สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

วิหารเทพวิทยาคม (วิหารปริสุทธปัญญา)

วิหารเทพวิทยาคมหรือวิหารปริสุทธปัญญา เป็นอุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาด ๓๐ ไร่ของวัดบ้านไร่ ก่อสร้างขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะให้เป็นดินแดนที่ให้ความรู้และก่อให้เกิดปัญญาในเรื่องของพระพุทธศาสนาตามพระวินัย และพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ทั้งหมด เพื่อจรรโลงพระศาสนาให้เป็นไปตามพระดำรัสของพระพุทธองค์ในช่วงก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ความว่า “แท้จริงแล้ว วินัยที่เราได้บัญญัติแก่ท่านทั้งหลายก็ดี ธรรมที่เราได้แสดงแล้วแก่ท่านทั้งหลายก็ดี เมื่อเราล่วงไปแล้ว ธรรมและวินัยเหล่านั้นจะเป็นศาสดาของท่านทั้งหลายตลอดไป” ดังนี้มหาวิหารแห่งนี้จึงเป็นสถานที่แห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่นำเอาพระวินัย และพระธรรมของพระพุทธเจ้ามาแสดงนั้นหมายความถึงให้ชาวพุทธทั้งหลายได้มาพบพระศาสดาของพุทธศาสนา




ลานอธิษฐาน

บริเวณลานอธิษฐาน เบื้องหน้าพญานาค ๑๙ เศียร ทั้ง ๒ ตน รวมเป็น ๓๘ เท่ากับมงคลชีวิต ๓๘ ข้อ ก่อนเดินไปสู่วิหารเทพวิทยาคม มีไว้สำหรับให้ตั้งจิต อธิษฐาน ให้สัจจะคำมั่นสัญญาว่าจะตั้งมั่นในการรักษามงคลชีวิตข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อที่ท่านปฏิบัติอยู่ก่อนเป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ก่อนที่จะก้าวเดินไปตามสะพานพญานาค ๑๙ เศียร ทั้ง ๒ ตน และเมื่อถึงวิหารเทพวิทยาคม ก็เท่ากับว่าท่านได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ลานอธิษฐาน อยู่เบื้องหน้าวิหารกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ที่มีความหมายถึงห้วงแห่งวัฏสงสารแล้ว ท่านจะสังเกตว่า องค์วิหารต่อเชื่อมกับตลิ่งโดยมีสะพานพญานาค ๒ ตน แต่ละตนมีเศียร ๑๙ เศียร รวมแล้วเป็น ๓๘ เศียร หมายถึงมงคล ๓๘ ประการในพุทธศาสนา บริเวณนี้เรียกว่าลานอธิษฐาน มีไว้สำหรับให้ท่านสาธุชนตั้งจิตอธิษฐานก่อนที่จะก้าวเดินไปตามสะพานพญานาคนาค ๓๘ เศียร และเมื่อถึงองค์วิหารก็เท่ากับว่าท่านได้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว




ทั้งนี้ การตั้งจิตอธิษฐาน ณ เบื้องหน้าพญานาคทั้ง ๒ ตนมีความหมายว่า ท่านได้ให้สัจจะคำมั่นสัญญาว่าจะตั้งมั่นในการรักษามงคลชีวิตที่ท่านปฏิบัติอยู่ เช่น จะรักและดูแลบิดามารดาตลอดไป หรือจักขยันหมั่นเพียรตั้งใจประกอบสัมมาอาชีวะซึ่งอยู่ในมงคลชีวิต ๓๘ ประการ ดังนี้ อานิสงค์จะบังเกิดแก่ท่านทำให้มีทรัพย์ศฤงคารสามารถเลี้ยงดูตนเองได้ในยามแก่เฒ่า เลี้ยงดูบิดามารดา ภรรยา บุตรธิดา ลูกหลานได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ซึ่งผลสำเร็จจากคำอธิษฐานนั้นย่อมเกิดจากเหตุแห่งการกระทำของผู้ตั้งจิตอธิษฐานเป็นหลักหากไม่ผิดสัจจะคำมั่นสัญญาไปเสียก่อน

ดังนั้น ท่านสาธุชนผู้มีความเคารพศรัทธาปรารภนาจะก้าวสู่โลกแห่งธรรมเบื้องหน้า ก็พึงตั้งจิตอธิษฐานว่า ข้าพเจ้าจักละทิ้งสิ่งชั่วร้ายที่อาศัยอยู่ในอัตตาตัวตนแห่งเราทั้งหลาย ทั้งความโลภก็ดี ความโกรธก็ดี ความหลงก็ดี เอาไว้ที่ลานอธิษฐานแห่งนี้ จักพกแต่ดวงจิตอันบริสุทธิ์ใสสะอาดปราศจากกิเลสทั้งปวง เพื่อให้ข้าพเจ้าได้ก้าวผ่านห้วงแห่งวัฏสงสารเข้าสู่โลกแห่งธรรม มีดวงตาเห็นธรรมตั้งแต่กาลบัดนี้สืบไป




พญานาค 19 เศียร 2 ตน

ก่อนที่จะเข้าสู่วิหารเทพวิทยาคม จะต้องเดินขึ้นสะพานพญานาค ๑๙ เศียร ทั้ง ๒ ตน ซึ่งมีความสูง ๑๒ เมตร กว้าง ๗.๕ เมตร มีเศียรรวมกันเป็น ๓๘ เศียร เปรียบได้กับมงคลชีวิตทั้ง ๓๘ ประการ ซึ่งมี ๒ สีด้วยกัน คือ สีโทนร้อน ชื่อว่า ท้าวทศนวศิระเตช (ท้าว-ทด-สะ-นะ-วะ-ศิ-ระ-เต-ชะ) และสีโทนเย็น ชื่อว่า ท้าวทศนวศิระดิศ (ท้าว-ทด-สะ-นะ-วะ-ศิ-ระ-ดิด) ซึ่งทอดลำตัวโอบล้อมยกวิหารหรือยกพระวินัยและพระธรรมของพระพุทธเจ้าขึ้นพ้นจากฝั่งโลกียภพและข้ามบึงน้ำแห่ง( วัฏสงสาร ) สังสารวัฏ โดยส่วนหางจะไปบรรจบและพันกันเป็นเกลียว ๓ เกลียว ซึ่งเปรียบเป็น ศีล สมาธิ ปัญญา ที่โอบอุ้มดวงแก้วสารพัดนึกเอาไว้ที่ด้านหลังวิหาร





“เศียรช้างเอราวัณ”

ไฮไลท์งานปั้นเศียรช้างปูนปั้น หนัก 520 ตัน กรุโมเสกไล่สีให้สีเหมือนการลงสีช้างเผือก รายละเอียดการไล่สี หนังช้าง งวงช้างอันอ่อนช้อย ได้รับการไล่เฉดสีด้วยโมเสกชิ้นเล็กชิ้นน้อย ดังภาพวาดระบายสี เเม้กระทั่งลูกตา เหมือนจริง ทั้งมองจากระยะไกลเเละระยะใกล้ งานฝีมือโมเสกไล่สีฝีมือชาวบ้านเเละศิลปินผู้มจิตศรัทธาเเรงกล้า ชาวไทย ที่ต้องใช้ความสามารถเเละความยากลำบากอย่างที่สุดในการปีนป่ายสู่ที่สูงเนรมิตรงานวิจิตรจะได้รายระเอียดดังภาพวาดสีชั้นดีอย่างน่าอัศจรรย์
_________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://watbaanrai.com/ (http://watbaanrai.com/)

พญานาค 7 เศียร

พญานาค ๗ เศียร เป็นงานประติมากรรมปูนปั้นประดับด้วยเซรามิกที่สูงใหญ่ที่สุดในโลก ความสูงทั้งหมด มาตรฐาน ๑๗ เมตร ใช้เทคนิคการติดเซรามิคแบบเบญจรงค์ และแต่ละเศียรเป็นสีของฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้า โดยพญานาค 7 เศียรตนนี้เป็นตัวแทนดวงแก้วจากประเทศลาวทั้ง ๗ ที่มีผู้นำมาถวาย ซึ่งหลวงพ่อคูณ ท่านได้ยิงลงไปในบึง ๓๐ ไร่ ถวายเป็นพญานาค ๗ เศียรเฝ้าสระ มีชื่อว่า “ท้าวสัตตะมณีรังสีนาคราช” (ท้าว-สัด-ตะ-มะ-ณี-รัง-สี-นาค-คะ-ราด)




น้ำพุ “พญานาค ๗ เศียร”

เมื่อประมาณ ๑๐ กว่าปีมาแล้วมีคณะศิษย์จากประเทศลาวได้นำลูกแก้วพญานาคมาถวายหลวงพ่อคูณ  หลวงพ่อคูณได้มายืนอยู่ริมบึง ๓๐ไร่ ณ ตรงนี้ แล้วกำกับลูกศิษย์ (คุณโต้ง สมบูรณ์ โสตถิอนันต์) ใช้หนังสติกยิงลูกแก้วพญานาคที่ได้มา ไปในบึงในทิศทางที่ต่างกัน  โดยเฉพาะบริเวณที่ตั้งวิหารเทพวิทยาคม ได้ยิงไปหลายสิบลูก รวมทั้งสิ้น ๗ สี เกิดเป็นนิมิตพญานาคราชเจ็ดเศียรรักษาวิหารเทพวิทยาคม  พระนาม “ท้าวสัตตะมณีรังสีนาคราช” ผู้ใดได้กราบไหว้บูชาจะเป็นผู้โชคดี มีความสุขความเจริญตลอดไป ปรารถนาสิ่งใดจะได้ตามประสงค์ทุกประการ บรรดาทุกข์ โศก โรคภัยหรือถูกกล่าวร้ายจะถูกปัดเป่าให้ผ่านพ้นมลายสูญสิ้นไป
_________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://watbaanrai.com/ (http://watbaanrai.com/)

ซุ้มอภิมหาบารมีพระกุเวร(ท้าวเวสสุวรรณ)

เทพแห่งทรัพย์ บันดาลให้เกิดทรัพย์ ผู้พิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา และคุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ มีความสูง ๓.๕๓ เมตร ฐานกว้าง ๑.๖๐ เมตรพระหัตถ์ถือกระบองเป็นอาวุธ ปกป้องไม่ให้ความชั่วร้ายมารังควาญผู้ประพฤติดี บนยอดจั่วหลังคามีเทพกินนรเทวดาครึ่งนกผู้จรรโลงสวรรค์และบันดาลความสุข มีนกทัณฑิมาปักษาแห่งสวรรค์ และยักษ์มงกุฎนาคผู้ปกป้องความชั่วร้าย มียักษ์สูง ๒.๑๐ เมตร เป็นบริวารผู้เฝ้าขุมทรัพย์ ทรงม้าเป็นพาหนะ แสดงถึงความอิสระ ความยุติธรรม
_________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://watbaanrai.com/ (http://watbaanrai.com/)

ทางเดินลาดขึ้นสู่ชั้นที่ ๒

บริเวณทางเดินวนขึ้นสู่ชั้นที่ ๒ ซึ่งปากทางจะมีภาพจิตรกรรมเขียนสีเป็นภาพหมู่ชนถือดอกบัวบูชาพระรัตนตรัยกำลังเดินขึ้น สื่อความหมายว่าการเดินขึ้นสู่ชั้นที่ ๒ นี้ก็เปรียบเสมือนการเดินทางจากโลกมนุษย์ไปสู่ดินแดนสุขาวดีบนสรวงสวรรค์ ฉะนั้น พุทธศาสนิกชนที่ปรารถนาจะขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์จะต้องมีความเคารพศรัทธาตั้งจิตภาวนาระลึกถึงพระรัตนตรัยอันประกอบไปด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รัศมีดอกบัวแต่ละดอก ที่ปรากฏ มีขนาดใหญ่เล็กต่างกันสุดแต่บุญบารมีของแต่ละคนนั้นสร้างไว้ และบริเวณทางเดินลาดนี้ยังมีจุดเติมบุญอยู่ถึง ๙ จุด ซึ่งท่านสาธุชนจะได้รับการ์ดซึ่งมีลวดลายสวยงามที่บันทึกบทสวดมนต์อันเป็นสิริมงคลทั้ง ๙ บท นอกจากนี้ ณ จุดพักกลางทาง ท่านสาธุชนสามารถชมความสวยงามภายในวิหารชั้นที่ ๑ จากมุมสูงได้อีกด้วย



สถานีเติมบุญที่ ๑. : ตั้งจิตเป็นสมาธิ น้อมจิตพนมมือ ประดุจ บัวบูชาพระรัตนตรัย ประกอบด้วยบทสวด ชินบัญชร ซึ่งเป็นบทสวดที่อัญเชิญศักดิ์สิทธิ์จากทั่วทุกสารทิศมาสถิตอยู่ในตัวเรา เพื่อช่วยปกป้องคุ้มครองเราให้ปราศจากภยันอันตรายทั้งปวง



สถานีเติมบุญที่ ๓. : เดินทางสู่ ประตูพระธรรม เพื่อได้พบความสุขที่แท้จริง คือความสุขด้วยปัญญา เป็นความสุขจากการหลุดพ้นกิเลสทั้งปวง ประตูพระธรรมคือ หนทางนำไปสู่ความสุขด้วยหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ประกอบบทสวด โพชฌงค์ ตามพุทธประวัติเล่าว่า ครั้งหนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหากัสสะปะที่กำลังอาพาธ และทรงแสดงธรรมโพชฌงค์ พระมหากัสสัปปะได้ฟังก็หายจากอาพาธ ต่อมาได้ทรงแสดงธรรมนี้แก่พระโมคคัลลานะซึ่งอาพาธ หลังจากนั้น พระโมคคัลลานะก็หายอาพาธเช่นเดียวกัน ในที่สุด เมื่อสัมมาสัมพุทธเจ้าประชวร ได้ตรัสให้พระจุนทะเถระแสดงธรรมโพชฌงค์ถวาย พระองค์ก็ทรงหายประชวร ได้ตรัสให้พระจุนทะเถระแสดงธรรมโพชฌงค์ถวาย พระองค์ก็ทรงหายประชวร



สถานีเติมบุญที่ ๔. : ระหว่างการเดินปฏิบัติสมาธิภาวนา “พุทโธ พุทโธ พุทโธ” กำหนดเป็น ภาพปริศนาธรรม น้อมจิตระลึกถึงคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาอันบริสุทธิ์ ทำจิตใจให้เป็นสมาธิ เกิดพลังแห่งกุศลจิตบันดาลให้เหตุร้ายกลายเป็นดีทวีคูณ ประกอบบทสวด ยันทุน อันเป็นคาถาลางขจัดปัดเป่าเหตุลางชั่วร้าย และอวมงคลให้พินาศไป ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า



_________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://watbaanrai.com/ (http://watbaanrai.com/)

ชั้นที่ 3 “นำเสนอเรื่องราวของพระธรรมปิฎก พระธรรมขันธ์”


บอร์ดเดินจงกรม เดินเจริญสติ กำหนดรู้ ทุกย่างก้าว กายเคลื่อนไหว ใจสงบนิ่ง ยกหนอ ย่างหนอ เหยียบหนอ



บอร์ดนาค : นาค เปรียบดั่ง ผู้หลุดพ้นจากกิเลส พระอรหันต์ ผู้เปี่ยมด้วยความเพียร เข้าถึงปัญญาอันบริสุทธิ์ ละกิเลสเครื่องทำให้จิตเศร้าหมอง




บอร์ดอึ่ง (คนโกรธพองตัวเหมือนอึ่ง) : อึ่ง เปรียบเสมือน ความโกรธ ละความโกรธได้ ด้วยปัญญา



บอร์ดทางสองแพร่ง : ทางสองแพร่งเปรียบเสมือนความลังเลสงสัย ใช้ปัญญากำจัดความลังเลสงสัยให้สิ้นไป ทำดี ดี ทำชั่ว ชั่ว
_________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://watbaanrai.com/ (http://watbaanrai.com/)


ans1 ans1 ans1 ans1

ทริปวิหารเทพวิทยาคม แบ่งออกเป็นสองตอน ตอนแรกมีภาพให้ชมเท่านี้ครับ ขอบพระคุณที่ติดตาม....

 :welcome: :49: thk56 :25:

 


        สาธุ สาธุ  ครับ

(http://www.madchima.net/forum/gallery/30_25_04_15_12_11_42.jpeg)

 ในภาพกำลังจับ พระที่ห้อยคอ
 สันนิษฐาน คือ 1 ขอดูพระที่ห้อยคอ 
                 2 น่าจะถามราคาหรืออะไรประมาณนี้
                 3 อาจจะเป็นเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นที่มีราคาสูงก็เป็นไปได้
   
  สรุปก็คือ พระ ดู พระ นั่นเอง

    st11 st12

(http://www.madchima.net/forum/gallery/30_25_04_15_12_11_42.jpeg)

 ในภาพกำลังจับ พระที่ห้อยคอ
 สันนิษฐาน คือ 1 ขอดูพระที่ห้อยคอ 
                 2 น่าจะถามราคาหรืออะไรประมาณนี้
                 3 อาจจะเป็นเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นที่มีราคาสูงก็เป็นไปได้
   
  สรุปก็คือ พระ ดู พระ นั่นเอง

    st11 st12

    ตามนั้นแหละ นะ
    เป็นการสนทนา ทักทาย มัคคุเทสก์ ที่คอยดูแลต้อนรับผู้เยี่ยมชมวิหาร
    ที่น่าสังเกต ทุกคนจะห้อย พระหลวงพ่อคูณ ที่คอกันทุกคน แต่ห้อยแบบเปิด ไม่ใช่ปิด คือ มองเห็นเด่นชัด ใครเห็นต้องทักทาย และ ก็คงต้องถามว่า ทำไมรุ่นนี้ไม่มีให้บูชาในตู้ ประมาณนี้ เพราะว่าที่เขาห้อยคอกันนั้น เขาเรียกว่า รุ่นกรรมการ ประมาณนี้ ราคาก็หลักหมื่่น นะ ( ฟังจากเขาพูดนะ )

      ;)

    ที่นี้คิดภาพเกี่ยวกับ ปีใหม่ หมดแล้วนะนี่ ถือว่า ได้ย้อนเหตุการณ์ กับภาพกันอีก ก็ดี นะ

    ;)

        ขอสาธุ สาธุ ครับ


       
          เป็น ปฏิมากรรมที่งดงามมาก    ขอโมทนา  บารมีหลวงพ่อคูณ  เอาไปสร้างเจดีย์ ซักหน่อยนะครับ

             ขออนุโมทนาสาธุ ติ