วัดบึงพลาญชัย ศาลหลักเมือง อนุสาวรีย์พระยาขัติยะวงษา (เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนแรก) วัดสระทอง และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติร้อยเอ็ด ทั้ง 9 แห่ง สามารถจัดเป็นเส้นทางเที่ยวภายใน 1 วันได้ และเพิ่มวัดป่ากุงเป็นไฮไลต์สุดท้าย


สำหรับทุ่งกุลาร้องไห้ที่กล่าวไปในต้นเรื่องก็ไม่ใช่เพียงคำตอบเล่นลิ้น เพราะสามารถไปเที่ยวได้จริงประเภทขับรถชมวิวทุ่งข้าวหอมมะลิที่อร่อยที่สุดในโลก คำอวดนี้พิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ด้วยความหอมที่มากกว่าที่อื่น 2 เท่าหรือ 2 เอพี อันเกิดจากการปลูกในดินเค็มและแห้งแล้ง

ขนาดของทุ่งกุลาร้องไห้กินพื้นที่ 5 จังหวัด คือ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ บุรีรัมย์ และยโสธร แต่พื้นที่ร้อยละ 50 หรือ 1.9ล้านไร่อยู่ในเขต จ.ร้อยเอ็ด คิดเป็น 6 อำเภอ คือสุวรรณภูมิ เกษตรวิสัย พนมไพร หนองฮี โพนทราย และปทุมรัตต์ ซึ่งทุ่งนาจะเปลี่ยนเป็นสีทองประมาณเดือน พ.ย. และจะได้ชมวิถีชีวิตชาวนาช่วงเก็บเกี่ยวด้วย





 





ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/เที่ยวทั่วไทย/318173/ร้อยเอ็ด-เลขเด็ดคนเที่ยววัด (http://www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/เที่ยวทั่วไทย/318173/ร้อยเอ็ด-เลขเด็ดคนเที่ยววัด)