หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : ปัญญาธรรม (3) เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 14, 2014, 09:55:04 pm (https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xaf1/v/t1.0-9/394903_266940330054095_156740578_n.jpg?oh=d3364e47b381cbd7fe313830018e42f3&oe=549F9878&__gda__=1418134953_ec105c137c7e3a2f2e00d98990093188) สมาธิชาวบ้าน : ปัญญาธรรม (3) หากเราอยู่บนโลกโดยเท่าทันต่อมายาสมมติบนโลกนี้แล้ว ถึงแม้จะมีความทุกข์เกิดขึ้นกับเรา เราก็จะทุกข์น้อยลง เพราะเท่าทันทุกข์ได้เร็ว แต่ถ้าเราไม่เท่าทันความทุกข์แล้ว ทุกข์นั้นก็จะทบทวีคูณขึ้นไป เพราะเราหลงเข้าไปติดกับดักของมัน ดังนั้นอย่าไปยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งใดๆ หรือเรื่องราวใดๆ ให้ปล่อยมันไปตามที่มันเป็น เพราะถ้าหากเรายังมัวยึดมั่นถือมั่นอันนั้นอันนี้ สิ่งนั้นสิ่งนี้ เรื่องนั้นเรื่องนี้ ว่าเป็นความสุข ความทุกข์ของเรา เราก็จะทุกข์ โดยที่ไม่มีใครมาทุกข์กับเราด้วย :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: ปล่อยวางเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้เป็นไปตามธรรมชาติ เราไม่ต้องไปรู้สึกยินดียินร้าย ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของจิต ในสุขย่อมมีทุกข์ ในทุกข์ย่อมมีสุข เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน เราย่อมไม่สามารถเลือกหรือรับความสุขได้เพียงอย่างเดียว สิ่งที่ยึดเอาไว้คือความทุกข์ของใจทุกดวง ที่เราทุกข์ก็เพราะใจ หากใจไม่เกิดปัญญาธรรมก็ปล่อยวางไม่ได้ ใจเมื่อเกิดปัญญาธรรมก็สามารถปล่อยวาง จึงหลุดพ้นได้ พอหลุดพ้นแล้วก็รู้สึกว่าเรื่องราวที่เราเคยทุกข์เสียเหลือเกินนั้น มันช่างน่าหัวเราะเสียนี่กระไร ที่เราไปปล่อยให้กิเลสมายาเหล่านั้นมาลากเราเข้าไปทำร้าย (https://scontent-b-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-prn2/v/t1.0-9/p417x417/547506_276417059106422_472277097_n.jpg?oh=b90a5f14ccac01caaacdf910063c1389&oe=548F593E) ถ้าไม่มีสมมติบัญญัติมาบัญญัติหรือรองรับปรากฏการณ์ต่างๆ ในโลกนี้ มันก็จะเป็นปรากฏการณ์เฉยๆ ไม่สามารถลากเราให้ไปพอใจหรือไม่พอใจได้ ใจดวงนี้มันก็สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็นสิ่งที่มันเกิดขึ้นภายในใจ แต่ว่ามันไม่มีอาการปรุง เพราะมันไม่มีสมมติบัญญัติมารองรับปรากฏการณ์ดังกล่าว ใจดวงนี้จึงปรุงไม่ได้ ไม่มีอาการดีใจ เสียใจ ก็จะอยู่แค่กลางเฉยๆ เมื่อจิตไม่ปรุงก็ไม่มีอารมณ์ดีใจ เสียใจ เมื่อใจไม่ปรุงไม่แต่งก็จบสิ้นกันตรงนี้ ถ้าไม่ฝึกพิจารณาธรรมย่อมไม่เกิดปัญญาธรรม ทีนี้พอโลกไม่เป็นไปตามที่เราคิด ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ เราก็ต้องทุกข์เยอะ ในการปฏิบัติธรรมก็จึงจำเป็นต้องพึ่งอุบายกรรมฐานเพื่อให้จิตสงบ ให้ใจของเรานิ่งลงไป ให้ความคิดมันน้อยลง ทีนี้ถ้าใครถนัดอะไรก็ให้ใช้อันนั้น เช่น ถ้าถนัดเอาความรู้สึกไปจับที่ลมหายใจก็ทำไป ใครถนัดเพ่งกสิณก็กำหนดเอาภาพนิมิตมาปรากฏแล้วก็จ้องดูมัน เลือกอันไหนก็ได้ที่จิตจะไม่ส่ายแส่ออกไปหาความคิด แล้วจิตจะสงบออกมาจากความคิด :25: :25: :25: :25: เมื่อจิตถอนออกมาจากความคิด จิตก็จะเริ่มได้สมาธิ ในขั้นแรกๆ ก็จะเกิดปัญญาธรรมในขั้นโลกียธรรมก่อน แต่ถ้าปฏิบัติแล้วรุดหน้าไปเร็วก็จะไปเห็นธรรมในขั้นเหนือโลก หรือที่เรียกว่า “โลกุตรธรรม” นั่นเอง พระพุทธเจ้าทรงสำเร็จพระนิพพานในโลกุตรภูมิอันเป็นธรรมเหนือโลก ซึ่งไม่มีภาษาใดๆ มาอธิบายให้เข้าใจกันได้ เพราะเป็นแค่อาการของใจที่ใจไปดูความคิดที่อยู่ในใจ เป็นปรมัตถธรรม ซึ่งถ้าใครสามารถถอดรหัสอันนี้ได้ก็จะสามารถเข้าถึงพระนิพพานในที่สุด. ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/140914/96131 (http://www.thaipost.net/tabloid/140914/96131) |