หัวข้อ: สมภารสุดทน ประกาศขายวัด 2 พันล้าน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 12, 2014, 08:22:32 pm (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/880950.jpeg) สมภารสุดทน ประกาศขายวัด 2พันล้าน วันนี้ (12 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดมาบสามเกลียว หมู่ 7 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังมีการโพสต์รูปภาพแผ่นป้ายขนาดใหญ่ประกาศขายวัดเพื่อหนีมลพิษ ส่งต่อกันผ่านโซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย โดยแผ่นป้ายดังกล่าวมีขนาด 2x5 เมตร พื้นหลังสีขาว ใช้ตัวหนังสือสีแดง เขียนข้อความว่า "ประกาศขาย วัดมาบสามเกลียว ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี สาเหตุอมตะเอาสิ่งแวดล้อมมาเบียดเบียนวัดเป็นเวลากว่า10 ปีแล้ว ทางวัดประกาศขายด่วน" ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าวัดมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยในวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา พระครูวิบูลศุภากร เจ้าอาวาสวัดได้นำป้ายไปติด 2 จุด คือ บริเวณหน้าวัด และริมถนนสายพานทอง ในนิคมอุตสากรรมอมตะนครเฟส 9 เพื่อต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหามลพิษที่ทางวัดกำลังประสบ แต่ทางนิคมอุตสาหกรรมฯ และเทศบาลตำบลดอนหัวฬ่อได้เข้าทำการเจรจาขอปลดป้ายลงไปตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันเดียวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/880951.jpeg) (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/880952.jpeg) พระครูวิบูลศุภากร กล่าวว่า วัดนี้มีพื้นที่ 7 ไร่ ตั้งมานานกว่า30 ปี โดยมีตนเป็นเจ้าอาวาสดูแลมาหลายสิบปี ในอดีตที่ยังไม่มีนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร บรรยากาสแถบนี้ดี รายล้อมด้วยธรรมชาติ แต่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อมตะนครได้เกิดขึ้นทำให้พระในวัดได้รับผลกระทบคือเสียงรถราที่วิ่งดังสนั่นตลอด 24 ชั่วโมง แทบจะไม่สามารถจำวัดหรือนั่งสมาธิเจริญภาวนาได้ อีกทั้งมีมลพิษทางเสียงจากโรงงานอุตสาหกรรม และรถที่ชอบเปิดเครื่องเสียงดังๆ รบกวน นอกจากนี้ในบางคราวยังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์คล้ายกลิ่นสารเคมีโชยเข้ามาด้วย จึงเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยที่ไม่มีหน่วยงานไหนยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา ไม่เพียงเท่านี้เมื่อโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นรอบวัด ชุมชนหายไป การบิณฑบาตจึงลำบาก ต้องเดินไปหาชุมชนหลายกิโลเมตร บางวันก็มีโยมใจดีใส่บาตรอาหารให้ได้ฉัน บางวันก็ไม่ได้บาตรเลย ทำให้ขณะนี้ไม่มีพระลูกวัดแม้แต่รูปเดียว มีเพียงเจ้าอาวาสรูปเดียวเท่านั้นที่ดูแลวัด ซึ่งการติดป้ายดังกล่าวอาตมาเป็นผู้คิดเองทั้งหมด เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหา แต่หากอยากมีคนขอซื้อวัดจริงๆ ก็จะขายให้ในราคา 2 พันล้านบาท และจะนำเงินไปซื้อที่สร้างวัดใหม่ซึ่งดูทำเลไว้แล้วบริเวณอำเภอพนัสนิคม ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยสอบถามรายละเอียดอยู่นั้นมีผู้โทรศัพท์เข้ามาติดต่อขอซื้อวัดหลายราย (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/880953.jpeg) (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/880954.jpeg) ด้านนายอภิชาติ เสกธีระ วิศวะกร 8 สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร กล่าวว่า เมื่อทางอมตะนครได้ทราบเรื่องการประกาศขายวัดมาบสามเกลียวได้ติดต่อขอเจรจากับทางเจ้าอาวาสทันที โดยยื่นข้อเสนอว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในเรื่องการเปิดเครื่องเสียงของรถที่สัญจรผ่านวัด ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและ รปภ.ประจำจุดที่รถต้องผ่านวัด หากพบผู้ใดเปิดเพลงเสียงดังจะให้เจ้าหน้าที่เรียกปรับได้ทันทีตามกฎหมาย และหากพบว่าเป็นรถของบริษัทที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครจะทำการส่งจดหมายแจ้งเตือนตามไปด้วย อีกทั้งจะจัดทำป้ายงดใช้เสียง 5 จุด บริเวณใกล้พื้นที่วัด ประการสุดท้ายคือจะทำการปลูกต้นไผ่ตงเป็นรั้วหน้าวัดเพื่อดูดซับเสียงรถที่สัญจรผ่านไปมาให้เบาลง ทั้งนี้ ภายหลังการพูดคุยเจรจากันพบว่า ทุกฝ่ายพอใจ และทางเจ้าอาวาสวัดก็พอใจเช่นกัน จึงทำให้ปัญหาดังกล่าวยุติลงด้วยดี.. ขอบคุณภาพข่าวจาก www.dailynews.co.th/Content/regional/280333/สมภารสุดทน+ประกาศขายวัด+2พันล้าน (http://www.dailynews.co.th/Content/regional/280333/สมภารสุดทน+ประกาศขายวัด+2พันล้าน) |