หัวข้อ: แก้จุดบอดศาสนา กู้ศรัทธาชาวพุทธ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 04, 2015, 01:15:45 pm (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/923934.jpeg) แก้จุดบอดศาสนา กู้ศรัทธาชาวพุทธ “อยากจะฝากถึงประชาชนว่า ศีล 5 ข้อให้ปฏิบัติเพียงข้อใดข้อหนึ่งได้ ก็ถือว่า ได้รักษาศีล และค่อย ๆ ปฏิบัติให้เกิดเป็นกิจวัตร เชื่อว่า ศีล จะทำให้เกิดมงคลแก่ตนเอง “อยากจะฝากถึงประชาชนว่า ศีล 5 ข้อให้ปฏิบัติเพียงข้อใดข้อหนึ่งได้ ก็ถือว่า ได้รักษาศีล และค่อย ๆ ปฏิบัติให้เกิดเป็นกิจวัตร เชื่อว่า ศีล จะทำให้เกิดมงคลแก่ตนเอง ต่อสังคม ส่งผลให้เกิดความปรองดอง สมานฉันท์ สร้างสันติสุขให้แก่ประเทศชาติได้” สัมโมทนียกถา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ปีใหม่นี้ขอให้คนไทย ยึด “ศีล 5” เป็นมาสู่การปฏิบัติ สร้างมงคลให้ตนเอง ตามสัมโมทนียกถา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ซึ่งไม่มีพรใดในโลกนี้จะดีเท่ากับการปฏิบัติตนของเราเองว่าจะเลือกทางดี หรือทางเสื่อม เพียงขอให้มีสติ และใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิต เชื่อว่า ปี 2558 จะเป็นปีมงคลของทุกคน :96: :96: :96: :96: :96: เมื่อขึ้นเรื่องด้วยพระกันแล้วคงต้องมาดูภาพรวมงานศาสนาในรอบปี 2557 โดยเฉพาะการดำเนินงานของ มหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งเปรียบเสมือนคณะรัฐมนตรีของคณะสงฆ์ไทย โดยมีหน่วยงานราชการอย่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เป็นผู้รับสนองงาน มส. ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในฐานะผู้นำคณะสงฆ์ไทย มีแนวคิดผลักดันโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ซึ่งถือเป็นโครงการที่ดี ที่พระมหาเถระออกมาเชิญชวนพุทธศาสนิกชนด้วยตัวของท่านเอง ให้หันกลับมารักษาศีล 5 ถึงแม้ว่าการดำเนินงานในช่วงต้นจะดูไม่ค่อยกระเตื้องเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะ พศ.ยังไม่เห็นภาพการทำงานว่าต้องเดินหน้าอย่างไร แต่เมื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้ทำเป็นแบบอย่างในการกระตุ้นพุทธศาสนิกชนอย่างต่อเนื่อง พศ.ก็สามารถสานต่อโครงการนี้ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่อาจจะยังขาดการต่อยอดสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆมาผลักดันให้ชาวพุทธรักษาศีล 5 เพิ่มขึ้น หากโครงการนี้ทำได้สำเร็จจะสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศได้เป็นอย่างดี :41: :41: :41: :41: ขณะที่การปกครองคณะสงฆ์ไทยที่ผ่านมาก็เจอปัญหาถาโถมไม่น้อย ทั้งกรณีพระสงฆ์ สามเณรประพฤติตนไม่เหมาะสมผ่านโซเชียลมีเดีย อย่างเฟซบุ๊ก ยูทูป กระทั่งเกิดภาพลบและวิกฤติศรัทธาต่อพระสงฆ์ มีการจับผิดรายวัน และร้องเรียนมายัง มส.และพศ.อย่างไม่ขาดสาย ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ดูท่า มส. และ พศ.แล้ว ก็ยังแก้ไขไม่ตรงจุด และไม่มีการลงโทษที่เด็ดขาด ส่งผลให้ประชาชนมองว่า มส. และ พศ. อ่อนแอ เป็นเพียง เสือกระดาษ ไม่สามารถจัดการพระสงฆ์ประพฤตินอกรีตได้อย่างจริงจัง จนชาวพุทธต้องออกมาแจ้งเตือนกันเองผ่านโลกออนไลน์ :91: :91: :91: :91: :91: อย่างกรณี “เจ้าคุณเสนาะ” หรือ พระพรหมสุธี เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. ก็เช่นกันเป็นอีกตัวอย่างที่ มส. ต้องใช้เป็นกรณีศึกษา เพื่อทำให้การปกครองคณะสงฆ์มีมาตรฐานภายใต้พระธรรมวินัยเดียวกัน เพราะพระระดับ มส.ยังถูกร้องเรียนว่ากระทำไม่เหมาะสม กลับไม่มีการตรวจสอบที่จริงจัง ไม่มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงให้พุทธศาสนิกชนได้รับรู้เรื่องที่ร้องเรียนกล่าวหากันนั้นมีมูลความจริงมากน้อยเพียงใด หาก มส. และ พศ.ยังใช้แนวทางเช่นนี้ต่อไปยิ่งทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความคลางแคลงใจในการบริหารงานคณะสงฆ์ยิ่งขึ้น ความศักดิ์สิทธิ์แห่งรัฐมนตรีสงฆ์ก็ลดความน่าเชื่อถือลงไป และ การปิดเงียบในยุคนี้เปรียบเสมือนระเบิดเวลาทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อคณะสงฆ์ สำหรับการแก้ปัญหาพระสงฆ์ประพฤติไม่เหมาะสมนั้น ควรปฏิรูปตั้งแต่กระบวนการคัดกรองคนเข้ามาบวช เมื่อบวชแล้วต้องมีการให้ความรู้ด้านพระธรรมวินัยแก่พระสงฆ์ สามเณร รวมทั้งเน้นการปฏิบัติตนให้เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาเมื่ออุปัชฌาย์บวชให้แล้ว ก็จะปล่อยให้อยู่กันตามสะดวก ซึ่งวัดไหนมีระบบอบรมพระใหม่ ผู้บวชก็จะได้รับประโยชน์ไป หากทุกวัดมีระบบอบรมพระสงฆ์ สามเณรอย่างจริงจัง เชื่อว่าปัญหาพระนอกรีตจะลดลงได้ :03: :03: :03: :03: :03: ส่วนการให้ความรู้พุทธศาสนิกชนก็เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะปัจจุบันชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจว่า พระสงฆ์เป็นพระอรหันต์ ทำผิดอะไรไม่ได้ ทั้งที่จริงแล้ว พระสงฆ์ก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งที่มาฝึกตน ที่มีผิดพลาดกันได้ ดังนั้นคณะสงฆ์และ พศ. ต้องให้ความรู้ด้าน พระธรรมวินัยแก่ประชาชนด้วยว่า พฤติกรรมนี้ผิดพระธรรมวินัยแค่ไหน เพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาในการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา ไม่ใช่เพียงเน้นแค่การจับผิดพระสงฆ์ ที่สำคัญคณะ :96: :96: :96: :96: สงฆ์ควรหาวิธีการใหม่ ๆ เผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้พุทธศาสนิกชนยึดหลักธรรมเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่นับถือเครื่องรางของขลัง อภินิหาร เพราะเมื่อพุทธ ศาสนิกชนเข้าถึงหลักธรรมแล้ว หากพระสงฆ์ที่นับถือกระทำผิด ชาวพุทธจะเข้าใจได้ว่า เป็นเรื่องของตัวบุคคล มิใช่ “ศาสนาเสื่อม” ทั้งหมดนี้เป็นเพียงปัญหาส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีพระสงฆ์ สามเณรดี ๆ อีกมากในพระพุทธศาสนาที่เหมาะแก่การกราบไหว้ หลังจากนี้ไปชาวพุทธคงต้องดูว่าบทบาทคณะสงฆ์ไทยภายใต้การบริหารงานของมส.จะเดินหน้าไปทิศทางใดกับปัญหาใหม่ “ภิกษุณี” ที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ พร้อมทั้งตั้งความหวังกับ นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนใหม่ ว่าจะเอาจริงเอาจังกับงานพระพุทธศาสนามากแค่ไหน โดยเฉพาะการศึกษาคณะสงฆ์ ซึ่งถือว่า เป็นนโยบายสำคัญที่ พศ.จะเดินหน้าในปี 2558 ans1 ans1 ans1 ans1 ans1 อย่างไรก็ตามสิ่งดี ๆ ที่คณะสงฆ์ได้สร้างประโยชน์ยังมีอีกมาก ปัญหาที่เกิดเหมือนจุดบอดเล็กของพระพุทธศาสนาที่ต้องเร่งแก้ไขให้ตรงจุดไม่ให้ลุกลาม หากทำได้สำเร็จจะกู้วิกฤติศรัทธาชาวพุทธที่มีต่อพระสงฆ์ และวัด เชื่อว่าคนรุ่นใหม่ยังอยากเข้าวัดทำบุญ ปฏิบัติธรรมกันอีกมาก. ทีมข่าวการศึกษา ขอบคุณภาพข่าวจาก www.dailynews.co.th/Content/education/290905/แก้จุดบอดศาสนากู้ศรัทธาชาวพุทธ (http://www.dailynews.co.th/Content/education/290905/แก้จุดบอดศาสนากู้ศรัทธาชาวพุทธ) หัวข้อ: Re: แก้จุดบอดศาสนา กู้ศรัทธาชาวพุทธ เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ มกราคม 04, 2015, 01:54:10 pm >:( >:( >:(
เดี๋ยวนี้ ต้องพยายาม ทำใจ เมื่อเห็น พระเณร ที่ไม่ดี ทำผิด ไม่สมควร ในเฟค เห็นหลาย เฟค ส่วนใหญ่ ก็จะปิดหนี ไปเลยคะ thk56 หัวข้อ: Re: แก้จุดบอดศาสนา กู้ศรัทธาชาวพุทธ เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ มกราคม 05, 2015, 09:17:14 am น่าจะต้องเพิ่ม ชั่วโมง ศิลธรรม เข้าไปในแบบเรียน
เข้าไปแทรกตั้งแต่ ปฐมวัย-มหาวิทยาลัยเลย ...............แต่ถ้าหากว่า อะไรมันไม่ดี โลกนั้นก็จะปรับเองเป็นอัตโนมัติด้วยธรรมชาติของตัวมันเองอยู่แล้ววิธีหนึ่ง.... |