สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

มหาสารคาม - พุทธศาสนิกชนนับพันคนร่วมงานกฐินวัดป่าวังน้ำเย็น หวังสักการบูชาพระพุทธรูปทองคำหนัก 14 กก.เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ด้านเจ้าภาพใหญ่ได้รับสิทธิ์ขี่ช้างแห่องค์กฐิน
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพุทธวนาราม หรือวัดป่าวังน้ำเย็น บ้านวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ญาติโยมจากทั่วประเทศเดินทางมาร่วมงานมหากฐินนับพันคน มีการจัดริ้วขบวนที่ยิ่งใหญ่ ประกอบด้วย ขบวนฟ้อนรำ ขบวนดนตรีอีสาน ขบวนช้าง 4 เชือก โดยผู้ที่นั่งบนหลังช้างคือผู้ที่เป็นเจ้าภาพใหญ่ในการทอดกฐิน นอกจากนี้ ทางวัดป่าวังน้ำเย็นได้อัญเชิญพระพุทธรูปทรงเครื่องหน้าตัก 5 นิ้ว เนื้อทองคำบริสุทธิ์ น้ำหนักกว่า 14 กก. มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ขึ้นประดิษฐานไว้ในบุษบก ร่วมขบวนจากหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง มุ่งหน้าไปยังวัดป่าวังน้ำเย็น
       


       ปรากฏว่าตลอดสองข้างทางมีพุทธศาสนิกชนรอกราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลจำนวนมาก และเมื่อนำพระพุทธรูปทองคำทั้ง 3 องค์เข้าไปประดิษฐานไว้ภายในวัดแล้ว บรรดาญาติโยมที่มาร่วมงานทอดกฐินต่างพากันเข้ากราบสักการะพระพุทธรูปทองคำทั้ง 3 องค์อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งงานทอดกฐินวัดป่าวังน้ำเย็นปีนี้สร้างความปลื้มปิติแก่พุทธศาสนิกชนและคณะศิษยานุศิษย์ เพราะนอกจากจะได้ร่วมทำบุญแล้ว ยังมีโอกาสกราบสักการะพระพุทธรูปทองคำเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวด้วย สำหรับยอดรวมกฐินวันนี้เป็นจำนวนเงิน 7,102,232 บาท
       
       พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำเย็น เกจิชื่อดังของภาคอีสาน กล่าวว่า พระพุทธรูปทองคำทั้ง 3 องค์ ทางวัดร่วมกับญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาจัดสร้างเมื่อต้นปี 2557 ที่ผ่านมา เพื่อนำขึ้นไปประดิษฐานไว้ภายในพระมหาเจดีย์ที่ทางวัดกำลังก่อสร้าง มูลค่ากว่า 90 ล้านบาท โดยพระพุทธรูปทองคำทั้ง 3 องค์นี้จะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบสักการบูชา อยู่คู่เมืองมหาสารคามตราบนานเท่านาน
       



       สำหรับการทอดกฐินเป็นประเพณีที่สำคัญของพุทธศาสนิกชน ถือเป็นกาลทานตามพระวินัยกำหนดกาลไว้ คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสใคร่จะทอดกฐินก็ให้ทอดได้ในระหว่างระยะเวลานี้ ดังนั้นช่วงหลังเทศกาลออกพรรษา ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาการจัดงานประเพณีทอดกฐิน จะเห็นว่าตามวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค ทั้งในเมืองและชนบทมีการจัดงานประเพณีทอดกฐินกันอย่างพร้อมเพรียง บางวัดก็จัดแบบเรียบง่าย เน้นประหยัด เพื่อให้มีปัจจัยเหลือเพียงพอสำหรับนำไปพัฒนาสาธารณูปโภค สาธารณูปการภายในวัด แต่บางวัดก็จัดอย่างใหญ่โตอลังการ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของญาติโยมที่เป็นเจ้าภาพ ซึ่งทางวัดก็ไม่ขัดข้อง

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/local/viewnews.aspx?NewsID=9570000123478 (http://www.manager.co.th/local/viewnews.aspx?NewsID=9570000123478)

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000012754501.JPEG)    st12    :25:
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000012754504.JPEG)    st12    :25:

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000012754502.JPEG)    st12    :25:
(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000012754503.JPEG)    st12    :25:

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000012754501.JPEG)

 เป็นศรัทธา ของ ผู้จัดทำ จัดสร้าง แสดงถึง ความเคารพ และการเจริญของ พระพุทธศาสนา ในประเทศไทย และ ทำให้นึกถึง เมือง อโยธยา ที่มีพระพุทธรูปทองคำหลายวัด แต่ ตอนแพ้ศึก พระพุทธรูปทองคำ ก็หายไป ถูกปล้นไป ยังบ้านเมืองก็มี ที่ถูกแปรเป็นทองก้อน ให้กับ พม่า ก็มีมาก ที่ถูกซ่อนใน พระอิฐ พระปูน ก็มี อย่างเช่น เมืองสระบุรี เห็นที่ซ่อนอยู่ในเนื้อปูน เลื่องชือ ก็คือ วัดพะเยาว์ หน้าตัก 27 นิ้ว ขนาดเท่าคนจริง นับว่ามาถูกค้นพบ กันโดยบังเอิญ ที่ถูกจังหวะ ในปัจจุบัน

   :49: