หัวข้อ: พุทธทำนาย-พุทธพยากรณ์ : คำทำนายที่เป็นจริงแล้วในวันนี้ (1) เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 20, 2015, 09:11:29 pm (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000003270201.JPEG) พุทธทำนาย-พุทธพยากรณ์ : คำทำนายที่เป็นจริงแล้วในวันนี้ (1) คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย พุทธทำนาย หรือพุทธพยากรณ์ หมายถึง คำทำนายเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับประเทศไทย ซึ่งที่มาของคำทำนายมักถูกเชื่อมโยงกับงานเขียนเรื่องพุทธพยากรณ์ของพระราชพรหมยาน พระธรรมธรวีรนนท์ วีรนันโท อ้างว่า พุทธทำนายเป็นการทำนายฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล โดยพระพุทธเจ้า เชื่อกันว่า พุทธทำนายเป็นนิยายที่แต่งขึ้น เนื่องจากไม่มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก และการทำนายฝันนับเป็นดิรัจฉานวิชา หรือสิ่งที่ขัดขวางการบรรลุมรรคผลในทัศนะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะอย่างไรก็ตาม พุทธทำนายทั้ง ๑๖ ข้อ ล้วนมีสาระที่เป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจสภาพความเป็นไปของสังคมโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะสังคมไทย ทั้งสังคมของฆราวาส และบรรพชิต ans1 ans1 ans1 ans1 สุบินนิมิตข้อที่ ๑ : ภัยธรรมชาติ พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นโคล่ำสัน ๔ ตัววิ่งมาจากทิศทั้ง ๔ มีลักษณะอาการเกรี้ยวกราดประดุจจะชนกันด้วยความโกรธแค้นกันมานาน พอวิ่งมาใกล้กันกลับถอยหลังออกจากกัน พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปภายหน้าจะเกิดภัยธรรมชาติขึ้นคือ ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล สุบินนิมิตข้อที่ ๒ : เยาวชนมั่วสมเสพกาม พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นต้นไม้นานาชนิดยังไม่โตพอที่จะมีดอกผล แต่ต้นไม้นั้นเต็มไปด้วยดอก และผลจนกิ่งก้านสาขารองรับดอกผลนั้นไม่ไหว พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปภายหน้ากุมารีที่มีวัยยังไม่สมควรจะมีสามี แต่กุมารีนั้นมีความกระสัน ใฝ่ฝันในราคะตัณหา ใจมีความกำเริบในกามคุณ มีความยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะเป็นอย่างมาก มีความอยากในกามารมณ์แห่งความรักความใคร่ จึงได้สมสู่กันเมื่ออายุยังน้อย สุบินนิมิตข้อที่ ๓ : พ่อแม่ต้องเอาใจลูก พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นฝูงพ่อแม่โคทั้งหลายพากันดูดกินนมลูกของตัวเอง พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปภายหน้าพ่อแม่ทั้งหลายจะได้อาศัยกินหยาดเหงื่อแรงงานลูก อาศัยข้าวปลาอาหารเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ที่ลูกแสวงหามาเลี้ยงดู ในยุคนั้นสมัยนั้นพ่อแม่ก็ต้องเอาอกเอาใจลูก ต้องประจบประแจงลูกอยู่เสมอ ถ้าพูดไม่ดีก็จะไม่ได้รับส่วนแบ่งอะไรจากลูกเลย สุบินนิมิตข้อที่ ๔ : ผู้อ่อนประสบการณ์บริหารประเทศ พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นฝูงคนทั้งหลายพากันขับลูกโคตัวเล็กๆ เข้ามาเทียมแอกเพื่อลากล้อเกวียน เมื่อลากไปไม่ไหวก็จะพากันเฆี่ยนตี พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปภายหน้าคนทั้งหลายจะพากันนิยมเอาเด็กไปรับราชการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองอันเป็นงานหนัก ถึงจะมีความรู้ แต่เด็กนั้นขาดประสบการณ์ ขาดความสามารถ ความรอบรู้รอบคอบในการบริหารเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม จึงเกิดความผิดพลาด ล่าช้า ไม่ทันต่อเหตุการณ์ ขาดความรับผิดชอบ ทำให้ประเทศชาติเสียหาย สุบินนิมิตข้อที่ ๕ : ความไม่เป็นธรรมในการตัดสินความ พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นม้าตัวเดียว หัวเดียว มีสองปาก กินหญ้าได้สองทาง กินเท่าไรก็ไม่อิ่ม พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปภายหน้านั้น คนมีหน้าที่ต้องตัดสินคดีต่างๆ จะใช้อุบายวิธีอันมีเล่ห์เหลี่ยม เพื่อเอาเงินจากคู่กรณีทั้งสองเป็นค่าจ้างรางวัลในการวินิจฉัยคดีความ สุบินนิมิตข้อที่ ๖ : พระธรรมคำสอนถูกเหยียบย่ำ พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสินบินนิมิตเห็นหมู่มนุษย์ถือถาดทองคำอันมีค่ามหาศาล ไปวางไว้ให้สุนัขจิ้งจอกถ่ายอุจจาระปัสสาวะใส่ พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปภายหน้า กลุ่มคนที่โง่เขลาเบาปัญญาจะเอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคตไปให้ลัทธิต่างๆ เหยียบย่ำทำลาย แล้วถ่ายทอดลัทธิของเขา เอาคำสอนของเขาที่สกปรกโสโครกด้วยกิเลสตัณหา มากลบเกลื่อนในคำสอนของเรา แล้วดัดแปลงแก้ไขคำสอนของเราให้เข้ากันกับลัทธิของเขา แล้วประกาศว่าคำสอนของเราเป็นส่วนหนึ่งในลัทธิของเขา สุบินนิมิตข้อที่ ๗ : ผู้มีใจต่ำแอบอ้างสถาบันกษัตริย์ พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นชายคนหนึ่งเอาหนังสือมาควั่นให้เป็นเชือกอยู่รอบม้านั่ง แล้วมีสุนัขจิ้งจอกคอยกัดกินอยู่ เมื่อควั่นเชือกเสร็จสุนัขจิ้งจอกก็กินหมดทันที พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปภายหน้าคนผู้มีจิตใจต่ำ ปัญญาทรามจะได้รับสมมติยกย่องขึ้นเป็นผู้มียศถาบรรดาศักดิ์สูง อาศัยอำนาจพระบารมีของพระมหากษัตริย์ว่าราชการแผ่นดิน โดยมีความโง่เขลาเบาปัญญา พูดจาขาดความสำรวม กล้าจะเปิดเผยความลับต่างๆ ในพระราชสำนักให้ประชาชนทั่วไปได้รู้ สุบินนิมิตข้อที่ ๘ : ทำบุญเลือกหน้า พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นโอ่งน้ำใหญ่ และโอ่งน้ำเล็กอยู่ในที่แห่งเดียวกัน แล้วมีคนทั้งหลายแย่งกันตักน้ำเทใส่โอ่งน้ำใหญ่จนล้น ส่วนโอ่งน้ำเล็กไม่มีใครตักน้ำใส่เลย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า ต่อไปภายภาคหน้าจะมีคนทำบุญโดยเลือกหน้า พระองค์ที่มีอายุมาก พรรษามาก มียศถาบรรดาศักดิ์ในตำแหน่งต่างๆ จะมีคนให้ความสนใจ จะพากันถวายเครื่องไทยทานเป็นจำนวนมาก ส่วนพระเล็กเณรน้อยไม่มีใครถวายอะไรเลย สุบินนิมิตข้อที่ ๙ : คอร์รัปชันในแผ่นดิน พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นสระน้ำขนาดใหญ่มีน้ำรอบนอกใสสะอาดเยือกเย็น ส่วนน้ำในกลางสระขุ่นข้นเป็นโคลนตม แล้วจะมีสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายพากันแย่งชิงกินน้ำในสระที่ขุ่นข้นเป็นตมนั้น ส่วนน้ำรอบนอกที่ใสสะอาดเยือกเย็นไม่มีสัตว์ตัวใดอยากจะกินเลย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า… (อ่านต่อตอนที่ 2) ขอบคุณภาพและบทความจาก http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000031558 (http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000031558) หัวข้อ: Re: พุทธทำนาย-พุทธพยากรณ์ : คำทำนายที่เป็นจริงแล้วในวันนี้ (1) เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ มีนาคม 21, 2015, 10:01:15 pm st11 st12
หัวข้อ: พุทธทำนาย-พุทธพยากรณ์ : คำทำนายที่เป็นจริงแล้วในวันนี้ (2) เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 24, 2015, 09:30:00 pm (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000003540401.JPEG) สุบินนิมิตข้อที่ 9 : คอร์รัปชันในแผ่นดิน พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นสระน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำรอบนอกใส่สะอาดเยือกเย็น ส่วนน้ำในกลางสระขุ่นข้นเป็นโคลนตม แล้วมีสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายพากันแย่งชิงกินน้ำในสระที่ขุ่นข้นเป็นตมนั้น ส่วนน้ำรอบนอกที่ใสสะอาดเยือกเย็น ไม่มีสัตว์ตัวใดอยากจะกินเลย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนจะมีความโลภ ความอยาก ไม่อิ่มพอในเงินทองมากขึ้น การงานที่สะอาด บริสุทธิ์ และสุจริตไม่อยากทำ ถือว่า เงินเดือนน้อย ร่ำรวยช้า ไม่พอต่อความโลภความอยากของตัวเอง จึงได้ลงสมัครตัวเข้ามาในสภาสันนิบาต เพื่อจะมีอำนาจในการบริหารงาน และบริหารเงินของแผ่นดินได้อย่างเต็มที่ ใช้อุบายวิธีอันมีเล่ห์เหลี่ยม ทุจริต คิดมิชอบในเงินของแผ่นดิน มือใครยาวสาวได้สาวเอา จะได้เงินมาด้วยวิธีสกปรกอย่างไร จะไม่มีความละอายแก่ใจตัวเองเลย ขอให้ได้เงินก้อนโตมาก็เป็นที่พอใจ ลักษณะนี้จะมีกันทั่วโลก มีทั่วทุกประเทศเขตแดน และจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น จะเกิดความยุ่งเหยิงในสภาสันนิบาตของประเทศนั้นๆ เพราะการแบ่งสันตำแหน่งในการดูดกินเงินภายในประเทศนั้นไม่ลงตัว ผู้นั้นจะได้กินน้อย ผู้นั้นจะได้กินมาก ผู้นั้นจะไม่ได้กินอะไรเลย สุดท้ายก็เกิดงัดข้อกันเอง เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น สุบินนิมิตข้อที่ 10 : สงสัยในมรรคผลนิพพาน พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นหม้อหุงข้าวหม้อเดียวมีความแตกต่างกัน ข้าวในหม้อซีกหนึ่งสุก ซีกหนึ่งดิบๆ สุกๆ อีกซีกหนึ่งข้าวไม่สุกเลย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนในโลกนี้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป กลุ่มหนึ่งจะมีความเชื่อว่า เราตถาคตเป็นที่พึ่งที่เคารพจริง พระธรรมคำสอนของเราตถาคตเป็นสวากขาตธรรม เมื่อนำไปปฏิบัติให้ถึงที่สุดแล้วจะพ้นจากทุกข์ได้จริง เชื่อว่า มีมรรคผลนิพพานจริง นรกสวรรค์มีจริง กรรมดีกรรมชั่วให้ผลแก่บุคคลที่กระทำจริง ตายแล้วเมื่อยังมีกิเลสตัณหาอยู่เชื่อว่าได้มาเกิดใหม่ อีกกลุ่มหนึ่งยังไม่แน่ใจว่า มรรคผลนิพพานในยุคนี้ สมัยนี้ มีจริงหรือไม่ เพราะพระพุทธศาสนาได้ล่วงเลยไปนาน พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามีความสมบูรณ์อยู่หรือไม่ พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้บรรลุมรรคผลนิพพานในยุคนี้มีจริงหรือไม่ มีแต่ความสงสัยลังเล ไม่แน่ใจ อีกกลุ่มหนึ่งปฏิเสธว่า มรรคผลนิพพานไม่มีนรกสวรรค์ไม่มี ทำดี ทำชั่วไม่ให้ผลในภายหน้าชาติหน้า ตายแล้วไม่ได้เกิดใหม่แต่อย่างใด ในช่วงปลายพุทธศาสนาโน้น คนจะเกิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นผิดมากขึ้นๆ ดังนี้ สุบินนิมิตข้อที่ 11 : นำพระธรรมมาขายกิน พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นคนพวกหนึ่ง เอาแก่นจันทร์แดงที่มีค่าราคาแพงไปแลกกับนมเปรี้ยวหม้อเดียว ซึ่งไม่สมค่าราคากันเลย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนพวกหนึ่งจะเอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคตไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินตรา จะเขียนเป็นตำราเพื่อออกจำหน่าย ขายกิน หารายได้เพื่อเลี้ยงชีวิต เอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคตทำเป็นการแสดง แต่งกลอน เพื่อผลประโยชน์ในกัณฑ์เทศน์ แสดงธรรมเพื่อเห็นแก่ค่าจ้างรางวัล อันเป็นอามิส ไม่สมค่าราคากันเลย สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงปลายศาสนาของเราตถาคตโน้น สุบินนิมิตข้อที่ 12 : คนดีถูกขัดขวางรังแก พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นน้ำเต้าแห้งเปล่ากลวงใน ตามธรรมดาแล้วจะลอยอยู่บนน้ำ แต่น้ำเต้าเปล่านั้นกลับดิ่งจมลงในน้ำนั้นเสีย พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น คนดี มีความรู้ดี มีสติปัญญาดี มีความรอบรู้ มีความฉลาด มีความสามารถ มีทั้งพระ และฆราวาส จะไม่ได้รับความยกย่องเชิดชูในสังคม จะถูกขัดขวางจากกลุ่มคนพาลสันดานชั่วอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นฆราวาสก็ไม่มีโอกาสได้ทำงานในการบริหารประเทศชาติบ้านเมือง คนมีความรู้ ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเข้ามาในสภาสันนิบาต หรือได้รับเลือกเข้ามาแล้ว ก็ไม่มีโอกาสได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่ จะมีกลุ่มทุจริตคิดมิชอบเพื่อหวังผลประโยชน์ต่าง ๆ เบียดสีให้ตกเก้าอี้ไป ในสายตาของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้จะมองเห็นคนดีๆ ว่าเป็นตัวกาลกิณีของเขา ไม่ยอมที่จะให้เข้าไปรู้เห็นในความทุจริตคิดมิชอบของตน คนดีๆ จึงไม่มีในสังคมนี้เลย ถ้าเป็นนักบวชก็เป็นในลักษณะนี้เช่นกัน ท่านองค์ใดมีใจบริสุทธิ์ผุดผ่องในพระธรรมวินัย มีความรู้ดี ปฏิบัติชอบต่อมรรคผลนิพพาน ท่านเหล่านั้นจะไม่มีใครให้ความสนใจ ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากฟังธรรม จะมองเห็นว่าเป็นพระคร่ำครึล้าสมัยไม่เกิดศรัทธา ไม่อยู่ในสายตาของเขาแต่อย่างใด เพราะใจไม่มีความเคารพเชื่อถือในท่านเหล่านั้น แม้แต่จะแบ่งปันปัจจัยทั้งสี่ที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือก็ไม่เต็มใจ ถึงจะถวายให้ก็นิดหน่อย พอเป็นพิธีเท่านั้น ท่านเหล่านี้จึงมีชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก ใครก็ไม่อยากบวชเป็นพระในลักษณะนี้ ในที่สุดพระดีๆ มีคุณธรรมก็จะค่อยหมดไปๆ ในศาสนาของเราตถาคต เรื่องเหล่านี้จะเกิดมีในภายภาคหน้าโน้น (อ่านต่อตอนที่ 3 ตอนจบ) คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000034168 (http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000034168) |