สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 06, 2014, 11:24:08 am



หัวข้อ: บทความพิเศษ : อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 06, 2014, 11:24:08 am

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000010328501.JPEG)

บทความพิเศษ : อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕

       ศีล นั้น แปลว่า ปกติ คือสิ่งหรือกติกาที่บุคคลจะต้องระวังรักษาตามเพศและฐานะ
       
       ศีลนั้นมีหลายระดับ คือ ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ และ ศีล ๒๒๗ และในบรรดาศีลชนิดเดียวกัน ก็ยังจัดแยกออกเป็นระดับธรรมดา มัชฌิมศีล(ระดับกลาง) และอธิศีล(ศีลอย่างสูง ศีลอย่างอุกฤษฏ์)
       
       คำว่า “มนุษย์” นั้น คือ ผู้ที่มีใจอันประเสริฐ คุณธรรมที่เป็นปกติของมนุษย์ที่จะต้องทรงไว้ให้ได้ตลอดไปก็คือศีล ๕
       
       บุคคลที่ไม่มีศีล ๕ ไม่เรียกว่ามนุษย์ แต่อาจเรียก “คน” ซึ่งแปลว่า “ยุ่ง”
       
       ในสมัยพุทธกาล ผู้คนมักจะมีศีล ๕ ประจำใจกันเป็นนิจ ศีล ๕ จึงเป็นเรื่องปกติของบุคคลในสมัยนั้น และจัดว่าเป็น “มนุษยธรรม” ส่วนหนึ่งในมนุษยธรรม ๑๐ ประการ
       
       ผู้ที่จะมีวาสนาได้เกิดมาเป็นมนุษย์ จะต้องถึงพร้อมด้วยมนุษยธรรม ๑๐ ประการเป็นปกติ (ซึ่งรวมถึงศีล ๕ ด้วย) รายละเอียดจะมีประการใดจะไม่กล่าวถึงในที่นี้

        :96: :96: :96: :96:

       การรักษาศีลเป็นการเพียรพยายาม เพื่อระงับโทษทางกายและวาจา อันเป็นเพียงกิเลสหยาบ มิให้กำเริบขึ้น และเป็นการบำเพ็ญบุญบารมีที่สูงขึ้นกว่าการให้ทาน ทั้งในการถือศีลด้วยกันเอง ก็ยังได้บุญมากและน้อยต่างกันไป ตามลำดับต่อไปนี้คือ
       
       ๑ . การให้ธรรมทาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถือศีล ๕ แม้จะถือเพียงครั้งเดียวก็ตาม
       ๒ . การถือศีล ๕ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถือศีล ๘ แม้จะถือเพียงครั้งเดียวก็ตาม
       ๓ . การถือศีล ๘ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถือศีล ๑๐ คือการบวชเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา แม้จะบวชมาได้เพียงวันเดียวก็ตาม
       ๔ . การที่ได้บวชเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา แล้วรักษาศีล ๑๐ ไม่ให้ขาด ไม่ด่างพร้อย แม้จะนานถึง ๑๐๐ ปี ก็ยังได้บุญน้อยกว่าผู้ที่ได้อุปสมบทเป็นพระในพระพุทธศาสนา มีศีลปาฏิโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อ แม้จะบวชมาได้เพียงวันเดียวก็ตาม

         :25: :25: :25: :25: :25:

       ฉะนั้น ในฝ่ายศีลแล้ว การที่ได้อุปสมบทเป็นพระในพระพุทธศาสนา ได้บุญบารมีมากที่สุด เพราะเป็นเนกขัมมบารมี ในบารมี ๑๐ ทัศ ซึ่งเป็นการออกจากกาม เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติธรรมขั้นสูง คือการภาวนา เพื่อมรรค ผล นิพพาน ต่อๆไป
       
       ผลของการรักษาศีลนั้นมีมาก ซึ่งจะยังประโยชน์สุขให้แก่ผู้นั้น ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า เมื่อได้ละอัตภาพนี้ไปแล้ว ย่อมส่งผลให้ได้บังเกิดในเทวโลก ๖ ชั้น ซึ่งแล้วแต่ความละเอียดประณีตของศีลที่รักษาและที่บำเพ็ญมา

       

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000010328502.JPEG)


       ครั้นเมื่อสิ้นบุญในเทวโลกแล้ว ด้วยเศษของบุญที่ยังคงหลงเหลืออยู่แต่เพียงเล็กๆน้อยๆ หากไม่มีอกุศลกรรมอื่นมาให้ผล ก็อาจจะน้อมนำให้ได้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ ที่ถึงพร้อมด้วยสมบัติ ๔ ประการ เช่น อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕ กล่าวคือ
       
       ๑. ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๑ ด้วยการไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
       ด้วยเศษของบุญที่รักษาข้อนี้ เมื่อน้อมนำมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะมีพลานามัยแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ไม่ขี้โรค อายุยืนยาว ไม่มีศัตรูเบียดเบียนให้ต้องบาดเจ็บ ไม่มีอุบัติเหตุต่างๆ ที่จะทำให้บาดเจ็บ หรือสิ้นอายุเสียก่อนวัยอันควร
       
       ๒. ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๒ ด้วยการไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เจ้าของมิได้เต็มใจให้
       ด้วยเศษของบุญที่นำมาเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมทำให้ได้เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย การทำมาหาเลี้ยงชีพในภายหน้ามักจะประสบกับช่องทางที่ดี ทำมาค้าขึ้นและมั่งมีทรัพย์ ทรัพย์สมบัติไม่วิบัติหายนะไปด้วยภัยต่างๆ เช่น อัคคีภัย วาตภัย โจรภัย ฯลฯ
       
       ๓. ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๓ ด้วยการไม่ล่วงประเวณีในคู่ครอง หรือคนในปกครองของผู้อื่น
       ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลในข้อนี้ เมื่อนำมาเกิดมาเป็นมนุษย์ ก็จะประสบโชคดีในความรัก มักได้พบกับรักแท้ที่จริงจังและจริงใจ ไม่ต้องอกหัก อกโรย และอกเดาะ ครั้นเมื่อมีบุตรธิดาก็ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อด้าน ไม่ถูกผู้อื่นฉุดคร่าอนาจารไปทำให้เสียหาย บุตรธิดาย่อมเป็นอภิชาตบุตร ซึ่งจะนำเกียรติยศชื่อเสียงมาสู่วงศ์ตระกูล
       
       ๔ . ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๔ ด้วยการไม่กล่าวมุสา
       ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลข้อนี้ เมื่อนำมาเกิดเป็นมนุษย์ จะทำให้เป็นผู้ที่มีเสียงไพเราะ พูดจามีน้ำมีนวลชวนฟัง มีเหตุมีผลชนิดที่เป็นพุทธวาจา มีโวหารปฏิภาณไหวพริบในการเจรจา จะเจรจาความสิ่งใดก็มีผู้ฟังและเชื่อถือ สามารถว่ากล่าวสั่งสอนบุตรธิดาและศิษย์ให้อยู่ในโอวาทได้ดี
       
       ๕ . ผู้ที่รักษาศีลข้อ ๕ ด้วยการไม่ดื่มสุราเมรัย เครื่องหมักดองของมึนเมา
       ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลข้อนี้ เมื่อนำมาเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมทำให้เป็นผู้ที่มีสมอง ประสาท ปัญญา ความคิดแจ่มใส จะศึกษาเล่าเรียนสิ่งใดก็แตกฉานและทรงจำได้ง่าย ไม่หลงลืมฟั่นเฟือนเลอะเลือน ไม่เสียสติวิกลจริต ไม่เป็นโรคสมอง โรคประสาท ไม่ปัญญาทราม ปัญญาอ่อนหรือปัญญานิ่ม

        ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

       อานิสงส์ของศีล ๕ มีดังกล่าวข้างต้น สำหรับศีล ๘ ศีล ๑๐ และศีล ๒๒๗ ก็ย่อมมีอานิสงส์เพิ่มพูนมากยิ่งๆขึ้นตามระดับและประเภทของศีลที่รักษา
       
       แต่ศีลนั้นแม้นจะมีอานิสงส์เพียงไร ก็ยังเป็นแต่เพียงการบำเพ็ญบุญบารมีในชั้นกลางๆ ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น เพราะเป็นแต่เพียงระเบียบหรือกติกาที่จะรักษากายและวาจาให้สงบ ไม่ให้ก่อให้เกิดทุกข์โทษขึ้นทางกายและวาจาเท่านั้น ส่วนทางจิตใจนั้น ศีลยังไม่สามารถที่จะควบคุมหรือทำให้สะอาดบริสุทธิ์ได้
       
       ฉะนั้น การรักษาศีลจึงยังได้บุญน้อยกว่าการภาวนา เพราะการภาวนานั้น เป็นการรักษาใจรักษาจิต และซักฟอกจิตให้เบาบาง หรือจนหมดกิเลสคือ ความโลภ โกรธ และหลง อันเป็นเครื่องร้อยรัดให้บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏ การภาวนาจึงเป็นการบำเพ็ญบุญบารมีที่สูงสุด ประเสริฐที่สุด ได้บุญมากที่สุด เป็นกรรมดีอันยิ่งใหญ่ เรียกว่า “มหัคคตกรรม” อันเป็นมหัคคตกุศล

       
จากส่วนหนึ่งของหนังสือความเข้าใจเรื่องชีวิตและวิธีสร้างบุญบารมี       
จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 165 กันยายน 2557 โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9570000099999 (http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9570000099999)


หัวข้อ: Re: บทความพิเศษ : อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ ตุลาคม 07, 2014, 01:41:55 am
 ขออนุโมทนาสาธุ


หัวข้อ: Re: บทความพิเศษ : อานิสงส์ของการรักษาศีล ๕
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ ตุลาคม 07, 2014, 01:23:20 pm
(http://p4.isanook.com/ho/0/ud/279/1396683/b.jpg)

สังคมผู้คนในยุคปัจจุบันห่างร้างจากการรักษาศีลกันมากชนิดเรียกว่าใครรักษาศีลคือพวกบ้าเต่าล้านทำนองนั้น คนมีศีลหาเพื่อนคบยากสังเกตได้จากการดำเนินชีวิตในทุกวันของกระผมเองได้ประจักษ์ชัดมีทั้งแบบเห็นแก่ตัวไม่ยอมเสียเปรียบเสียสละไม่เป็นมึงไม่ทำกูก็ไม่ทำปัญหางานไม่แก้ไข เล่นพนัน สังสรรค์ดื่มสุรา แอบตีท้ายคร้ว ฉกฉวยหยิบเก็บขายกิน มีเห็นอยู่เป็นประจำ ต้องเรียกว่าทรัพย์สินลูกเมียเป็นอะไรที่หยิบยืมผลัดกันใช้ได้เป็นปกติ ศีล-ธรรมเป็นเรื่องของคนสิ้นหวัง แก่เฒ่าเข้าโลงมากกว่า ผมทุกวันนี้ดำเนินชีวิตประกอบกิจการงานแสนจะเหน็ดเหนื่อยเพราะต้องผจญอยู่คลุกคลีกับคนจำพวกนี้ทุกวันชนิดหัวเดียวกระเทียมลีบ ผมเห็นทุกข์เห็นภัยครับจึงปรารถนาอยู่ครองตนครองธรรมลำพังลำพึงอยู่เดี่ยวโดษคนเราอยู่กันด้วยธรรมนั้นยากอยู่กันด้วยระยำนั้นมากครับ



http://horoscope.sanook.com/59405/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A8%E0%B8%B5%E0%B8%A5-5/