สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

แหล่งข่าวจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 (บก.น.8) เปิดเผยว่า ภายหลังนายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้สั่งการ และผู้เกี่ยวข้องกับการรื้อทำลายโบราณสถานสำคัญ ภายในวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ถนนอรุณอมรินทร์ตัดใหม่ แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี นั้น

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ทำหนังสือเรื่องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 กรณีที่กรมศิลปากรพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุปผาราม ได้เข้าจับกุมคนงานก่อสร้างที่ดำเนินการบูรณะ กุฏิสงฆ์ คณะ 1 จำนวน 2 คน เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยไม่แจ้งให้ทางวัดทราบล่วงหน้า ทางวัดเห็นว่าเป็นการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ เนื่องจากการขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อปี 2492 โดยอาศัย พ.ร.บ.ว่าด้วยโบราณสถานฯ พ.ศ.2477 แต่อธิบดีกรมศิลปากรไม่ได้แจ้งให้เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ทราบ กระทั่งมีการยกเลิก พ.ร.บ.ดังกล่าว และประกาศใช้ พ.ร.บ.โบราณสถานฯ พ.ศ.2504 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 จึงไม่มีผู้ใดทราบการขึ้นทะเบียนครั้งนี้ และมีผลไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย

อีกทั้ง การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน กุฏิสงฆ์ คณะ 1 ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อคดียังไม่สิ้นสุด กุฏิสงฆ์ คณะ 1 จึงยังไม่เป็นโบราณสถาน อธิบดีกรมศิลปากรจึงไม่มีอำนาจแจ้งให้เจ้าพนักงานสอบสวนมาจับกุมผู้กระทำการบูรณะ กุฏิสงฆ์ คณะ 1 ในความผิดฐานรื้อทำลายโบราณสถาน

ทั้งนี้ ในวันที่ดำเนินการจับกุม มีสื่อมวลชนไปทำข่าวเผยแพร่ให้ประชาชนทราบด้วย ทำให้วัดเสียชื่อเสียง และประชาชนเข้าใจผิด หากประชาชนทราบข้อเท็จจริงว่ากุฏิสงฆ์ คณะ 1 ไม่ได้เป็นโบราณสถาน ผลจะสะท้อนกลับไปถึงความเชื่อถือ และความไว้ใจของประชาชนต่อกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1426744243 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1426744243)

ตอนถูกจับ ทำไม ไม่ยับยั้ง ไว้ ตอนนั้น ถ้าเข้าใจขั้นตอน ๆ นั้น
อันนี้ไปรื้อทางรอด ทางกฏหมาย มาหรือไง ?
   คือไม่ได้ศึกษา กฏหมาย มาก่อนใช่หรือไม่ ?

 เพราะถ้ารู้ว่าไม่ผิด ปล่อยให้เขาจับคนไปทำไม ?
  ต้องยับยั้ง ได้ในขณะนั้น เพราะคดีอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

   :34: