หัวข้อ: หากไทยไม่พร้อม.! ′ว.วชิรเมธี′ ชี้ช่องบวช ′ภิกษุณี′ ′ศรีลังกา-จีน-ไต้หวัน′ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 29, 2015, 08:31:44 am (http://www.matichon.co.th/online/2015/04/14302685951430268620l.jpg) หากไทยไม่พร้อม.! ′ว.วชิรเมธี′ ชี้ช่องบวช ′ภิกษุณี′ ′ศรีลังกา-จีน-ไต้หวัน′ เมื่อวันที่ 29 เมษายน พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ประธานมูลนิธิวิมุตตยาลัย เปิดเผยกรณีที่มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติห้ามไม่ให้ผู้หญิงบวชเป็นภิกษุณีในประเทศไทยว่า ต้องขออนุโมทนาตามที่ มส.ได้พิจารณา แต่แทนที่จะเสียเวลากับความขัดแย้งในเรื่องนี้ ให้หันมาดูช่องทางเดิมที่มีอยู่เพื่อพัฒนาให้มีมาตรฐานน่าจะดีกว่า เช่น พัฒนาศักยภาพแม่ชี สนับสนุนทางด้านการศึกษาและเผยแผ่ ขณะนี้แม่ชีหลายท่านเก่งมาก ศึกษาพระธรรมวินัยจนได้เปรียญธรรม 9 ประโยค และหลายท่านเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างดี อย่างไรก็ตามที่ มส.ยืนยันมติเดิมตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ได้หมายความว่า หนทางที่ผู้หญิงจะบวชภิกษุณีปิดเสียทีเดียว ยังมีประเทศอื่นที่บวชภิกษุณีได้ เช่น ศรีลังกา จีน และไต้หวัน หากไทยยัง ไม่พร้อมให้ผู้หญิงบวช ถ้ามองในแง่นี้ไม่น่ามีปัญหา เพราะการยอมรับภิกษุณีของสังคมไทยจะเกิดขึ้นหรือไม่ สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ประเด็นกฎหมาย แต่อยู่ที่ภิกษุณีจะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพเผยแผ่พระธรรมคำสอนหรือเกื้อกูลสังคมได้มากน้อยเพียงไรมากกว่า ทุกวันนี้มีสถาบันมากมายในสังคมโลกที่ไม่ใช่สถาบันที่มีกฎหมายรองรับ แต่สามารถขับเคลื่อนตัวเอง ก่อให้เกิดประโยชน์สุดต่อประเทศชาติมากมาย :25: :25: :25: :25: "การยอมรับที่แท้จริงมาจากการก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมมากกว่า สถาบันใดที่ทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม สถาบันนั้นจะได้รับการอุ้มชูจากสังคมโดยอัตโนมัติ ในทางกลับกันสถาบันใดก็ตามต่อให้เป็นสถาบันที่ตั้งถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถ้าสังคมได้พิสูจน์อย่างชัดเจนว่าเป็นสถาบันที่มีประโยชน์น้อยลง วันหนึ่งต่อให้มีตัวตน แต่จะไม่มี ความหมายไปโดยอัตโนมัติ" พระมหาวุฒิชัยกล่าว ans1 ans1 ans1 ans1 พระมหาวุฒิชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดในขณะนี้มี 2 ประการ คือ 1.การปฏิรูปการศึกษาของคณะสงฆ์ ให้มีความเป็นเลิศในเชิงวิชาการและแม่นยำทางพระธรรมวินัย พร้อมกันนั้นให้พระสงฆ์เป็นผู้มีศีลาจารวัตรงดงามน่ากราบไหว้ ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เกิดจากความบกพร่องทางการศึกษาของคณะสงฆ์เป็นสำคัญ เนื่องจากการศึกษาแผนเดิมสืบมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ทำให้พระสงฆ์ไม่แม่นยำในพระธรรมวินัย ขณะเดียวกันโลกก็เปลี่ยนทุกวินาที ดังนั้น พระสงฆ์ต้องรู้เท่าทันโลกาภิวัตน์ แต่พระสงฆ์ทุกวันนี้ไม่ต่างจากก้อน กลมๆ ในรูเหลี่ยมๆ ครั้นจะขึ้นเป็นผู้นำสังคม ศักยภาพก็ไม่ถึง ครั้นจะไม่นำ สังคมก็เรียกร้อง เพราะเป็นผู้นำทางด้านจิตวิญญาณโดยอัตโนมัติ อยู่แล้ว ดังนั้นถ้าจะแก้ปัญหาด้านการศึกษา คณะสงฆ์จะอนุโมทนาเป็นที่สุด ฝากถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าการปฏิรูปการศึกษาของคณะสงฆ์ควรเป็นวาระแห่งชาติ ถ้าไม่ทำเรื่องนี้ ปัญหาหมักหมมในวงการคณะสงฆ์จะคงอยู่และประทุเป็นระยะ จนเกิดวิกฤตศรัทธาตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย ฉะนั้นความมั่นคงของสถาบันสงฆ์อยู่ที่ประสิทธิภาพของทางการศึกษาเป็นสำคัญ พระมหาวุฒิชัยกล่าวอีกว่า และ 2.การปกครองคณะสงฆ์ ควรปฏิรูปให้กระจายอำนาจและทำให้พระสงฆ์กลับมาหยัดยืนอยู่กับพระธรรมวินัยมากกว่ายึดอยู่กับโครงสร้างเชิงอำนาจ ซึ่งเป็นอันตรายต่อพระสงฆ์ ความงามของ พระสงฆ์อยู่ที่ความเป็นพระธรรมดา เมื่อเข้าใกล้อำนาจจะยิ่งอันตราย เพราะเมื่ออำนาจอยู่ที่ใครก็จะทำให้บุคคลนั้นเสียคน จึงอยากฝากว่าถ้ารักพระพุทธศาสนา ต้องช่วยกันอุปถัมภ์สถาบันสงฆ์อย่างถูกต้อง อย่าเน้นการบำรุงอุปถัมภ์เชิงอำนาจและเงินทองข้าวของ แต่ต้องอุปถัมภ์ด้วยการถวายความรู้ ถวายคำแนะนำในสิ่งที่ท่านทำไม่ถูกต้อง และต้องมีท่าทีต่อกันอย่างกัลยาณมิตร st12 st12 st12 st12 "พระพุทธศาสนาน่าเป็นห่วงมากในเวลานี้ เพราะ ใกล้ชิดกับอำนาจรัฐมากเกินไป เช่น รัฐเข้าไปถวายการ บำรุงผ่านงบประมาณต่างๆ จนพระสงฆ์มองเป็นรัฐฐะ เหมือนเป็นผู้บริหารตัวเอง ทำให้หลงลืมว่าแท้ที่จริงพระสงฆ์ ต้องยึดโยงอยู่กับพระธรรมวินัยเป็นหลัก ควรส่งเสริมพระสงฆ์ ที่อุทิศตนทำงานด้านพระศาสนาให้มีสถานภาพบทบาททางสังคมที่ชัดเจน อย่างน้อยแค่ให้กำลังใจ พระสงฆ์เหล่านั้น จะมีกำลังใจ อย่าส่งเสริมเฉพาะพระที่อยู่ใกล้ผู้ใหญ่ และอยากขอให้พระสงฆ์ทำงานสังคมสงเคราะห์ให้มากขึ้น ออกมาช่วยเหลือเกื้อกูลสังคม เป็นพระสงฆ์ที่รู้ร้อนรู้หนาวถึงความทุกข์ของประชาชนว่ามีอะไรบ้าง แล้วร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการแก้ปัญหาของสังคม ถ้าทำได้อย่างนี้ บทบาทต่างๆ ของพระสงฆ์จะฟื้นกลับมา รวมถึงวิกฤตศรัทธาที่ลดน้อยถอยลงด้วย" พระมหาวุฒิชัยกล่าว ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430268595 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1430268595) หัวข้อ: Re: หากไทยไม่พร้อม.! ′ว.วชิรเมธี′ ชี้ช่องบวช ′ภิกษุณี′ ′ศรีลังกา-จีน-ไต้หวัน′ เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ เมษายน 29, 2015, 08:39:39 pm :08:
ก็คงต้องตามมติ.....ครับ หัวข้อ: Re: หากไทยไม่พร้อม.! ′ว.วชิรเมธี′ ชี้ช่องบวช ′ภิกษุณี′ ′ศรีลังกา-จีน-ไต้หวัน′ เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ เมษายน 30, 2015, 09:31:24 am เห็นด้วย กับ พระบัณฑิต ท่านนี้คะ คือ ทำไม คนไทย หญิงไทย เราต้องมาเรียกร้อง สิทธิ์อะไรในเรื่องนี้ ในประเทศไทย ที่มีกฏอย่างนี้อยู่คะ จำเป็นต้องชนะ มส. เมืองไทย ให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก หรือ คะ ที่สำคัญ ภิกษุณี ที่อุปสมบถในนิกาย อื่น ๆ นั้นในเมืองไทย ก็ไม่ได้ ผลักดัน ขับไล่ไปไม่ใช่หรือคะ
คิดว่า ถ้าผ่านเวลาไปอีกยาวนาน สัก 50 ปี เรื่องของภิกษุณี เมืองไทยเป็นที่ยอมรับ ของคนไทย มากขึ้นก็คง จะสำเร็จ เอง นั่นแหละคะ ไม่เห็นจะต้องไปเรียกร้อง เรื่องอะไร ให้มันวุ่นวาย เป็นแม่ชี ก็ได้นี่คะ เพราะอย่างไร ภิกษณี ก็ไม่ได้เหนือ พระบวชใหม่ อยู่แล้ว เพศแม่ชี ก็คิดว่า น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรือ คะ :s_hi: :58: |