หัวข้อ: "พุทธเกษตร" ณ บางบัวทอง (๒) : สุขาวดีอยู่แดนใด.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2015, 08:29:18 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_11_43.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_12_37.jpeg) อาคารนี้ด้านล่างเป็นวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ด้านบนเป็นวิหารสุขาวดีหมื่นพุทธ (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_16_44.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_20_00.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_20_39.jpeg) วิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ อยู่ด้านหลังอุโบสถ ประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางพันเนตรพันกร องค์นี้แกะสลักจากไม้สักทอง วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) เลขที่ 75 หมู่ที่ 4 ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี หัวข้อ: Re: "พุทธเกษตร" ณ บางบัวทอง (๒) : สุขาวดีอยู่แดนใด.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2015, 08:36:11 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_13_32.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_14_07.jpeg) (http://[url=http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_35_09.jpeg]http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_35_09.jpeg[/url]) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_35_46.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_36_32.jpeg) นำภาพพระกวนอิมโพธิสัตว์ ในวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์มาให้ชม หัวข้อ: Re: "พุทธเกษตร" ณ บางบัวทอง (๒) : สุขาวดีอยู่แดนใด.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2015, 08:53:23 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_15_55.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_40_23.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_41_12.jpeg) โคมสีแดงนี้ผมไม่รู้ว่าเรียกว่า อะไร ใครรู้บอกหน่อยครับ (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_41_59.jpeg) ภาพด้านบน เป็นบรรยากาศภายในวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_42_36.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_8_43_17.jpeg) กระถางธูปนี้อยู่ด้านหน้าวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ กระถางธูปที่เห็นอยู่ด้านหน้าวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์นั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า อาคารในวัดเล่งเน่ยยี่2 ทุกอาคารนำกระถางธูปออกมาอยู่ภายนอกอาคารทั้งสิ้น และยังห้ามปักเทียน ต่างกับวัดเล่งเน่ยยี่แห่งแรกโดยสิ้นเชิง ส่วนเทียนที่วัดเล่งเน่ยยี่2 เป็นเทียนอยู่ในถ้วยแก้วมีขนาดเล็ก และจัดโต๊ะไว้ให้วางเทียนอยู่ภายในวิหารเป็นการเฉพาะ หัวข้อ: Re: "พุทธเกษตร" ณ บางบัวทอง (๒) : สุขาวดีอยู่แดนใด.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2015, 09:15:47 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_13_02_15_9_50_56.jpeg) สุขาวดี ตามความเชื่อของศาสนาพุทธนิกายมหายาน สุขาวดี (สันสกฤต: सुखावती สุขาวตี) คือ พุทธเกษตรของพระอมิตาภพุทธะ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของโลก สุขาวดีไม่ใช่นิพพาน แต่เป็นภูมิที่สาวกของพระอมิตาภะใช้ปฏิบัติธรรมต่อหลังจากสิ้นชีวิตบนโลกเพื่อบรรลุนิพพานต่อไป (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_13_02_15_9_51_58.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_13_02_15_9_52_51.jpeg) ความเชื่อ ในอมิตาภสูตรซึ่งเป็นพระสูตรมหายาน (ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎกภาษาบาลี) ได้พรรณนาลักษณะของสุขาวดีพุทธเกษตรไว้ว่า เป็นดินแดนที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจบารมีของพระอมิตาภพุทธะ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าในอดีตย้อนไปก่อนหน้าพระโคตมพุทธเจ้าไป 10 กัป ที่ได้ชื่อว่าสุขาวดีก็เพราะผู้อยู่ในดินแดนนี้ย่อมไม่มีความทุกข์เลย แต่เสวยสุขอยู่เสมอ สุขาวดีเป็นดินแดนที่สวยงามและสุขสบาย กล่าวคือ มีล้อมรอบด้วยภูเขาแก้ว กำแพงแก้ว มีสระโบกขรณีที่ประดับด้วยแก้วมณี มีดนตรีทิพย์บรรเลงอยู่เสมอ มีนกร้องออกมาเป็นเสียงธรรมเทศนา บรรยากาศต่าง ๆ นี้ทำให้ผู้อาศัยเกิดพุทธาสุสติ ธัมมานุสสติ และสังฆานุสสติ และตั้งใจปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุนิพพานในดินแดนแห่งนี้ ส่วนอมิตายุรัธยานสูตรระบุว่า ผู้ไปเกิดในแดนสุขาวดีแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือผู้ศรัทธาในมหายาน สาวกยาน และพวกมิจฉาทิฏฐิ แต่ละชั้นยังแบ่งออกเป็น 3 ระดับ จึงรวมทั้งสิ้นมี 9 ระดับ ผู้เกิดในระดับสูงจะใช้เวลาบำเพ็ญบารมีต่ออีกไม่นานก็จะได้บรลุธรรม ส่วนระดับต่ำลงไปก็จะใช้เวลนานขึ้นตามลำดับ โดยชั้นต่ำสุดจะใช้เวลา 12 กัปจึงจะบรรลุธรรม (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_13_02_15_10_26_45.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_13_02_15_9_53_33.jpeg) ask1 ans1 ask1 ans1 ภาพประกอบทั้งหมดเป็น "วิหารสุขาวดีหมื่นพุทธ" ของวัดเล่งเน่ยยี่2 เป็นที่ประดิษฐานพระอมิตาภพุทธเจ้า ซึ่งเป็นองค์ประธาน มีพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์และพระสถามปราปต์โพธิสัตว์เป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายและขวา รวมถึงเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธเจ้าหมื่นพระองค์ เป็นสัญญลักษณ์ว่า พระพุทธเจ้านั้น ได้อุบัติขึ้นมีจำนวนมากมาย เหมือนดั่งเม็ดทรายที่อยู่ในคงคามหานที วิหารสุขาวดีหมื่นพุทธยังเป็นที่นั่งวิปัสสนาและปฏิบัติธรรมของภิกษุสามเณรและประชาชนทั่วไป :25: :25: :25: หัวข้อ: Re: "พุทธเกษตร" ณ บางบัวทอง (๒) : สุขาวดีอยู่แดนใด.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2015, 10:56:30 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_10_36_03.jpeg) การตีความ แต่เดิมนิกายสุขาวดีถือว่า สุขาวดีเป็นพุทธเกษตรที่ดำรงอยู่จริง ๆ ทางกายภาพ และมีลักษณะดังที่พระสูตรได้อธิบายไว้ ต่อมามีการผสมผสานความเชื่อของนิกายนี้เข้ากับนิกายเซน ทำให้แนวคิดสุขาวดีถูกอธิบายในเชิงธรรมาธิษฐานว่า แท้จริงแล้วสุขาวดีเป็นเพียงแดนที่ถูกสมมติขึ้น เพื่อเป็นอุบายให้พุทธศาสนิกชนใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจว่า การหลุดพ้นจากทุกข์ไม่ใช่เรื่องยากลำบากเกินไป การระลึกถึงพระอมิตาภะและพระโพธิสัตว์ต่าง ๆ ในสุขาวดีก็เพื่อเป็นอุบายให้นักปฏิบัติปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนของตน พระอมิตาภะแท้จริงหมายถึง ธรรมชาติพุทธะที่มีอยู่ในตัวคนทุกคนอยู่แล้ว การระลึกถึงพระอมิตาภะก็เพื่อน้อมนำจิตของผู้นั้นให้กลับก้าวไปสู่ความเป็นพุทธะต่อไป และแดนบริสุทธิ์สุขาวดีถูกตีความใหม่เป็นภาวะที่จิตที่บริสุทธิ์ที่มีอยู่แล้วในจิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย การปฏิบัติต่าง ๆ จึงทำเพื่อน้อมจิตให้กลับไปสู่สภาพบริสุทธิ์ดั้งเดิม การสวดพระนามพระอมิตาภะกลายเป็นการปฏิบัติสมาธิรูปแบบหนึ่ง ซึ่งต้องปฏิบัติควบคู่ไปกับการรักษาศีลและศึกษาพระธรรม (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_13_02_15_10_28_16.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_13_02_15_10_27_35.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_10_38_42.jpeg) การประดับผนังวิหารด้วยพระพุทธรูปจำนวนมาก โดยใช้คำว่า "หมื่นพุทธ" แทนพระพุทธเจ้าจำนวนดังกล่าว เพื่อสื่อถึงคติของมหายานที่ว่า "พระพุทธเจ้าได้อุบัติขึ้นมีจำนวนมากมาย เหมือนดั่งเม็ดทรายที่อยู่ในคงคามหานที" และยังกำหนดให้อาณาเขตของพระพุทธเจ้าจำนวนนับหมื่นนั้นเป็น "พุทธเกษร" ลัทธิอนุตตรธรรม ลัทธิอนุตตรธรรมมีความเชื่อเกี่ยวกับสุขาวดีต่างจากพระพุทธศาสนา ในพระโอวาทพระอนุตตรธรรมมารดาสิบบัญญัติ (จีน: 皇母訓子十誡) ซึ่งเป็นคัมภีร์เล่มหนึ่งของลัทธิอนุตตรธรรมระบุว่า สุขาวดีคือนิพพาน เรียกอีกอย่างว่าอนุตตรภูมิ (จีน: 理天 หลี่เทียน) เป็นที่ประทับของพระแม่องค์ธรรม พระเจ้าผู้สร้างสรรพสิ่ง และให้กำเนิดจิตจำนวน 9,600,000,000 ดวง สุขาวดีจึงเป็นต้นกำเนิดของเวไนยสัตว์ทั้งหลาย พระแม่และดวงจิตทั้งหมดได้เสวยสุขร่วมกันบนสุขาวดีเป็นเวลานาน จนเมื่อพระแม่สร้างโลกขึ้นจึงส่งดวงจิตทั้งหมดลงมาเกิดบนโลก เพื่อใหช่วยกันพัฒนาโลกให้เจริญขึ้น แต่สรรพสัตว์กลับหลงลืมธรรมชาติบริสุทธิ์ดั้งเดิมของตน จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไปและไม่สามารถกลับสู่สุขาวดีได้ พระแม่องค์ธรรมจึงต้องส่งพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และเซียนทั้งหลาย ลงมาชี้แนะมนุษย์และนำพาเวไนยสัตว์กลับสู่นิพพานคือสุขาวดีซึ่งเป็นบ้านเดิมต่อไป (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_10_26_00.jpeg) (https://www.madchima.org/forum/gallery/2_30_05_24_5_28_36.jpeg) ภาพประกอบชุดนี้ยังเป็นวิหารสุขาวดีหมื่นพุทธ (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_10_40_28.jpeg) ภาพนี้ถ่ายจากวิหารสุขาวดีหมื่นพุทธ(ชั้น ๔) วิหารที่เห็นคือ พระอุโบสถ ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี th.wikipedia.org/wiki/สุขาวดี (http://th.wikipedia.org/wiki/สุขาวดี) อ้างอิง 1. อมิตาพุทธสูตร, หลวงจีนวิศวภัทร มณีปัทมเกตุ แปล, พ.ศ. 2552 2. อมิตายุรัธยานสูตร, หลวงจีนวิศวภัทร มณีปัทมเกตุ แปล, พ.ศ. 2552 3. เสถียร โพธินันทะ, ปรัชญามหายาน, กรุงเทพฯ:มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2548, หน้า168-170 4. สุมาลี มหณรงค์ชัย, พุทธศาสนามหายาน, กรุงเทพฯ:ศยาม, 2546, หน้า 236-248 5. พระโอวาทพระอนุตตรธรรมมารดาสิบบัญญัติ : ข้อหนึ่ง 6. The Organization and Ideologies of the White Lotus Sects หัวข้อ: Re: "พุทธเกษตร" ณ บางบัวทอง (๒) : สุขาวดีอยู่แดนใด.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2015, 11:34:47 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_13_02_15_10_28_16.jpeg) พุทธเกษตร คือ อะไร ชาวมหายานเชื่อว่าพระพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ มีเป็นจำนวนมากมายในจักรวาลนี้ พระองค์เสด็จมาอุบัติเพื่อสั่งสอนธรรมอยู่ทั่วไปนับจำนวนไม่ถ้วน แม้ในโลกธาตุของเราจะว่างเว้นจากพระพุทธเจ้าแต่โลกธาตุอื่น ๆ ก็มีพระพุทธเจ้าองค์อื่น ๆ กำลังสั่งสอนสัตว์โลก โลกธาตุที่พระพุทธเจ้ามาอุบัติเรียกว่า “ พุทธเกษตร ” ซึ่งมีหลายแห่ง เช่น - พุทธเกษตรของพระพุทธไภสัชชคุรุไวฑูรย์ประภาราชา ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของโลกธาตุ - พุทธเกษตรของพระพุทธอักโฆภยะ มณฑลเกษตรของพระเมตไตรย โพธิสัตว์ในดุสิตสวรรค์ และ - สุขาวดีพุทธเกษตรของพระอมิตาภะ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของโลกธาตุ เป็นพุทธเกษตรที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของชาวมหายานเป็นส่วนมาก สุขาวดีพุทธเกษตรห่างจากโลกธาตุนี้แสนโกฏิ ผู้ไปอุบัติในพุทธเกษตรนั้นล้วนเป็นอุปปาติกะเกิดขึ้นในดอกบัว ไม่มีทุกข์โศก โรคภัย มีอายุอันนับประมาณมิได้ เป็นแดนเสมือนที่พักระหว่าง สังสารวัฏฏ์กับพระนิรวาณ ผู้ไปอุบัติในที่แห่งนี้ล้วนเป็นผู้เที่ยงต่อพระนิพพาน แต่ถ้ายังมีกิเลส ติดจากโลกอื่นไปก็จะได้รับการอบรมตัดกิเลสกัน ณ ที่แห่งนี้ (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_11_01_53.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_11_02_38.jpeg) การที่ชาวมหายานสร้างความเชื่อในเรื่องพุทธเกษตร อาจเป็นเพราะต้องการปลอบใจมหาชนที่ยังอยากมีชีวิตสุขสบาย ไม่ต้องการบรรลุนิพพาน คนส่วนมากคิดว่า การบรรลุนิพพานเป็นการยากยิ่งจึงต้องสร้างความเชื่อในเรื่องพุทธเกษตรขึ้นมา เพื่อสนองความต้องการของคนบางกลุ่มที่ยังรักความสะดวกสบาย ทำให้เกิดการตั้งปณิธานไปเกิดในพุทธเกษตรเพื่อเป็นพระโพธิสัตว์ และแล้วก็จะบรรลุนิพพานได้โดยสะดวกไปเอง ซึ่งต่างจากพวกเถรวาท แม้จะเชื่อว่ามีพระพุทธเจ้ามากมายหลายองค์ มีโลกธาตุอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากโลกธาตุเรานี้ แต่ไม่ได้สอนให้มีการตั้งปณิธานไปเกิดในพุทธเกษตร การบรรลุหลุดพ้นของเถรวาทจึงเป็นไปอย่างรีบเร่งโดยไม่จำเป็นต้องรอไปถึงพุทธภูมิ เพราะต้องใช้เวลาอีกยาวนานแสนไกลกว่าจะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าได้ ชาวเถรวาทส่วนมากจึงมุ่งเพียงอรหันตภูมิยาน (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_11_03_23.jpeg) ภายในวิหารสุขาวดีหมื่นพุทธของวัดเล่งเน่ยยี่2 มีพระประธานอยู่ ๓ องค์ แต่ไม่ได้ติดป้ายพระนามเอาไว้ จากการหาข้อมูลจากวัดเล่งเน่ยยี่2 พออนุมานได้ว่า องค์กลางคือพระอมิตาภพุทธเจ้า องค์ที่เหลือเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายและขวา คือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์และพระสถามปราปต์โพธิสัตว์ สรุปก็คือ ที่นี่เป็นสุขาวดีพุทธเกษตรของพระอมิตาภะ..(ผู้โพสต์)อ้างอิง http://community.buddhayan.com/index.php?topic=2.msg2 (http://community.buddhayan.com/index.php?topic=2.msg2) http://www.buddhayan.com/?p=article&content_id=40 (http://www.buddhayan.com/?p=article&content_id=40) http://www.mahayana.in.th/tmayana/sukhavati.html (http://www.mahayana.in.th/tmayana/sukhavati.html) http://anamnikay.is.in.th/?md=webboard&ma=showtopic&id=40 (http://anamnikay.is.in.th/?md=webboard&ma=showtopic&id=40) ข้อมูลพระพุทธเจ้า ในทัศนะมหายานเพิ่มเติมที่ http://www.mahaparamita.com/Misc/BuddhaInMahayana.pdf (http://www.mahaparamita.com/Misc/BuddhaInMahayana.pdf) http://www.buddhist.saiyaithai.org (http://www.buddhist.saiyaithai.org) ที่มา : http://www.crs.mahidol.ac.th/thai/mahayana14.htm (http://www.crs.mahidol.ac.th/thai/mahayana14.htm) หัวข้อ: Re: "พุทธเกษตร" ณ บางบัวทอง (๒) : สุขาวดีอยู่แดนใด.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2015, 12:02:21 pm .
(http://www.madchima.net/forum/gallery/30_13_02_15_9_53_33.jpeg) ท่องแดนสุขาวดี(พุทธเกษตร)...ไปกับพุทธญาณ ชื่อสวรรค์ชั้นสุขาวดี อาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยนักกับชาวพุทธเถรวาท แต่ชื่อนี้จะคุ้นเคยกันดีในหมู่พุทธมหายานหรือทาง ศาสนาเต๋า ในทางพุทธศาสนาแบบเถรวาท จะจัดชั้นของสุขคติภูมิ ออกเป็นภูมิมนุษย์, สวรรค์ 6 ชั้น, พรหม 16 ชั้น และอรูปพรหมอีก 4 ชั้น พวกเราจึงคุ้นเคยกันเพียงว่า สวรรค์ จะหมายถึง 6 ชั้น ซึ่งเป็นกามาวจรกุศล ความจริงภูมิต่างๆ ที่แบ่งกันแบบที่เรารู้จักกันดีที่ว่านี้ เป็นเพียงภูมิหลักๆ เท่านั้น ในโลกของวิญญาณมีภูมิย่อยละเอียดอีกมาก มาย ตามกลุ่มประเภทหรือวาสนาบารมีของสัตว์โลกที่สั่งสมกันมากรรมดี-กรรมชั่ว ของสัตว์โลกจะจำแนกสัตว์โลกเป็นกลุ่มๆ พวกๆ ตามกรรมของพวกเขาเองกรรมแบบเดียวกันจะเป็นกลุ่มพวกเดียวกันไปเอง (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_11_08_11.jpeg) ในทางพุทธมหายานแบบจีน ซึ่งผสมผสานกับแนวของเต๋า เขาจะเรียกสุขคติภูมิที่สูงกว่ามนุษย์ขึ้นไปทั้งหมดว่า สวรรค์ ดังนั้น คำว่า สวรรค์ของเขาจึงกินความกว้างเทียบกับที่เราคุ้นเคย ตั้งแต่ระดับของภูมิของภุมมะเทวดา หรือจาตุมหาราชิกาไปจนถึง นิพพาน ซึ่งเขา แบ่งกลุ่มระดับเป็น 4 ระดับ คือ 1. ระดับล่าง 2. ระดับกลาง 3. ระดับสูง 4. ระดับสุขาวดี (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_11_05_48.jpeg) ถ้าสูงกว่านั้นคือ นิพพาน ทางฝ่ายมหายานและเต๋าเชื่อว่า ในระดับสุขาวดีนั้นผู้ที่ไปอุบัติขึ้น ได้ในชั้นนี้จะสามารถบำเพ็ญธรรมต่อไปชั้นสุขาวดีนี้ จนบรรลุมรรคผลเป็นพระอรหันต์ เข้าสู่นิพพานไปเลย ได้โดยไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก แต่ตอนที่ยังอยู่ในดินแดนสุขาวดีนี้อาจจะลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ได้ ถ้าปรารถนาจะเกิดเอง ซึ่งถ้ากลับมาเกิดก็เป็นการเข้าสู่วัฏจักรเดิม การได้เกิดชั้นสุขาวดีจึงอาจถือว่าพ้นการเวียนว่ายตายเกิดก็ได้ (ถ้าไม่ปรารถนาจะลงมาเกิดอีก) แต่ยังต้องบำเพ็ญธรรมเพื่อ ความหลุดพ้นเข้านิพพานอยู่ (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_11_06_33.jpeg) ดังนั้นในระดับสุขาวดี จึงเป็นที่ปรารถนาจะไปเกิดกันอย่างยิ่งในหมู่ชาวพุทธมหายานและศาสนิกชนเต๋า โดยผู้ได้ไปเกิดในระดับสุขาวดีนี้อาจจะยังไม่สามารถบรรลุผลใดๆ เลยก็ได้เพียงแต่ต้องสั่งสมบุญให้เพียงพอ ไม่เหมือนกับแดนพรหมชั้นสุทธาวาส ที่ผู้ไปเกิดในแดนระดับนี้จะบรรลุมรรคผลเข้านิพพานได้ในชั้นสุทธาวาสนี้ไม่ต้องกลับไปเวียนว่ายตายเกิดอีกเช่นกัน แต่ผู้จะไปเกิดในชั้นสุธาวาสได้ จะต้องบรรลุธรรมถึงระดับเป็นพระอนาคามีบุคคลเสียก่อน การไปเกิดในสุทธาวาสจึงยากมาก ไม่เหมือนในสุขาวดีที่ไม่ต้องบรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีก่อนก็ได้ ในสวรรค์ชั้นสุขาวดีนั้น จะเป็นแดนที่ประทับของพระโพธิสัตว์ ต่างๆ (ทางมหายาน) เช่น พระกวนอิม พระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ เป็นต้น หรือผู้ที่ปฏิบัติในแนวทางโพธิสัตว์ที่บรรลโพธิสัตว์ภูมิ(ตามคติมหายาน) แม้บารมีมีเต็มแต่ยังไม่ยอมเข้านิพพาน ยังคอยโปรดสัตว์โลกอยู่ รวมทั้งเทพเจ้าทั้งหลายที่บำเพ็ญบรรลุธรรมตามแนวทางของเต๋า (ซึ่งทางจีนจะเรียกว่าเป็น วิสุทธิเทพ) ท่านเหล่านี้ยังคอยโปรดสัตว์โลกอยู่เช่นกัน (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_11_07_32.jpeg) นอกจากนี้ในระดับสุขาวดีนี้ เป็นระดับที่มีพุทธเกษตรต่างๆ อยู่มากมาย พุทธเกษตร หมายถึง แดนที่มีพระพุทธเจ้า(พระฌานีพุทธเจ้า) ประทับเป็นประธาน (หรือผู้ปกครองแดน) อยู่ ที่มีชื่อเสียงมาก และเป็นที่ปรารถนาจะได้ไปเกิดกันมากใน หมู่ชาวพุทธมหายานก็คือ สุขาวดีพุทธเกษตรของพระอมิตาภะพุทธเจ้า การบำเพ็ญบุญปฏิบัติธรรมเพื่อสั่งสมบารมีให้เพียงพอ และการผูกจิตมั่นต่อแดนนี้ (เช่นการภาวนาถึงพระนามของพระอมิตาภะ) จะสามารถทำให้ไปเกิดในแดนนี้ได้ ซึ่งจะได้มีโอกาสฟังธรรม จากพระพุทธเจ้า และปฏิบัติธรรม จนบรรลุมรรคผลเข้านิพพานพ้นทุกข์โดยเด็ดขาดได้ต่อไป และสภาพเป็นอยู่จะเป็นสุขตลอดไม่มีความยากลำบากเลย เพราะเป็นสุขคติภูมิ ถึงแม้ว่าจะบรรลุมรรคผลเข้านิพพานได้ อาจกินเวลานานนับเป็นเวลาหลายๆ กัลป์ แต่ก็เป็นสุขตลอดกาลนั้น ไม่เหมือนการเกิดมาเป็นมนุษย์บำเพ็ญปฏิบัติ แม้ว่าอาจบรรลุถึงธรรมถึงนิพพานได้เร็ว แต่ก็ทุกข์ยากและเสี่ยงกับการพลาดพลั้งต้องไปเกิดในทุคติวินิบาตนรก ซึ่งจะยิ่งทำให้ล่าช้า และทุกข์มหันต์อย่างยิ่ง สุขาวดีพุทธเกษตร จึงเป็นแดนบรมสุขแดนหนึ่งที่น่าไปหวังไว้อย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ไม่อาจจะปฏิบัติธรรมจนบรรลุมรรคผลได้ใน ชาติปัจจุบัน (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_19_02_15_11_08_48.jpeg) ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.buddha-dhamma.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&No=135937 (http://www.buddha-dhamma.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&No=135937) หัวข้อ: Re: "พุทธเกษตร" ณ บางบัวทอง (๒) : สุขาวดีอยู่แดนใด.? เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กุมภาพันธ์ 20, 2015, 01:49:13 am ขออนุโมทนาบุญ |