สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => IT สาระประโยชน์ชาวธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 03, 2014, 08:08:15 pm



หัวข้อ: ข้อมูลใครข้อมูลมัน.! 7ทางเลือก ปกป้องเนื้อหา-ลิขสิทธิ์สุดหวง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 03, 2014, 08:08:15 pm


(http://www.thairath.co.th/media/EyWwB5WU57MYnKOuFIxuZxLYkurojhHrkjFS30uhOCciQ5PocHiXHK.jpg)

ข้อมูลใครข้อมูลมัน.! 7ทางเลือก ปกป้องเนื้อหา-ลิขสิทธิ์สุดหวง

รู้สักหน่อยกับวิธีเบื้องต้นในการรักษาข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ที่คุณเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่ให้โดนขโมยไปใช้ซ้ำ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ รับประกันว่าทำได้ ยาก-ง่ายต้องลองเอง…

ถ้าบอกว่า "อินเทอร์เน็ต" เป็นช่องทางเชื่อมต่อให้เราเข้าถึงข้อมูลจากทุกที่บนโลกก็คงไม่ผิด... เพราะแค่มีอินเทอร์เน็ต การค้นหาข้อมูลหรือเนื้อหาต่างๆ จากปลายทางก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกต่อไป แต่เมื่อมีประโยชน์ ก็ต้องมีโทษด้วยเช่นกัน! และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ถือกำเนิดขึ้น ช่วยให้การกระจายข้อความ เรื่องราว รูปภาพ คลิปวิดีโอ มันแพร่ไปได้รวดเร็วจนเราต้องตกใจเมื่อได้รู้

คำถามคือ... เรามีวิธีป้องกันข้อมูลต่างๆ ที่ลอยเคว้งคว้างบนอินเทอร์เน็ต ไม่ให้ถูกคนอื่นมาฉกไปได้หรือไม่?


(http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1DGoA9cqm54vkcw22MQDtAMBN7uNr.jpg)
ใช้คอมพิวเตอร์ที่ยากแก่การตรวจสอบ ต้องระวังไวรัส เจาะ ล้วงข้อมูล

คำตอบคือ.. ถ้าเป็นข้อมูลบนโซเชียลที่คุณประโคมโพสต์ ทวีต หรืออัพโหลดรูป คลิปลงไปอยู่เป็นประจำ อันนั้นเห็นที่จะป้องกันได้ยาก! แต่หากคุณต้องการสงวนลิขสิทธิ์ให้เรื่องราวเหล่านั้น ก็ทำได้โดยการใส่สิ่งที่เรียกว่าลายน้ำ หรือ เครดิตลงไป ดังเช่นภาพถ่ายของระดับมือโปรที่เขานิยมใส่เครดิตติดเป็นติ่งในมุมใดมุมหนึ่งของภาพ เพื่อแสดงถึงลิขสิทธิ์นั่นเอง ส่วนวิธีการล็อกแบบลงยันต์น่ะบอกเลยว่ามันยากเหลือเกิน... ลำพังการเปิดเผยลงอินเทอร์เน็ตก็เสมือนเป็นการประกาศให้โลกรู้ แถมโซเชียลที่เราใช้กันอยู่ทุกวี่วันนี้ก็เหมือนเอารูปโพสต์ไปฝากคนอื่นไว้ ลอยอยู่บนก้อนเมฆของระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง ซึ่งกลายเป็นภาระการดูแลของผู้ให้บริการต่างๆ ที่จะป้องกันไม่ให้ระบบของตนเองถูกแฮกเกอร์มือดีมาฉกชิงข้อมูลของลูกค้าไป

แต่ถ้าพูดถึงข้อมูลตามเว็บไซต์ บล็อก หรือแม้แต่ข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ อันนั้นเราต้องขอบอกข่าวดี พอจะมีวิธีป้องกันการคัดลอกได้อยู่... ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง ไม่ต้องเสียเวลาเดา ไปอ่านกันเลย...!


(http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1DGoA9cqm54vkcw21GmCfoWSOfyzG.jpg)
รหัสส่วนตัว... คือเป้าหมายที่โจรออนไลน์ต้องการ

Anti-Kobpae
แม้จะมีมาหลายปีแล้ว... แต่ก็ยังจัดว่าเป็นโปรแกรมที่เป็นหน้าเป็นตาคนไทยอีกโปรแกรมทีเดียว สำหรับ Anti-Kobpae (แอนตี้-ก๊อบแปะ) จากผลงานหนึ่งในงานวิจัยของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กับการพัฒนาระบบตรวจสอบความคล้ายกันของเอกสาร ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษทีเดียว โดยระบบสามารถตรวจสอบเอกสารในคลังเอกสารจำเพาะ และเอกสารออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตได้ อีกทั้งระบบยังมีการทำงานในรูปแบบรับ-ให้บริการ (Client-Server) และพัฒนาเป็นลักษณะเว็บแอพพลิเคชั่น โดยสามารถตรวจสอบเอกสารในหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Plain Text (*.txt), Microsoft Word (doc, docx) และ Open Office Writer (odt) สามารถทำสรุปเป็นเปอร์เซ็นต์ความคล้ายกันของเอกสารที่ตรวจสอบ และทำแถบสีที่ข้อความที่คล้ายกันได้อีกด้วย

ใส่ลิขสิทธิ์!
หรือคุณจะลองใช้วิธีบ้านๆ คือการใส่เครดิต ลายน้ำ หรือสัญลักษณ์เพื่อแสดงว่าเนื้อหาตลอดจนคลิปหรือรูปภาพเหล่านั้นเป็นเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ก็ได้ อย่างน้อยก็ถือเป็นเครื่องเตือนใจและป้องกันให้ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ต้องกลายเป็นผู้ละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่รู้ตัว

(http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1DGoA9cqm54vkcw2y3kvJJ7qQvJet.jpg)
การอัพโหลดรูปลงโซเชียลก็เหมือนเพิ่มความเสี่ยงข้อมูล เพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง

เขียนบล็อกก็ต้องระวัง
สำหรับผู้ที่มีเนื้อหาและภาพเป็นลิขสิทธิ์จากการเขียนบล็อกต่างๆ ยิ่งต้องใส่ใจกับเรื่องนี้ให้มาก เพราะเราบอกแล้วว่าการสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตนั้นเป็นเรื่องง่าย... นั่นเท่ากับว่าผลงานของคุณยิ่งมีความเสี่ยงจะถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้มากตามไปด้วย บางเว็บก็มีการอำนวยความสะดวกให้สมาชิกผู้เขียนบล็อกอยู่แล้ว คุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการคัดลอกข้อมูล แต่สำหรับเว็บที่ไม่มีระบบป้องกันเอาไว้ให้... ผู้เขียนอาจจะต้องพยายามเพิ่มเติมอีกซักหน่อย ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกโค้ดป้องกันการคัดลอกเนื้อหา ยุ่งยากตั้งแต่ขั้นตอนแรกก็ยังดีกว่าต้องมาวุ่นวายเมื่อพบว่าเนื้อหาของคุณถูกละเมิดลิขสิทธิ์ไปนะ

โปรแกรมสำเร็จรูปก็มีระบบป้องกัน
ถือเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ว่าโปรแกรมใกล้ตัวเราก็มีระบบแบบนี้ด้วยเหรอ? ยกตัวอย่างเช่น Microsoft Word 2010/2013 เขียนแค่คุณคลิก File ที่อยู่มุมบนซ้ายมือ และเลือก Info ตามด้วย Encrypt with Password จากนั้นระบบจะให้คุณใส่ Password ซึ่งคุณต้องยืนยัน และเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดฉุกเฉินว่าคุณลืมรหัสที่ตั้งขึ้นนั้น คุณอาจจะแอบเซฟข้อมูลไฟล์นั้นเก็บไว้ในที่ปลอดภัยและเป็นความลับอีกซักที่นึงก็เข้าที หรืออยากจะลบรหัสนั้นซะก็ได้... แค่เข้าไปตามขั้นตอนเดิม จากนั้นก็แค่เลือก Protect Document แล้วตามด้วย Encrypt with Password และลบรหัสนั้นออกไป พร้อมทั้งกด OK แค่นี้ก็กลับสู่ภาวะปกติทุกประการ อ่อ… เวอร์ชั่นอื่นก็ทำได้เหมือนกัน อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อย แต่ทุกวิธีมีขั้นตอนสอนในอินเทอร์เน็ตชัวร์!


(http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1DGoA9cqm54vkcw2xSGFDrUMUcy0e.jpg)
วายร้ายออนไลน์บางราย แพร่ไวรัสจากเน็ตและไดรฟ์เก็บข้อมูล

ใช้ไฟล์ PDF ช่วยได้
นอกจาก Microsoft Word ที่คุณๆ ใช้พิมพ์งานแล้ว ขั้นตอนนี้คุณจำเป็นต้องมี Adobe Acrobat X Pro อยู่ในคอมพิวเตอร์ด้วย เพื่อเปลี่ยนเนื้อหาจาก Word เป็นสกุล PDF ได้ทันที โดยเข้าโปรแกรม Word แล้วเลือก Acrobat และ Create PDF พร้อมทั้งตั้งชื่อไฟล์ตามใจคุณและเลือกที่จัดเก็บไฟล์แล้วกด Save ได้เลย หลังจากนั้นคุณก็จะได้ไฟล์ PDF สำหรับนำไปใช้ไม่ให้คนอื่นคัดลอก! แค่เลือกตั้งค่าไม่ให้เปลี่ยนแปลงเนื้อหานั่นเอง ขณะเดียวกันคุณยังสามารถเติมลิขสิทธิ์ลงไปในเนื้อหาได้อีกด้วย สบายใจหายห่วงเรื่องการคัดลอกเนื้อหาไปได้เลย

เทคนิคเทพปกป้องข้อมูล
รายละเอียดแนวนี้อาจจะดูซับซ้อนและวุ่นวายไปซักหน่อย เพราะถ้าไม่ใช่เซียนคอมพิวเตอร์แล้วก็ดูว่าจะต้องกุมขมับกันนานทีเดียว... แต่ก็ถือเป็นวิธีที่น่าสนใจเพราะสามารถป้องกันไม่ให้คนอื่นมา Copy ไฟล์ ข้อมูลของเราไปได้ง่ายๆ โดยหลังจากที่เราเปิดคอมพิวเตอร์ก็ต้องเข้าไปในส่วนที่เรียกว่า Registry Editor และคลิก Run และพิมพ์คำว่า Regedit พร้อมทั้งคลิกที่หัวข้อย่อย HKEY_LOCAL_MACHINE/SYSTEM/CurrentControlSet/ Control/StorageDevicePolicies หลังจากนั้นก้ต้องสร้าง Config ขึ้นใหม่ โดยคลิกขวาที่พื้นที่ว่างด้านขวามือและเลือกเมนู Edit และ New ตามด้วย DWORD จากนั้นก็ตั้งชื่อไฟล์ว่า WriteProtect และดับเบิล Config ที่เราสร้างขึ้นพร้อมทั้งตั้งค่าเป็นเลข 1 เมื่อเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้วก็ให้ออกจากโปรแกรม แล้ว Restrat เครื่องซักรอบนึงก็เป็นอันเสร็จ... ซึ่งวิธีนี้ประโยชน์ทางตรงไม่ใช่แค่ป้องกันการคัดลอกข้อมูล แต่ยังช่วยป้องกันไวรัสจากแฟลชไดรฟ์ได้อีกทางหนึ่งด้วย... ยุ่งยากแต่ช่วยให้คอมพิวเตอร์ปลอดภัย ยังไงก็น่าจะคุ้ม


(http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1DGoA9cqm54vkcw2wg6MYjlfNJvmu.jpg)
อย่ายอมตกเป็นเหยื่อ หากคุณยังมีทางเลือก

ดาวน์โหลดซักโปรแกรม...
โปรแกรมดีๆ ที่มีประโยชน์นั้นยังมีอีกมาก คุณอาจจะลองค้นหาจากเสิร์ชเอนจิ้นต่างๆ ดูก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะพบโปรแกรมจำพวกป้องกันการคัดลอกข้อมูลบนแฟลชไดรฟ์ซะมากกว่า ไม่ต้องเสียเงินซื้อแพงๆ แค่ลองหาข้อมูลมากหน่อย อ่านรีวิวหรือค้นหาข้อมูลโปรแกรมเหล่านั้นอีกนิด คุณอาจจะได้โปรแกรมดีๆ ไว้ใช้ฟรีๆ เลยก็ได้นะ

อยากปกป้องข้อมูลสำคัญของคุณดูบ้างไหม อาจต้องเสียเวลาตั้งค่า เรียนรู้ขั้นตอนต่างๆ ไม่นาน แต่รักษาลิขสิทธิ์และผลงานของตัวเองไว้ได้ ก็น่าจะลองดู...!


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/content/466894 (http://www.thairath.co.th/content/466894)