หัวข้อ: แปรงฟันกันทุกวัน รู้ยัง วิธี "แปรงแห้ง" คืออะไร.? ทันตจุฬาฯ มีคำตอบ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 02, 2014, 09:51:11 am (http://www.matichon.co.th/online/2014/10/14147692701414769297l.jpg) แปรงฟันแห้งกันเถอะ "แปรงแห้ง" หมายถึง แห้งทั้งตอนเริ่มแปรง และแห้งเมื่อแปรงเสร็จ มาดูกันว่าต้องทำอย่างไร 1.แห้งตอนเริ่มแปรง หลายคนจะบ้วนน้ำ หรือนำแปรงไปจุ่มน้ำก่อนเริ่มแปรงฟัน ทีนี้พอแปรงเปียก มีน้ำในปากเยอะ ยาสีฟันก็จะละลายอย่างรวดเร็ว กลายเป็นฟองฟูฟ่องทั่วปาก จากนั้นก็ไหลย้อยเป็นแนวลงตามแขนไปจนถึงข้อศอก แล้วก็ต้องรีบวิ่งไปที่อ่าง ยืนก้มหน้าก้มตามุดๆ อยู่กับอ่าง บ้วนออกอย่างรวดเร็ว จบสิ้นการแปรงฟันโดยที่ยังไม่ถึง 2 นาที ลองใหม่นะคะ ก่อนเริ่มแปรงฟัน ถ้ามีเศษอาหารตกค้างให้จำกัดออกก่อน (บ้วนน้ำแรงๆ หรือเขี่ยออก) จากนั้นใส่แปรงเข้าไปในปาก ถูไปบนด้านบดเคี้ยวเสียก่อน ให้ลึกถึงซี่ในสุดทั้งซ้ายและขวาเพื่อกระจายยาสีฟันให้ทั่วปาก จากนั้นจึงค่อยเริ่มกระบวนการแปรงฟัน (แปรงให้โดนคอฟัน ไล่ไปเรื่อยๆ ทั้งด้านนอกและด้านใน ให้ทั่วทุกซี่) แล้วคุณจะพบว่าสามารถแปรงได้นาน และไม่ไหลย้อย อมยาสีฟันไว้ได้นาน ซึ่งหมายถึงฟลูออไรด์จะซึมซาบเข้าสู่ผิวฟันได้ดี การแปรงแห้งแบบนี้ ยังทำให้การแปรงฟันเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ไม่น่าอาย ไม่ต้องมุดหน้าอยู่กับอ่าง แบบที่มีฟองครอบอยู่ทั้งปากอีกต่อไป :49: :49: :49: :49: :49: 2.แห้งเมื่อแปรงเสร็จ มีงานวิจัยเรื่องหนึ่งที่โด่งดังมาก ในปี ค.ศ.1992 ในเมืองนอตติ้งแฮม ประเทศอังกฤษ เขาพบว่า เด็กที่แปรงฟันแล้วบ้วนปากโดยเอาปากไปจ่อกับก๊อกน้ำ (เด็กเกบ้วนชุ่ยๆ) มีฟันผุน้อยกว่าเด็กที่บ้วนปากจากแก้วน้ำ (เด็กดี ตั้งใจบ้วน) หลังจากนั้น ก็มีงานวิจัยอื่นๆ ตามมาจำนวนมากเพื่อตรวจสอบและยืนยันในสิ่งเดียวกัน จนทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศอังกฤษสรุปออกมาเป็นคำแนะนำว่า "ไม่ต้องบ้วนน้ำหลังแปรงฟัน" ลองดูนะคะ พอแปรงเสร็จ (ครบ 2 นาที โดนคอฟันทั้งด้านนอกและด้านในของทุกซี่) บ้วนฟองออก (ถุย) อาจแลบลิ้นออกมายาวๆ แปรงเบาๆ ครั้งเดียวจากโคนลิ้นออกมา จะเป็นลากเอาฟองที่ตกค้างออกจากปากได้ดี แล้วก็ถุยทิ้งอีกที จากนั้นก็ล้างปากเอาฟองที่เลอะๆ รอบปากออกเสีย แล้วก็ถุยทิ้งอีกที เป็นอันเรียบร้อย ถ้ายังรู้สึกไม่เรียบร้อย ก็ทำอะไรโน่นนี่ไปก่อน เช่น อาบน้ำ แล้วก็ถุยออกเป็นระยะๆ เดี๋ยวก็หมด ถ้ายังไม่หมด ให้บ้วนน้ำเพียง 1 ครั้ง หรือฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน อุตส่าห์เก็บฟลูออไรด์ไว้ในปากเสียขนาดนี้ ก็อย่าเพิ่งรับประทานอะไร รวมทั้งน้ำเปล่าด้วย หลังจากนั้น อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง คอลัมน์ เรื่องฟัน Funกับทันตจุฬาฯ โดย รศ.ทญ.ดร.สุดาดวง กฤษฎาพงษ์ ที่มา:มติชนรายวัน 31 ตุลาคม 2557 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1414769270 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1414769270) |