หัวข้อ: “โลกสวย” ด้วยอินเทอร์เน็ต เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2015, 10:15:31 pm (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/954178.jpeg) “โลกสวย” ด้วยอินเทอร์เน็ต วันนี้อยากพูดถึงอีกลักษณะหนึ่งของชาวเน็ต ลักษณะนี้ถูกพบเจอได้ในหลายฟอรั่มสาธารณะ ลักษณะที่ว่านี้ คือ “โลกสวย” ซึ่งก็มีระดับทั้งความหมายในแง่ดี ไปจนถึงความหมายเชิงกระทบกระเทียบประชดประชันเสียดสีตะบี้ตะบันเหน็บแนม ในเชิง “เว่อร์” ครั้งที่แล้ว ได้แนะนำให้รู้จักลักษณะหนึ่งของชาวเน็ตไปแล้ว คือลักษณะ “ติ่ง” ซึ่งมีทั้งติ่งบนเน็ตและติ่งในชีวิตจริง ติ่งคือพวกรักอะไรก็ตาม ดารา ช่อง ค่ายหนัง ค่ายเพลง (ส่วนใหญ่เป็นหมวดบันเทิง) รักเข้าไปโดยไม่มีเหตุผล พร้อมเถียงแทนหรือแก้ตัวแทนสิ่งที่ตัวเองรักแบบหัวชนฝา วันนี้อยากพูดถึงอีกลักษณะหนึ่งของชาวเน็ต ลักษณะนี้ถูกพบเจอได้ในหลายฟอรั่มสาธารณะ ลักษณะที่ว่านี้ คือ “โลกสวย” ซึ่งก็มีระดับทั้งความหมายในแง่ดี ไปจนถึงความหมายเชิงกระทบกระเทียบประชดประชันเสียดสีตะบี้ตะบันเหน็บแนม ในเชิง “เว่อร์” คือใครที่ถูกเรียกว่า “โลกสวย” ก็ถูกมองว่าเป็นพวก “เว่อร์”นั่นไง :49: :49: :49: :49: คำว่า “โลกสวย” หมายความว่าอย่างไร จริงๆ คำนี้เป็นคำที่อธิบายค่อนข้างยาก เพราะความหมายมันกว้าง แต่คนใช้และคนถูกใช้จะเข้าใจได้ด้วยบริบทของการใช้มันทันที อาจเรียกได้ว่า ความหมายของมันคือ “การมองโลกในแง่ดีเกินกว่าที่มันเป็นจริง และมีความพยายามจะทำให้โลกนี้เป็นสังคมอุดมคติ หรือสังคมยูโทเปีย” ซึ่งโลกที่จะทำให้มันเป็นสังคมอุดมคติที่ว่า ก็ไม่เกินโลกเสมือนบนอินเทอร์เน็ตนี่แหละ เพราะเป็นโลกที่เราเลือกจะเผยความจริงด้านใดด้านหนึ่งออกมาสู่ “สังคมเสมือน” ได้ ง่าย และหลายคนก็เลือกจะเผยด้านนางฟ้า ชาวสวรรค์ออกมาดีกว่า เพราะโลกความจริงมันเป็นโลกที่บางทีเราเลือกจะเงียบเนื่องจากทำอะไรไปก็มีผล กระทบ คนโลกสวยจะเป็นพวกไม่ยอมรับต่อความชั่วร้าย ไม่มี “หยวนๆ” ต่อสิ่งไม่ถูกต้องทั้งปวง และมองว่า ในโลกเบี้ยวๆ บูดๆ ใบนี้เป็นโลกที่เราต้องร่วมกันสร้างศีลธรรมที่ดีงามขึ้นมาให้ได้ แม้จะสร้างในโลกจริงไม่ได้ ก็ขอให้มันเกิดขึ้นในโลกเสมือนก็ยังดี พอได้ทำตัวโลกสวยแล้ว บางครั้งก็รู้สึกว่า ตัวเองดูดีหรือมีศีลธรรมกว่าใคร ลักษณะแบบไหน คุณถึงจะเรียกว่า เป็นคนโลกสวย ? :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: อันนี้ขอตอบง่ายๆ จากที่เคยเห็นตามฟอรั่ม (หรือเว็บบอร์ด) สาธารณะต่างๆ ความหมายของโลกสวยเขาก็ให้ไม่ค่อยจะเหมือนกันเท่าไหร่ อย่างที่บอกคือ คนใช้กับคนถูกใช้จะเข้าใจ และความรู้สึกของมันกลายเป็นคำเหน็บ คำด่า มากกว่าคำชื่นชม ลักษณะของโลกสวยเท่าที่ประมวลได้คือ 1.คนที่มองโลกในแง่ดีเกินจริง ไม่ สนใจว่า โลกมันจะสีเทา มันจะเบี้ยวๆ บูดๆ แต่เชื่อมั่นในศักยภาพของมนุษย์ ว่า ถ้าตั้งใจทำให้โลกมันสวยแล้ว ก็สามารถทำได้ ความมั่นใจนั้นเริ่มจากการแสดงออกด้วยตัวเองก่อน เช่นว่า เวลาใครมาตั้งกระทู้ปรึกษาเรื่องเหตุด่วนเหตุร้ายอะไร พวกโลกสวยก็จะให้มองแบบ “นาตาลี เกลโบว่า” อดีตนางงามจักรวาล เข้าไว้ คือ ต้องมองด้านที่เรามี เปรียบกับน้ำครึ่งแก้ว อย่ามองส่วนที่ขาด แต่ต้องมองส่วนที่มีไว้ก่อน จะได้รู้ว่า ทางหนีที่ไล่ในการแก้ปัญหาใดๆ ในโลกนี้มันมีอยู่ทั้งนั้น 2.คนโลกสวยมักจะมีลักษณะประนีประนอม และยืนหยัดเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อย่างเช่น ใครสักคนที่หน้าตางั้นๆ มาโพสต์รูปตัวเองลงเน็ต และถามว่า “หน้าอย่างผมพอเป็นดาราได้ไหม” พวกที่มองโลกตามความเป็นจริงหรือมองโลกเลวร้าย เขาก็จะบอกว่า เป็นไม่ได้เพราะไม่เด่นพอ หรือว่า วิพากษ์วิจารณ์ ตลกขบขันกับหนังหน้าคนโพสต์กันสนุกสนาน แต่พวกโลกสวยจะคอยให้กำลังใจว่า เจ้าของกระทู้ก็ดูน่ารักน่าหยิกนะ แม้จะยังไม่ถึงขั้นหล่อขั้นสวยเทพ 3.พวกโลกสวยคือพวกที่ชอบพูดว่า ในชีวิตจริงตัวเองทำดีอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้หรอกว่า มันจริงหรือไม่ อาจเป็นเพียงแค่การ “สำเร็จความใคร่ทางจริยธรรม” ใน โลกไซเบอร์เอาก็ได้ พวกโลกสวยจะโพสต์ว่า ตัวเองมีความกล้าในการต่อสู้กับความไม่ถูกต้องหรือความชั่วร้ายทั้งปวง และปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคมอย่างเคร่งครัด เช่น มักจะโพสต์ว่า เวลาขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ ถ้าเจอผู้หญิงต้องยืน หนุ่มโลกสวยจะบอกว่า ตัวเองลุกขึ้นให้แก่เด็ก สตรี คนชรา หรือเวลามีปัญหากับร้านค้า สินค้า บริการ ก็จะกล้าcomplainแบบคนมีการศึกษาและมารยาท..คนพวกนี้ชอบพูดถึงความดี และชอบโพสต์บอกโลกว่า ตัวเองจะไม่มีทางทำผิดกฎหมาย ผิดจารีตประเพณีใดๆ ทั้งสิ้น ยึดมั่นค่านิยมที่งดงามอย่างเคร่งครัด 4.พวกโลกสวย คือพวกที่มีจิตใจอ่อนโยน และอ่อนไหวผิดมนุษย์มนาทั่วไป ประเภทเจอดาราถูกล้อ ก็สงสารจนน้ำตาจะไหล หรือเจอหมาแมวได้รับความเดือดร้อน โดนรังแก ก็โกรธแทน แช่งชักหักกระดูกคนที่ทำ บางทีวาจาของพวกโลกสวยเวลาสำเร็จความใคร่ทางศีลธรรมก็น่าขนลุกอยู่...ง่ายๆ คือคนพวกนี้จะอ่อนไหวกับ “ดราม่า” ได้อย่างรวดเร็ว เพราะเสพติดการอยู่ในโลกเสมือนมากเกินไปจนรู้สึกเรื่องมันใกล้ตัวมาก 5.พวกโลกสวย บางครั้งก็ยอมรับโลกที่มันเป็นสีเทาๆ เบี้ยวๆ บูดๆ ได้บ้าง แต่พวกนี้จะไม่ยอมให้สีเทานั้น หรือความบิดเบี้ยวนั้นมีมากขึ้น เช่น ยอมรับได้ระดับหนึ่งถึงสิ่งที่เป็นปัญหาสังคม แต่ไม่ยอมกับการที่ใครๆ จะเพิกเฉย และเฝ้าคอยกระตุ้นให้เกิดการแก้ไข :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144: ถ้าเป็นพวก “โลกมืด” หรือ “โลกทราม” ก็จะว่าพวกโลกสวย “ดัดจริต” เกินจริง และยังว่าพวกโลกสวยเป็นพวกมือถือสาก ปากถือศีล..ทำดีได้เฉพาะในอินเทอร์เน็ต แต่ชีวิตจริง พวกโลกสวยบางคนอาจถูกขนานนามว่า “ใจดำ ใจหมา” เอาซะอย่างนั้น...พวกโลกมืดนี้จะถูกพวกโลกสวยหาว่า ยอมรับให้สังคมมันสีเทา มันบิดเบี้ยวไปได้ แล้วเมื่อไหร่กันล่ะ? ที่ปัญหาในสังคมมันจะได้รับการแก้ไข ลักษณะ เบื้องต้นของพวก “โลกสวย” ก็น่าจะประเมินออกมาได้ราวๆ นี้ ถามว่า พวกโลกสวยเป็นพวกเลวร้ายหรือไม่ ? ความจริงพวกนี้ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่มักจะถูก “หมั่นไส้” จากเพื่อนร่วมโลกเสมือนนี่แหละ แง่มุมของโลกสวยที่ดีก็มีอยู่มาก บางครั้ง ความโลกสวยมันก็ทำให้เราไม่เมินเฉยต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และหาทางแก้ปัญหา หรือหาทางช่วยเหลือ มิใช่หรือ ? แง่มุมที่ดีมันก็มี ถ้าเราหัดใช้ความ “โลกสวย” ให้เป็นประโยชน์ได้ บางทีเราก็อาจได้สังคมที่ดีที่เริ่มจากอินเทอร์เน็ต จาก คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่ โดย “บุหงาตันหยง” ขอบคุณภาพและบทความจาก www.dailynews.co.th/Content/Article/298724/“โลกสวย”ด้วยอินเทอร์เน็ต (http://www.dailynews.co.th/Content/Article/298724/“โลกสวย”ด้วยอินเทอร์เน็ต) |