สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 30, 2014, 11:10:54 am



หัวข้อ: “ศรัทธาบุญ” กับเงินบริจาค
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 30, 2014, 11:10:54 am
(http://www.tnamcot.com/wp-content/uploads/image/2014/10/28/5-300x168.jpg)

“ศรัทธาบุญ” กับเงินบริจาค
Written by: ภรภัทร นีลพัธน์

องค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสก่อนจะเสด็จดับขันธปรินิพพานให้ชาวพุทธยึดมั่นในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ เพื่อเป็นหลักในการดำเนินชีวิต แต่เป็นเรื่องธรรมชาติที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะอยากได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทำให้มองข้ามหลักพระธรรมคำสอน จึงมีคำถามตามมาว่า “การทำบุญเยอะๆ ให้กับวัดได้บุญจริงๆ หรือ?”

กรณีวัดพระบรมธาตุบ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก เก็บเงินสดที่ได้รับจากการบริจาคไว้ในกุฏิเจ้าอาวาส พระครูพิทักษ์บรมธาตุ (พาน คงปาน) มากกว่า 43 ล้านบาท เป็นแบงก์พัน 42 ล้านบาท ที่เหลือเป็นแบงก์ย่อยอื่นๆ ซึ่งต่อมาได้นำเงิน  42 ล้านบาท ฝากธนาคารออมสิน นอกจากนี้ยังพบเงินของวัดฝากไว้ในธนาคารเพิ่มเติมรวมเป็นกว่า 60 ล้านบาท และยังมีเงินบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอีกประมาณ 15 ล้านบาท ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าอาวาสวัดที่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอบ้านตาก ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอบ้านตาก  เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะถือว่าผิดกฎระเบียบข้อห้าม


(http://www.tnamcot.com/wp-content/uploads/image/2014/10/28/6-300x181.jpg)

ในกรณีนี้จะขอกล่าวเพียงการบริจาคเงินของญาติโยมสาธุชนที่มีศรัทธาแรงกล้าต่อวัด เพราะตามข่าวบอกว่าที่วัดเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อทันใจ ใครไปบนบานศาลกล่าวเรื่องอะไรก็มักจะได้ดังประสงค์ ทำให้มีคนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลมาที่วัดนี้ พาลทำให้คิดว่าตกลงที่เอาเงินไปทำบุญกันมากมายขนาดนี้เพราะศรัทธายึดมั่นในพุทธศาสนาหรือเพราะความต้องการของตัวเองบรรลุวัตถุประสงค์เท่านั้น6

องค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสก่อนที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพานให้ชาวพุทธยึดมั่นในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ เพื่อเป็นหลักในการดำเนินชีวิต แต่เป็นเรื่องธรรมชาติที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะอยากได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทำให้มองข้ามหลักพระธรรมคำสอน หากเราน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตอย่างเข้าใจก็จะทำให้เราสามารถฝ่าฟันหรือหลุดพ้นวิกฤติความทุกข์ยากมาได้ด้วยความไม่ลำบากยากเย็นเกินไปนัก


(http://www.tnamcot.com/wp-content/uploads/image/2014/10/28/1-300x180.jpg)

มีคำถามตามมาว่า แล้วการทำบุญเยอะๆ ให้กับวัดแบบนี้ได้บุญจริงๆ หรือ ก็อยากจะยกบทความมาบางส่วนมาจากเว็บไซต์พระเท้าเปล่า (http://www.barefootmonk.org/ (http://www.barefootmonk.org/)) เกี่ยวกับเรื่องการทำบุญหรือให้ทานที่ได้อานิสงส์สูงสุดมาแสดง ณ ที่นี้

  “การทำบุญให้ทาน เปรียบเสมือนทำนาปลูกข้าว  ผู้รับเป็นเหมือนนาข้าว ของที่ให้เหมือนเมล็ดพันธุ์ข้าว กิเลสของผู้รับและผู้ให้เหมือนเป็นวัชพืชในนาข้าว ความตั้งใจของผู้ให้เหมือนความตั้งใจในการหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ตกลงในนา ไม่ให้กระจัดกระจายออกนอกนา
    ศรัทธาของผู้ให้เปรียบเหมือนปุ๋ย ปีติที่เกิดขึ้นกับผู้ให้เปรียบเหมือนน้ำ
    ผลบุญที่ผู้ให้ได้รับเปรียบเสมือนผลผลิตจากการทำนานั้น ผู้รับจึงได้ชื่อว่าเป็นเนื้อนาบุญ
    การทำบุญด้วยวัตถุอันเลิศ ให้กับบุคคลอันเลิศ ปราศจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองใดๆ ทำไปด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่มั่นคง ประกอบด้วยศรัทธาอันดี ถึงพร้อมด้วยปีติเบิกบานใจ ผลบุญที่ได้ย่อมไพบูลย์ฉันนั้น”


 ans1 ans1 ans1 ans1 ans1

    นั่นหมายความอย่างง่ายๆ ว่าในขณะเราทำบุญให้ทาน จิตเรามีความบริสุทธิ์เป็นกุศลมากเท่าใด ผลบุญย่อมมีอานิสงส์แรงกล้ามากเท่านั้น เราชาวพุทธเชื่อในวัฏสงสาร การเวียนว่ายตายเกิด หากเราสร้างสมบารมีไว้มากด้วยจิตที่เป็นกุศล ย่อมส่งผลดีต่อภพหน้าให้มีความสุขมากกว่าความทุกข์แน่นอน
    เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าเราดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท  ยอมรับความจริงที่เกิดในชีวิตว่าเหตุย่อมเกิดจากผล ทุกสิ่งเกิดจากกรรมดี กรรมชั่วที่เราได้เคยกระทำมาในอดีตชาติ แม้เราจะทุกข์ แต่เราก็จะยังมีสติที่จะหาทางออกให้กับชีวิตได้
    ขอให้ทำบุญตามกำลังของเราที่มีอยู่ก็เพียงพอ อย่าถึงกับทุ่มเทมากจนเกินไป เพราะเชื่อว่าทำมากยิ่งได้มาก บุญกุศลอยู่ที่จิตใจของท่านมากกว่าค่ะ.


ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.tnamcot.com/2014/10/28/ศรัทธาบุญ-กับเงินบริจ/ (http://www.tnamcot.com/2014/10/28/ศรัทธาบุญ-กับเงินบริจ/)


หัวข้อ: Re: “ศรัทธาบุญ” กับเงินบริจาค
เริ่มหัวข้อโดย: Hero ที่ พฤศจิกายน 01, 2014, 08:04:53 am
ที่มี ก็มีแต่เก็บ ไม่ได้ค้ำชูพุทธศาสนา ตามพุทธประสงค์
ส่่วนที่ไม่มี ก็ขาดแคลน ไปทุกอย่าง .....

 โลกเรานี้ ถ้าจะสมดุลย์ จริง ๆ คงเป็นเรื่องยาก นะครับ

  :49: thk56