หัวข้อ: 'สปช.'ชนมติมหาเถรฯ ลุยสอบ'กก.หลายรูป' เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2015, 02:35:43 pm (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/970433.png) 'สปช.'ชนมติมหาเถรฯ ลุยสอบ'กก.หลายรูป' "สปช." ดับเครื่องชนมติมหาเถรสมาคม "ไพบูลย์" ลุยตรวจสอบ "กรรมการหลายรูป" เหตุทางกม.ถือเป็นจนท.รัฐ แต่มีมติขัดและแย้งกับ "พระลิขิต" และมติของมหาเถรฯปี 42 เสียเอง ย้ำส่วนตัว "ธัมมชโย" ปาราชิกไปแล้ว ยกพระลิขิต 10 พ.ค. 42 ระบุชัด "อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย" กรณีการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ครั้งที่ 5/2558 ซึ่งมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่มีมติยืนยันว่า พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังไม่ปาราชิก เพราะไม่ได้ฝ่าฝืนพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากคืนทรัพย์สินให้วัดไปแล้วนั้น ในเรื่องนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า มติมหาเถรสมาคมดังกล่าว เป็นมติที่จะต้องถูกตรวจสอบ เพราะขัดและแย้งกับพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี 2542 ที่รับรองโดยมติของมหาเถรสมาคมเอง :41: :41: :41: :41: "การมีมติไปหักล้างมติเมื่อปี 2542 เป็นการใช้มติที่ประชุมของมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ผู้ที่มีมติคือกรรมการมหาเถรสมาคม ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อีกทั้งในกฎหมายยังเขียนด้วยว่า มติจะมีผล ต้องเป็นไปตามพระธรรมวินัยด้วย มติดังกล่าวจึงต้องถูกตรวจสอบว่ามีการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่"นายไพบูลย์กล่าวและว่า เบื้องต้น ที่ดูแล้ว มตินี้มีปัญหาแน่ เมื่อมีปัญหาออกมาโดยมหาเถรสมาคม ก็ต้องมีปัญหาที่จะต้องถูกตรวจสอบ กรรมการในมหาเถรสมาคมหลายรูป ก็ถูกร้องเรียนว่า มีลักษณะทับซ้อนกับการใช้ดุลยพินิจในเรื่องพระธัมมชโย จึงต้องถูกตรวจสอบ เพราะมีปัญหาเรื่องการใช้ดุลยพินิจ :96: :96: :96: :96: นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า มติเมื่อวาน (20 ก.พ.) ที่ออกมาบอกว่าไม่ขัดกับพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช แต่ดูอย่างไรก็ขัด อีกประการคือ บอกว่าพระธัมมชโยได้คืนทรัพย์สินให้วัดหมดแล้ว ไม่มีเจตนาถือไว้ จึงไม่ต้องปาราชิก กรณีนี้มันคนละเรื่องกัน เพราะการเอาทรัพย์สินที่เป็นของวัดมาใส่ชื่อตัวเอง ถือว่าขาดจากความเป็นพระแล้ว ยกตัวอย่างพระที่เสพเมถุน แม้ไม่ผิดกฎหมายก็ปาราชิก เรื่องเอาทรัพย์สินมาเป็นของตัวเอง แม้สุดท้ายเจ้าของทรัพย์จะยอมความ ไม่เอาผิด ทางโลกถือว่าพ้นผิด แต่ในทางธรรม "ปาราชิก" ไปตั้งแต่มีเจตนามาใส่ชื่อตัวเอง แม้ตอนหลังจะมาคืน แต่ความเป็นปาราชิกมันต่อไปไม่ได้ มันขาดไปแล้ว (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/970452.jpeg) ยกลิขิต 10 พ.ค. 42 ชี้ชัด "อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย" สปช.รายนี้ กล่าวด้วยว่า ที่สำคัญคือ สมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระลิขิตอีกฉบับเมื่อปี 2542 ว่าพระธัมมชโยได้ปาราชิกไปแล้ว เพราะไปบิดเบือนคำสอนของพระพุทธศาสนา ทำให้สงฆ์แตกแยก ซึ่งมติของมหาเถรสมาคมเมื่อวาน ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ โดยพระลิขิตฉบับวันที่ 10 พ.ค. 42 ลิขิตชัดว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับ "อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย" การที่ทรงใช้คำนี้ เพราะเห็นว่าพระธัมมชโยขาดจากความเป็นพระไปแล้ว การปาราชิกก็มีผลทันทีตั้งแต่ตอนนั้น มติของมหาเถรสมาคมเมื่อวานจะมีปัญหาแน่ :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi: สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบมหาเถรสมาคมนั้น จะเป็นการตรวจสอบในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่วนการตรวจสอบพระธัมมชโย ทางคณะกรรมการฯจะดูไปถึงพฤติกรรมที่ไปรับเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ที่ไปฉ้อโกงเงินของประชาชน และรับเงินไปนานแล้ว เมื่อมีเรื่องร้องเรียนในศาล ก็ไปพูดว่า ไม่รู้จักกับอดีตประธานสหกรณ์ ทั้งที่ข้อเท็จจริงรู้จักกันแน่ และประชาชนไม่มีความประสงค์จะให้ แต่ยังถือไว้อีก นี่คือสิ่งที่เราจะตรวจสอบ เพราะเข้าข่ายกระทำปาราชิก :32: :32: :32: :32: "พระธัมมชโยสำหรับผม ถือว่าปาราชิกไปแล้ว ตามมติของมหาเถรสมาคมเมื่อปี 2542 การมาบอกว่า ฆราวาสไปตรวจสอบสงฆ์ไม่ได้ เป็นคนละเรื่องกัน ที่พูดนี้เป็นเรื่องธรรมวินัย แต่ไม่ใช่เรื่องการตรวจสอบทางกฎหมาย เพราะเจ้าอาวาสเป็นตำแหน่งทางกฎหมาย อย่างเรื่องวัดสระเกศที่สตง.ไปตรวจสอบเรื่องเงิน ทำไมตรวจสอบได้ มันตรวจสอบได้ทั้งหมด และการที่เราตรวจสอบนี้ คือการตรวจสอบหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีปัญหาจึงต้องถูกตรวจสอบ เพราะจะต้องไม่มีการขัดกันในผลประโยชน์ มีผู้นำข้อมูลมาให้แล้ว"นายไพบูลย์กล่าวทิ้งท้าย (http://www.dailynews.co.th/imagecache/670x490/cover/970434.jpeg) "ส. ศิวรักษ์" ขย่มซ้ำ "ความอัปลักษณ์ของกรรมการฯ" ด้านนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ "ส. ศิวรักษ์" นักเขียนและนักวิชาการอิสระ ฉายา "ปัญญาชนสยาม" ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sulak Sivaraksa ระบุตอนหนึ่งว่า "การที่มหาเถรสมาคมลงมติ ว่าธมฺมชโยไม่เป็นปราชิกนั้น แสดงว่ากรรมการมหาเถรสมาคมที่ลงคะแนนให้ธมฺมชโย น่าจะมีชนักติดหลังในทำนองเดียวกัน ในเมื่อลายพระหัตถ์สมเด็จพระสังฆราชชี้ชัดว่าบุคคลผู้นี้ต้องอทินนาทานปราชิก แล้วกรรมการมหาเถรสมาคมซึ่งอ้างว่าเคารพสมเด็จพระสังฆบิดร กลับไม่ทำตามมติสมเด็จพระสังฆราช โดยที่อ้างว่าเขาคืนเงินให้แล้ว เป็นอันหมดมลทิน นั่นเป็นเรื่องตะแบงพระวินัยอย่างชัดเจน . แต่นี่ไม่ใช่คราวแรกที่มหาเถรสมาคมมีพฤติกรรมเช่นนี้ เช่นเมื่อคราวกิตฺติวุฒฺโฑภิกขุสั่งรถวอลโว่เข้ามาโดยไม่ยอมเสียภาษี นี่ก็เป็นอทินนาทานปราชิกเช่นเดียวกัน เพราะพระมีค่าเพียงแค่เงินบาทเดียว ฉ้อฉลเพียงบาทเดียวก็ต้องอทินนาทานปราชิกหมดความเป็นภิกษุภาวะ คราวกิตฺติวุฒฺโฑ มหาเถรสมาคมก็ลงมติว่าเป็นนิคสักขีปาจิตตี และให้เอาเงินไปเสียภาษี เพื่อจบเรื่อง ดังกรณีธมฺมชโยก็เช่นกัน อ้างว่าได้คืนเงินคืนทองไปแล้ว ยังสามารถคงความเป็นลัชชีไว้ได้ นี่เป็นตัวอย่างแห่งความอัปลักษณ์ของกรรมการมหาเถรสมาคม ชีวิตพรหมจรรย์แปลว่าชีวิตอันประเสริฐ ต้องต่างไปจากชีวิตชาวบ้าน ซึ่งเป็นกามโภคี พระภิกษุสามเณรต้องเจริญเนกขัมมปฏิปทา แม่นทั้งทางศีลสิกขาและเจริญจิตสิกขา เพื่ออบรมตัวเองให้เข้าถึงปัญญา จะได้แลเห็นสิ่งต่าง ๆ ตามสภาพความเป็นจริงที่แท้ ถ้าไตรสิกขาเป็นเพียงคำพูด โดยไม่ประพฤติปฏิบัติตามที่เนื้อหาสาระ พระศาสนาก็ย่อมจะสั่นคลอนและอาจถึงซึ่งความอับปางก็ได้ ภายในชั่วอายุของกรรมการมหาเถรสมาคมในบัดนี้นี่เอง" ask1 ans1 ask1 ans1 "ไพศาล" ตอกย้ำ "มุสา" คืนสมบัติให้วัดโดยทันที ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Paisal Puechmongkol ว่า "ผู้ไม่มีคุณสมบัติแม้ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ป.ป.ช. หรือศาล เคยเพิกถอนหรือวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่งมาเยอะแล้ว ไม่ส่ามารถอ้างการได้รับแต่งตั้งมาเป็นเหตุว่ามีคุณสมบัติได้ มติมหาเถรฯเรื่องการตั้งผู้ปาราชิกให้มีสมณศักดิ์ เป็นการตั้งผู้ขาดคุณสมบัติต้องถูกถอดถอน ที่น่าคิดคือตัวเองเคยมีมติว่าพระลิขิตชอบด้วยกฎหมาย พระธรรมวินัยและกฎมหาเถรสมาคมแล้วจะมีมติตั้งผู้ปาราชิกได้อย่างไร พระลิขิตได้ระบุวันที่ต้องคืนสมบัติแก่วัดไว้ด้วย แต่ไม่คืน จึงมีพระลิขิตว่าเป็นปาราชิก และความจริง ไม่ได้คืนทันที เพราะคืนหลังจากมีพระลิขิตว่าปาราชิกแล้ว 7 ปี ที่แถลงว่าคืนทันทีจึงมุสา" ขอบคุณภาพข่าวจาก www.dailynews.co.th/Content/education/302634/_สปช._ชนมติมหาเถรฯ+ลุยสอบ_กก.หลายรูป_ (http://www.dailynews.co.th/Content/education/302634/_สปช._ชนมติมหาเถรฯ+ลุยสอบ_กก.หลายรูป_) หัวข้อ: Re: 'สปช.'ชนมติมหาเถรฯ ลุยสอบ'กก.หลายรูป' เริ่มหัวข้อโดย: modtanoy ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2015, 08:21:27 pm อันนี้ ก็ เป็นแต่ข่าว ว่าจะ ไม่ใช่ เดินจริง ๆ
:character0029: :49: หัวข้อ: Re: 'สปช.'ชนมติมหาเถรฯ ลุยสอบ'กก.หลายรูป' เริ่มหัวข้อโดย: Hero ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2015, 09:24:07 pm เหตุแห่งพุทธศาสนา จะสูญสิ้น พระพุทธเจ้าตรัสแสดง ไว้แล้วว่า
เกิดจาก พุทธบริษัท ไม่ตั้งมั่น ในธรรม และ วินัย นั่นเอง :41: |