สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 20, 2014, 09:38:08 am



หัวข้อ: ผ่าตลาด ‘ไสยศาสตร์’ ขยายปมสู่ขบวนการขโมยซากมนุษย์
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 20, 2014, 09:38:08 am

(http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2014/11/19/j8hjajb5ebdbabbh5gcaf.jpg)

ผ่าตลาด ‘ไสยศาสตร์’ ขยายปมสู่ขบวนการขโมยซากมนุษย์

แม้วิทยาการสมัยใหม่จะรุดหน้าไปมาก แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวความเชื่อที่เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับหรือไสยศาสตร์ต่างๆ ไม่ได้ลดน้อยลงเช่นกัน ล่าสุดกรณีการพบซากทารกและชิ้นส่วนอวัยวะ แผ่นผิวหนังลงอักขระ ซึ่งบรรจุลงกล่องพัสดุเตรียมนำส่งจากไทยไปยังปลายทางสหรัฐอเมริกา โดยมีชาวอเมริกัน 2 คน คือ นายไรอัน เอ็ดเวิร์ด แม็ค เพอร์สัน และ นายแดนเนียล จามอน ทานเนอร์ เข้าไปมีส่วนพัวพันในฐานะผู้ส่ง

สิ่งที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นที่มาแห่งความสงสัยว่า วัตถุประสงค์ที่ชายชาวอเมริกันทั้ง 2 คนนี้ ส่งซากมนุษย์ที่ตรวจพบออกจากไทยไปเพื่อวัตถุประสงค์ใด จะเป็นเพียงเจตนาแกล้งเพื่อนอย่างที่ทั้งสองกล่าวอ้าง หรือมีเรื่องราวอื่นใดที่มากกว่านั้น กระทั่งเรื่องมาแดงเมื่อ ภาพวงจรปิดของตึกอดุลยเดชวิกรม โรงพยาบาลศิริราช จับภาพของนายไรอันและนายแดนเนียลขณะลงทะเบียนเข้าชมในพิพิธภัณฑ์ทางการแพทย์ก่อนที่ชิ้นส่วนมนุษย์ทั้ง 5 ชิ้นจะหายไป

 :49: :49: :49: :49: :49:

เกี่ยวกับคดีดังกล่าว พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผู้บังคับการศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งข้อสังเกตในการไขคดี 2 ชาวอเมริกัน ซึ่งถูกกล่าวหาในฐานความผิดร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่ราชการที่มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ หรือรับของโจร และข้อหาพยายามยื่นใบขนสินค้าส่งออกโดยสำแดงบันทึกเรื่องราวอันเป็นเท็จ หลังพบว่าทั้ง 2 เป็นผู้ดำเนินการส่งออกซากชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ออกนอกประเทศไทยครั้งนี้

    "ผมเชื่อว่าเขาเตรียมการมาอย่างดี รูปแบบการก่อเหตุน่าจะมีบุคคลอื่นร่วมขบวนการด้วย โดยจะต้องชี้เป้าว่าชิ้นส่วนอวัยวะที่พบถูกเก็บไว้ที่ไหน จากการตรวจสอบพบว่าเขาเข้ามาไทยเพียงวันเดียวก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งต้องขยายผลว่าการเดินทางเข้าออกไทยของเขาเป็นเช่นไร เชื่อมโยงกับคนไทยก่อนจะเข้ามาก่อเหตุหรือไม่ ถ้าพบว่าติดต่อกับคนไทย จะนำบุคคลนั้นมาสอบสวนขยายผลต่อ รวมทั้งหาความเชื่อมโยงกับบุคคลที่เคยมีประวัติการค้าชิ้นส่วนอวัยวะในประเทศไทยที่เคยจับกุมได้ก่อนหน้านี้”

 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

ส่วนการติดตามไล่ล่าชาวอเมริกันทั้ง 2 คนนั้น นอกจากการตรวจสอบหาสาเหตุและแรงจูงใจในการส่งออกชิ้นส่วนอวัยวะลงอักขระครั้งนี้แล้ว ตำรวจไทยมีความพยายามในการประสานเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงตำรวจสากล ให้ช่วยประสานในการติดตามตัวนายไรอัน และนายแดนเนียลมาดำเนินคดีในไทย

นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือในการตรวจสอบกรณีนี้เป็นพิเศษด้วยเพราะสงสัยว่าทั้ง 2 คนอาจเกี่ยวพันกับการค้าเครื่องรางของขลังหรือไม่ เนื่องจากข้อมูลการสืบสวนพบว่าในปัจจุบันชาวยุโรป รวมถึงอเมริกา บางกลุ่มมีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ และนิยมสะสมเครื่องรางของขลังแปลกๆ อาจเป็นที่มาของการก่อเหตุ

      "อาจเป็นไปได้ว่าฝั่งยุโรป หรืออเมริกา คงจะชอบของแปลกที่ไทยมีอยู่หลายอย่าง อาจเป็นความชอบส่วนบุคคลเลยอยากเก็บสะสมไว้ อย่างของกลางที่เป็นแผ่นผิวหนังลงอักขระ ฝรั่งอาจจะชอบ เพราะเดี๋ยวนี้ชาวอเมริกานิยมสักตามร่างกาย แต่ลักษณะการสักของประเทศเขาไม่เหมือนกับไทย เพราะไทยใส่เรื่องความเชื่อไสยศาสตร์เข้าไปด้วย จึงเห็นว่าแปลก หายาก อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำมาสู่การขโมย โดยอาจต้องการเก็บไว้เอง หรือเอาไปขายต่อ ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาคำตอบให้ได้ว่าตลาดฝั่งอเมริกา และยุโรป นิยมค้าของพวกนี้ในลักษณะไหน มีราคาเท่าไหร่บ้าง หรืออาจเริ่มนิยม อยากทำไสยศาสตร์แบบคนเอเชีย แต่ไม่มีวัตถุดิบจึงมาหาจากไทย" พล.ต.ต.สมบัติ กล่าว

 :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

เป็นคดีที่ไม่ธรรมดา เพราะที่ผ่านต้องยมอรับว่า ในแวดวงของบรรดาผู้ที่นิยมเครื่องรางของขลังและไสยศาสตร์ ให้การยอมรับว่า ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจค้าขายสิ่งของจำพวกนี้มานาน โดยเฉพาะการนำชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ของทารกมาทำลูกกรอก หรือกุมารทอง และอื่นๆ เป็นที่นิยมแพร่หลายไปในหลายประเทศในแถบเอเชีย โดยเฉพาะ สิงคโปร์ และไต้หวัน ให้ความนิยมหาซื้อ แต่ระยะหลังพบว่า ฝั่งประเทศแถบยุโรปและอเมริกาให้ความสนใจ มากขึ้น

วันชัย พงศ์สมเพชร หรือที่รู้จักกันในนาม “โจโจ้อีส กะเทยโอท็อป” หนึ่งในผู้คร่ำหวอดในธุรกิจค้าเครื่องรางของขลัง ให้ข้อมูลว่า มีกลุ่มบุคคลในหลายประเทศให้ความสนใจเรื่องราวไสยศาสตร์โดยเฉพาะเครื่องรางของขลังที่ผลิตในไทยอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่เพียงฝั่งเอเชีย อย่าง สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทเป และจีน ที่นิยมมาหาซื่อเครื่องรางของขลังที่เกี่ยวกับเรื่องการค้าขาย เมตตามหานิยม อย่างลูกกรอก กุมารทอง ในประเทศไทย ระยะหลังยุโรป และอเมริกาสนใจเครื่องรางของขลังประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นด้วย

 :29: :29: :29: :29: :29:

     "ปัจจุบันทั่วโลกนิยิมของขลังในประเทศไทยมาก ไม่ว่า จะ สิงคโปร์ จีน ไต้หวัน โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า จะมาหาของขลังที่ช่วยในเรื่องการค้าขาย เงินทอง เมตตามหานิยม ส่วนของขลังที่นิยมกัน ก็จะเป็นพวก ลูกกรอกคน ลูกกรอกแมว ลูกกรอกวัว กุมารทอง และอีกหลายอย่างแล้วแต่ความเชื่อ ฝั่งยุโรป อเมริกาก็เริ่มนิยมกัน สำหรับซากทารกที่นำมาทำลูกกรอกมีบางกลุ่มที่เข้าไปหาซื้อซากเด็กตามโรงพยาบาล สถานที่รับทำแท้ง หรือไม่ก็ตามวัด" ผู้ค้าเครื่องรางของขลัง เปิดเผย

สำหรับประเทศไทยเคยเกิดคดีลักษณะนี้มาบ่อยครั้ง โดยเมื่อปี 2546 ตำรวจจับกุมผู้ต้องหา 2 คน หลังมีพฤติการณ์ขโมยชิ้นส่วนมนุษย์ออกมาจากโรงพยาบาลศิริราช และนำไปวางขายที่ตลาดนัดคลองหลอด ซึ่งในครั้งนั้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า นำไปใช้ในทางไสยศาสตร์

 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

ต่อมาเมื่อ ปี 2553 เกิดกรณีสะเทือนขวัญพบซากทารกมากถึง 2,002 ศพ  ภายในวัดไผ่เงินโชตนาราม ถนนจันทน์ ซอย 43 แยก 22 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. ซึ่งการสืบสวนขยายผลในครั้งนั้นพบว่า ชนวนเหตุพัวพันกับการนำไปทำเครื่องรางของขลังที่เกี่ยวกับไสยศาสตร์เช่นกัน

ถัดมาเมื่อปี 2555 ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี จับกุม นายโฉว ฮอก กวน สัญชาติไต้หวัน อายุ 28 ปี พร้อมของกลางซากศพทารก 6 ศพ พร้อมกระเป๋าเดินทางสีดำ 1 ใบ ได้ภายห้องเลขที่ 613 โรงแรมเอ็มไพร์ ถนนเยาวราช แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร โดยนายโฉวรับสารภาพว่า รับคำสั่งมาจากคนแซ่เฉิน อยู่ไต้หวันให้มาซื้อซากศพทารกที่ประเทศไทยเพื่อนำไปทำเป็นกุมารทองสำหรับบูชา โดยไปรับมาจากชายชาวไต้หวันที่อยู่ในประเทศไทย

ทั้งนี้แต่ละคดีที่เกิดขึ้นอาจมีความเป็นไปได้ว่า จะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าซากทารก ซึ่งคงเป็นหน้าที่ของตำรวจไทยที่จะไล่ล่าและปราบปรามขบวนการดังกล่าวให้หมดสิ้นไป


ผ่าตลาด ‘ไสยศาสตร์’ ขยายปมสู่ขบวนการขโมยซากมนุษย์ : กมลชนก ทีฆะกุลรายงาน
http://www.komchadluek.net/detail/20141120/196273.html (http://www.komchadluek.net/detail/20141120/196273.html)


หัวข้อ: Re: ผ่าตลาด ‘ไสยศาสตร์’ ขยายปมสู่ขบวนการขโมยซากมนุษย์
เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ พฤศจิกายน 23, 2014, 02:42:29 pm
ไม่มีทางทำลาย ระบบ กลไก พวกไสยศาสตร์ นี้ได้ ตราบใดที่มนุษย์ มีความอยากอยู่

 การที่มีของพวกนี้ เพราะระบบ ความดีใช้ไม่ได้ จึงต้องใช้เล่ห์ มายา เป็นเครื่องช่วย

 อย่างเช่นความรัก เคยเห็นเพื่อน ไปจีบเขาไม่ติด เขาก็มานั่งทำหุ่นขี้ผึ้ง เสกอยู่สองเดือน ๆ ที่สามก็แต่งงานกัน เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ เราเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้ เพราะไม่ดูไม่บริสุทธิ์ใจ เลยต้องฝึกมนต์ขาวไว้ป้องกันตัวบ้างคะ เดี๋ยวโดนเส่นห์ยาแฝด ขึ้นมาจะได้รอด

   ;)