สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

พิจิตร - วัดพลวงพ่อเงินบางคลานยังป่วนไม่หยุด จนต้องขอ ตร.ดูแลความสงบ หลังลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาสรวมตัวประท้วง ผอ.สำนักพุทธเข้าตรวจสอบทรัพย์สินวัด พร้อมประกาศไม่ยอมรับเจ้าอาวาสรูปใหม่ ระบุพระชั้นผู้ใหญ่ไม่ให้ความเป็นธรรมอดีตเจ้าอาวาส ทั้งที่เป็นพระนักพัฒนา หาเงินเข้าวัดได้หลายสิบล้าน กลับถูกปลด
       
       วันนี้ (21 พ.ย.) นายประพันธ์ ตั้นวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร ได้ถือคำสั่งของนายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าฯ พิจิตร ที่แต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร
       
       หลังเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ มีบัญชาให้ปลดพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน และได้ถอดยศถอดตำแหน่งที่เกี่ยวข้องออกด้วยอีก 3 ตำแหน่ง เนื่องจากให้เจ้าคณะภาค พร้อมคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงพบมีความผิดหลายเรื่อง
       


       แต่ปรากฏว่าการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินของวัดหลวงพ่อเงินไม่ราบรื่นอย่างที่คาดหวัง จนต้องขอให้ พ.ต.อ.สุธี เข็มราช ผกก.สภ.โพทะเล จ.พิจิตร ให้นำกำลังตำรวจกว่า 20 นายเข้าป้องกันเหตุความวุ่นวายที่วัด
       
       เนื่องจากมีบรรดาลูกศิษย์ของอดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานจำนวนกว่า 100 คน นำโดยอดีต ส.จ.และเคยเป็นอดีตผู้สมัครนายก อบจ., ผู้สมัคร ส.ว. พากันนำเครื่องเสียงขนาดใหญ่มาตั้งส่งเสียงดังไปรอบวัด พร้อมทั้งจัดเวทีไฮด์ปาร์กตำหนิติเตียนว่า พระผู้ใหญ่ทั้งระดับจังหวัด และระดับภาค ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระดี พระนักพัฒนา จนส่งผลให้วัดมีเงินเก็บหลายสิบล้านบาท รวมถึงปฏิเสธแทนอดีตเจ้าอาวาสว่าไม่เคยนำเงินวัดไปเล่นหุ้น แต่นำไปซื้อพันธบัตร จนได้ดอกผล และเงินก็ไม่ได้สูญหายไปไหน
       
       นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า การที่ถูกร้องเรียนนั้นเป็นการกลั่นแกล้งของอดีตไวยาวัจกร 2 คนที่ถูกให้หมดหน้าที่ภายในวัดหลวงพ่อเงินบางคลานแล้วไม่พอใจ จึงทำเรื่องใส่ร้ายป้ายสี จนมีคำตัดสินที่ไม่มีการสอบสวนดังกล่าว
       
       แต่ในส่วนของฝ่ายคณะสงฆ์ก็ให้ข้อมูลว่า เรื่องนี้ยืดเยื้อเปลี่ยนเจ้าคณะจังหวัดมาแล้ว 4 รูป มีหลักฐานชัดแจ้งและการสอบสวนอย่างรัดกุมรอบคอบ จึงได้มีคำตัดสินตามข้างต้นดังกล่าว
       


       ขณะเดียวกัน พระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ได้มีตราตั้ง หรือคำสั่ง แต่งตั้งให้พระครูพิสุทธิวรากร รองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล ให้เดินทางไปรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานในวันเดียวกัน แต่ปรากฏว่าเจ้าอาวาสรูปเก่ายังไม่ออกจากตำแหน่ง และมีกลุ่มอดีตกรรมการวัด อดีตไวยาวัจกรที่ต้องหมดวาระตามอดีตเจ้าอาวาสพาชาวบ้านมาชุมนุมประท้วง และไม่ยอมรับเจ้าอาวาสรูปใหม่ แถมตะโกนโห่ไล่พูดจาด่าทอว่าเป็นเพราะวัดหลวงพ่อเงินบางคลานมีเงินสด-ทรัพย์สินมากมาย จึงทำให้มีการแย่งผลประโยชน์กันจนถึงขั้นวางแผนปลดเจ้าอาวาส แล้วแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่มารักษาการดังกล่าว
       
       ซึ่งชาวบ้านที่มาชุมนุมมีทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนให้ปลด พร้อมแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ และกลุ่มผู้คัดค้านไม่ให้ปลดแต่ให้เอาเจ้าอาวาสรูปเก่าดำรงตำแหน่งดังเดิม ต่างฝ่ายต่างเข้าเผชิญหน้ากัน โดยมีตำรวจคอยยืนคุมเชิงไม่ให้ปะทะกัน ทำให้วันนี้วัดหลวงพ่อเงินบางคลานที่เคยเงียบสงบมีแต่ความวุ่นวาย ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาปิดทองไหว้พระทำบุญเหมือนอย่างเคย
       
       ด้านพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน นั้น ถือว่าหมดสิทธิอำนาจหน้าที่จากการเป็นเจ้าอาวาสแล้ว มีสภาพเป็นเพียงพระลูกวัด ส่วนพระครูพิสุทธิวรากร รองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล ที่มีคำสั่งแต่งตั้งให้ไปรักษาการเจ้าอาวาส มีอำนาจเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานอย่างถูกต้องตามมติคณะสงฆ์ และเป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง ดังนั้นจะต้องเข้าแก้ปัญหาภายในวัดต่อไป


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000134443 (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000134443)

ตอนนี้สังคม มอง คณะสงฆ์ จังหวัด ยุติธรรม หรือ มั่วนิ่ม

 ถ้าไปอ่านที่พระอาจารย์ เขียนมุมมองพระสงฆ์ คณะสระบุรี ด้วยแล้ว ท่านบอกว่า แค่ขอใบสุทธิในพรรษาที่ 3 เจ้าคณะอำเภอยังกลั่นแกล้ง ท่านไปหนึ่งปี จนต้องให้ลูกศิษย์ไปนำสุทธิมาให้ในอีกปี ที่ 4 เห็นไหมคะว่า แค่นี้ ระดับพระสังฆาธิการ ยังกลั่นแกล้ง พระเล็ก ๆ เลยนะคะ

   ไม่อยากจะสมาคม กับพระที่มายศ คะ ตอนนี้ ขอหาพระป่า พระปฏิบัติโดยตรง ดีกว่า คะ

   ยิ่งสำนักใหญ่ อย่าง ธรรมเกิน ด้วย ไม่ชอบมากเลยคะ ...


    :91: :91: :91: