สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

วัดอรุณฯ จัดพิธีบวงสรวงก่อนการบูรณะใหญ่ซุ้มประตูพระอุโบสถ และยักษ์วัดแจ้ง ในโครงการบูรณะศาสนสถานในวัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สนองพระราชประสงค์ของในหลวง

วันนี้ (9 ม.ค.) ที่วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ ได้มีพิธีบวงสรวงก่อนการบูรณะซุ้มประตูพระอุโบสถ และยักษ์ด้านหน้าทางเข้าพระอุโบสถ หรือที่รู้จักกันว่า “ยักษ์วัดแจ้ง” โดยพระศากยปุตติยวงศ์ (ต่อศักดิ์ สุนฺทรวาที) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณฯ กล่าวว่า การบูรณะในครั้งนี้เป็นโครงการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีโครงการบูรณะศาสนสถานของวัดต่างๆที่พระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ทรงสร้างขึ้น เป็นการดำเนินงานตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา

โดยในส่วนของวัดอรุณฯทางสำนักงานทรัพย์สินฯได้เริ่มการบูรณะพระอุโบสถแล้ว และก่อนที่จะดำเนินการบูรณะยักษ์ และซุ้มประตู จึงต้องมีการทำพิธีบวงสรวงก่อนเพื่อความเป็นสิริมคล และเพื่อให้การบูรณะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ทั้งนี้สำหรับยักษ์ด้านหน้าทางเข้าพระอุโบสถ หรือที่ประชาชนรู้จักกันว่า ยักษ์วัดแจ้งนั้น เป็นที่ศรัทธาของประชาชนที่เดินทางมายังวัดอรุณฯอย่างมาก โดยเชื่อกันว่าหากมาขอพรเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สิน เงินทอง แล้วจะประสบผลสำเร็จ


พระศากยปุตติยวงศ์  กล่าวด้วยว่า ยักษ์วัดแจ้ง มีอยู่ 2 ตน ยืนเฝ้าซุ้มประตูยอดมงกุฎ ทางเข้าสู่พระอุโบสถ โดยมือทั้งสองกุมกระบอง ยักษ์กายสีขาวชื่อ สหัสเดชะ และยักษ์กายสีเขียวชื่อ ทศกัณฐ์ ปั้นด้วยปูน ประดับกระเบื้องเคลือบสีเป็นลวดลายเครื่องแต่งตัว ซึ่งคนโบราณเชื่อกันว่า ยักษ์ที่เฝ้าซุ้มประตูมีอิทธิฤทธิ์ในการขับไล่ภูติ ผี ปีศาจ จึงมีหน้าที่ปกปักษ์รักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีค่าที่อยู่ด้านใน สำหรับยักษ์คู่นี้ สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยมีตำนานเล่าต่อๆกันมาว่า การเกิดท่าเตียนขึ้น เป็นเหตุมาจาก ยักษ์วัดโพธิ์ กับยักษ์วัดแจ้งทะเลาะกัน จนทำให้ท่าน้ำบริเวณนั้นเตียนโล่ง จนเป็นที่มาของคำว่าท่าเตียน

ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.dailynews.co.th/Content/education/292839/บูรณะใหญ่+“ยักษ์วัดแจ้ง”+ตำนานท่าเตียน (http://www.dailynews.co.th/Content/education/292839/บูรณะใหญ่+“ยักษ์วัดแจ้ง”+ตำนานท่าเตียน)

สิ่งที่หาดูได้ยากนั้นก็ต้องมีการอนุรักษ์กันไว้เป็นอย่างมาก

     รูปนี้มีการใส่ลวดลายปูน   คืออารมณ์คนรุ่นเก่า

       สมัยใหม่เป็นปูนเรียบ    แต่ใช้ตัดสีเป็นลวดลายแทน คือเอาง่ายๆ กว่าแต่ก่อน

   แสดงว่าในอดีตมีความพยายามสูงกว่า.....นั่นเป็นเครื่องบ่งถึงเรื่อง"ใจ"......อันปราณีต