สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ เมษายน 01, 2015, 07:49:10 pm



หัวข้อ: ช็อก! ชายชราอยู่กินกับ"ศพเมีย"นาน10เดือน เหตุยากจน-ไม่อยากกวนใคร แอบดูถึงรู้
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 01, 2015, 07:49:10 pm
(http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14278755131427875590l.jpg)

ช็อก! ชายชราอยู่กินกับ"ศพเมีย"นาน10เดือน เหตุยากจน-ไม่อยากกวนใคร เพื่อนบ้านแอบดูถึงรู้

เมื่อวันที่ 1 เมษายน นายชาติชาย  อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รับรายงานจากนายวัชรินทร์ รัตนบรรณกิจ นายอำเภอนครชัยศรี จ.นครปฐม ว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ได้รับแจ้งจากนายณรงค์ชัย  คงยั่งยืน  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และนายโสภณ แช่มมั่นคง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระชับ ว่านางซกกี่  จู๋ยืนยง อายุ 83 ปี อยู่เลขที่ 47 ม.2 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2557

โดยมีนายยม จู่ยืนยง อายุ 78 ปี สามี อยู่กินกับซากศพมานานกว่า 10 เดือน  เนื่องจากมีฐานะยากจนจึงไม่อยากรบกวนใคร จึงให้นายจักรกฤษณ์ ไขว้พันธุ์ ปลัดอำเภอนครชัยศรี ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องและพอจะช่วย ได้ตามสมควรและให้ผู้ปกครองท้องที่ออกใบมรณะบัตรให้แก่นางซกกี่ จู๋ยืนยงให้ถูกต้องตามกฎหมาย

 
(http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14278755131427875595l.jpg)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้น บริเวณรอบบ้านมีแต่ขวดพลาสติก ขวดแก้ว และวัสดุเหลือใช้ อยู่โดยรอบบริเวณทั้งด้านล่างและบนบ้านเกลื่อนกลาดไปหมด ซึ่งด้านบนพบศพผู้หญิง  มีเส้นผมที่ยาว  สภาพศพแห้ง มีกลิ่นสาบ และเหลือแต่โครงกระดูกโดยปกคลุมด้วยผ้าห่มสีแดง และกางมุ้งผ้าครอบไว้อีกที  จากการสอบข้อเท็จจริง บ้านหลังดังกล่าวมีแค่นายยม และนางซกกี่  จู๋ยืนยง  2 ตา ยาย พักอาศัยอยู่กันลำพัง โดยนางซกกี่ ป่วยทางสายตามองไม่เห็น ต้องนอนอยู่กับบ้าน นายยม หรือเตี้ย ผู้เป็นสามีเป็นคนออกไปหาเก็บของเก่าขายประทังชีวิต โดยในแต่ละเดือนจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ

นายยม หรือเตี้ย จู่ยืนยง กล่าว่า ตนมีลูกชายชื่อนายอนุสิทธิ์ หรือแดง จู่ยืนยง อายุ 44 ปี (เกิดพ.ศ.2514) รู้เพียงว่าลูกชายไปทำงานรับจ้างอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ นานมากแล้วไม่เคยกลับมา และว่านางซกกี่  เสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน  2557 เวลา 13.10 น. ที่บ้านหลังนี้ แต่ด้วยฐานะที่ยากจน และนางซกกี่ บอกว่าหากตายอย่าไปรบกวนใครเขา เอาศพกางมุ้งนอนที่บ้าน อยู่ด้วยกันเหมือนปกติ จึงไม่นำศพมาบำเพ็ญกุศลและไม่มีการแจ้งตายแต่อย่างใด และยังคงไปรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการ ของนางซกกี่ ทุกเดือนที่ผ่านมา 


(http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14278755131427875599l.jpg)

ด้าน นายณรงค์ชัย  คงยั่งยืน  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม กล่าวว่า ชาวบ้านในละแวกเกิดการสงสัย ว่าป้าซกกี่ ไม่ออกจากบ้าน และไม่เห็นป้าซกกี่ นานมากแล้ว จึงถามลุงเตี้ยว่าป้าซกกี่ ไปไหน ลุงเตี้ยบอกว่าไปทำงาน ซึ่งแปลกที่ป้าแกมองไม่เห็นจะไปไหนได้ จึงแอบขึ้นไปดูบนบ้านขณะที่ลุงเตี้ยไปเก็บของเก่า  ถึงกับตะลึงว่าแกอยู่กับซากศพป้าซกกี่บนบ้าน

ต่อมา ชาวบ้านจึงถามความจริงกับลุงเตี้ย จนยอมรับว่าอยู่กับซากศพป้าซกกี่นานกว่า 10 เดือนแล้ว โดยจะซื้อข้าว และขนม และน้ำ มาตั้งไว้ให้เมียกินก่อน สักระยะแกค่อยนำมากินต่อเหมือนว่าให้เมียกินก่อนแล้วแกค่อยกินทีหลัง โดยลุงเตี้ย  ยังยืนยันว่า ป้าซกกี่ แกไม่ยอมให้เผาศพและห้ามนำไปวัด และอย่าไปรบกวนใครให้เกิดหนี้สิน และขออยู่ที่บ้านนี้ตลอดไป และด้วยความรักของสองตายายนี้แกได้บอกว่า หากผมตายอีกคนให้นำศพใส่โลงตั้งไว้บนบ้านนี้คู่กัน


(http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14278755131427875603l.jpg)

(http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14278755131427875607l.jpg)

ด้านนายโสภณ  แช่มมั่นคง อายุ 65 ปี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระชับ กล่าวว่านายยม หรือเตี้ย เมื่อก่อนตอนหนุ่มๆ แกเป็นคนรับจ้างจับหมู มีร่างกายแข็งแรง เป็นคนตรงไปตรงมา และเมื่ออดีตคนละแวกนี้เรียกแกว่า “เซียนเตี้ย” แกโขกหมากรุกเก่งมาก และแกจะเป็นคนตรง พูดจากฉะฉาน ระยะหลังฐานะครอบครัวยากจน ลูกชายก็ไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัดไม่เคยกลับมา ส่วนตัวจึงได้รวมกับนายกและผู้ใหญ่บ้าน และเพื่อนบ้านในละแวก สมทบเงินกันช่วยเหลือแกและช่วยกันทำความสะอาดรอบบริเวณบ้านให้แก

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ข่าวดังกล่าวแพร่ออกไป ได้มีกลุ่ม "สองล้อใจบุญ" นำเงินมาบริจาคให้ลุงเตี้ย 10,000 บาท และมีคนในตลาดซื้อหีบศพมาให้ และยังมีผู้ใจบุญหลั่งไหลมาจะช่วยบริจาคเงินให้ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระชับ จึงให้เจ้าหน้าที่พาลุงเตี้ย ไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือให้ถูกต้องต่อไป


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427875513 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427875513)