หัวข้อ: บุกกุฎิ "เจ้าอาวาสวัดบ้านยาง" บี้ชี้แจงการเงินพบเงินในบัญชีวัดเหลือแค่สามพันกว่า เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 06, 2015, 10:39:59 pm (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367409.JPEG) ชาวนครปฐม บุกกุฎิ "เจ้าอาวาสวัดบ้านยาง" บี้ชี้แจงการเงิน พบเงินในบัญชีวัด เหลือแค่ 3 พันกว่าบาท นครปฐม - ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดนครปฐมกว่า 400 คน บุกกุฎิเจ้าอาวาสวัดบ้านยาง จี้ให้ออกมาชี้แจงเรื่องบัญชีเงินของวัด หลังตรวจสอบพบไม่มีความโปร่งใสมานาน แถมพบพฤติกรรมมีธุรกิจรถบรรทุก และเป็นมาเฟียจนชาวบ้านระอา จนหวิดเกิดความวุ่นวายขึ้นทางเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าคณะตำบล พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาต้องเข้าเคลียร์ ผลจากการตรวจสอบพบเงินในบัญชีของวัดเหลือแค่ 3 พันกว่าบาท ผบ.สำนักพุทธ และเจ้าคณะจังหวัดสั่งตรวจสอบให้กระจ่างใน 15 วัน วันนี้ (6 พ.ค.) เวลา 14.00 น. ที่วัดบ้านยาง ม.3 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม ได้มีชาวบ้านกว่า 400 คนเข้ามาติดตามความเคลื่อนไหวในการขอตรวจสอบการใช้เงินของพระโกศลจิตตานุรักษ์ หรือ อาจารย์กบ อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านยาง ซึ่งมีปัญหากับชาวบ้านมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยมีนายประกอบ ดาปาน กำนันตำบลบ้านยาง และนายกิตติพงษ์ พึ่งบุญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บ้านยาง เป็นแกนนำในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ที่ได้นัดให้เจ้าอาวาสนำเอกสารทางการเงินมาชี้แจงต่อหน้าชาวบ้านในวันนี้ โดยมีทหารจากกรมการสัตว์ทหารบก ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจากอำเภอเมืองนครปฐมหลายสิบนายคอยควบคุมความสงบดังกล่าว เนื่องจากในการประชุมเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา มีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะบานปลายเนื่องจากเจ้าอาวาสไม่สามารถนำเออกสารทางการเงินของวัดมาชี้แจงได้ (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367410.JPEG) พระโกศลจิตตานุรักษ์ หรือ อาจารย์กบ อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านยาง โดยเมื่อถึงเวลานัดชาวบ้านที่ได้มารวมตัวที่บริเวณลานหน้าวัด พบว่าศาลาการเปรียญที่เคยมีการใช้อยู่เป็นประจำนั้นถูกปิดล๊อกไว้ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านอย่างมาก จึงได้นำขบวนเดินไปหาพระโกศลจิตตานุรักษ์ หรืออาจารย์กบ ที่กุฏิหลังวัด แต่พบว่าห้องล๊อก จึงได้พยายามที่จะเข้าไปภายในเพื่อหาตัวเจ้าอาวาส แต่ในห้องมีการล๊อกจึงได้พยายามจะเปิดประตูเข้าไป โดยกำลังทหารเริ่มเข้ามาควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้บานปลาย และเปิดศาลาการเปรียญให้ชาวบ้านที่ไปรออยู่และขอให้อยู่ในความสงบ ต่อมา พ.ท.มานพ กสิบุตร นายทหารหัวหน้าชุดฯ ได้ประสานกับนายนายวิโรจน์ อุ่นทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ที่ได้เข้านำเอกสารในการชี้แจงเรื่องข้อสงสัยครั้งก่อน ให้นิมนต์พระโกศลจิตตานุรักษ์ เจ้าอาวาสออกมาชี้แจงกับชาวบ้าน โดยมีการรับรองความปลอดภัย โดยให้ ร.ท.พงศกร สรสิทธิ์ นำกำลังทหารเจ้ามาคอยเดินเป็นเกราะมนุษย์เพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย และได้มีการตั้งโต๊ะเพื่อให้มีการถามตอบเกี่ยวกับข้อสงสัยของชาวบ้านและเจ้าอาวาสวัดบ้านยาง โดยมีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมถึงพระมหาประสิทธิชัย ปัญญิโต เจ้าอาวาสวัดโพรงมะเดื่อ เจ้าคณะตำบลบ้านยาง ซึ่งเป็นเจ้าคณะปกครอง ได้เข้ามารับฟังการตอบถามของชาวบ้าน 10 ข้อที่ได้มีการเสนอผ่านไปยังผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367408.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367407.JPEG) ทั้งนี้ ในการตอบข้อสงสัยเป็นไปอย่างตรึงเครียด ซึ่งมีคำถามที่เป็นเรื่องของการใช้เงินในวัดเป็นหลัก ทั้งการก่อสร้างพระประธานหลวงปู่จันทร์ ที่ผิดแบบและยังไม่แล้วเสร็จ การมีธุรกิจรถบรรทุก การบริหารจัดการทางด้านการเงินของวัดในหลายปีที่ผ่านมา กระทั่งเริ่มจะมีชาวบ้านไม่พอใจและได้เริ่มส่งเสียงขับไล่ทหารจึงต้องคอยควบคุมสถานการณ์ตลอดเวลา เพราะกินเวลายาวนานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ และเริ่มมีกลุ่มที่สนับสนุนเจ้าอาวาสวัดบ้านยาง ที่เป็นวัยรุ่นชายฉกรรจ์หลายคนมายืนหนุนหลังติดกัน กระทั่งถึงช่วงที่นายประกอบ ดาปาน กำนันตำบลบ้านยาง ได้สอบถามถึงบัญชีรายรับจ่ายของวัดบ้านยาง ซึ่งทางวัดได้แจ้งว่ามีการเปิดบัญชีไว้ชัดเจนและมีเงินเข้าออกทุกเดือน และมีเงินขอวัดอยู่ครบถ้วน แต่ทางพระโกศลจิตตานุรักษ์ ก็ยังไม่ได้นำเอกสารมาแสดงและบ่ายเบี่ยงที่จะนำมาให้ชาวบ้านได้รับรู้การแสดงรายรับรายจ่าย ตั้งแต่การประชุมครั้งก่อนจนมาครั้งนี้ (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367406.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367405.JPEG) กระทั่งพระมหาประสิทธิชัย ปัญญิโต เจ้าอาวาสวัดโพรงมะเดื่อ เจ้าคณะตำบลบ้านยาง ได้ยกมือไหว้พระโกศลจิตตานุรักษ์ เพื่อให้ไปนำสมุดบัญชีมาเพื่อแสดงต่อสาธารณะ พระโกศลจิตตานุรักษ์ จึงได้ยอมกลับไปนำมาให้ แต่ส่งเพียงสมุดบัญชีมาเท่านั้น ส่วนพระโกศลจิตตานุรักษ์ ได้กลับเข้ากุฎิไปโดยไม่ได้ออกมาชี้แจงด้วยตัวเองอีก จากการตรวจสอบสมุดบัญชีพบว่า สมุดบัญชีของวัดมีเงินเหลือเพียง 3,546 บาท จากที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าเหลืองเงินอยู่ 1 ล้านบาทเศษ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ และทางวัดได้ส่งเจ้าหน้าที่ในการนำเอกสารวางมัดจำซื้อที่ดิน มีวงเงินจำนวน 1.8 ล้านบาทมาแสดง แต่ปรากฏว่าหนังสือดังกล่าวมีมาตั้งแต่ปี 55 และถึงตอนนี้ได้เป็นสัญญาที่หมดอายุไปแล้ว (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367404.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367403.JPEG) นายวิโรจน์ อุ่นทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เห็นว่าการพูดคุยของทั้ง 2 ฝ่ายดูจะบานปลายจึงได้ประสานกับนายประกอบ ดาปาน กำนันตำบลบ้านยาง โดยได้ข้อสรุปว่า อีก 15 วันให้เจ้าอาวาสวัดบ้านยาง ทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดเสนอต่อพระมหาประสิทธิชัย ปัญญิโต เจ้าอาวาสวัดโพรงมะเดื่อ เจ้าคณะตำบลบ้านยาง และจะได้นำเรื่องนี้ไปเสนอต่อเจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม ซึ่งถูกกำชับจากเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมว่า ให้ติดตามเรื่องนี้อย่างชัดเจนเพื่อตั้งคณะประชุมหาแนวทางในการตัดสินว่าจะมีความผิดหรือไม่ หากผิดก็จะมีการลงโททางกฎทางสงฆ์ต่อไป นายประกอบ ดาปาน กำนันตำบลบ้านยาง กล่าวว่า วันนี้ก็เห็นแล้วว่าเอกสารที่ชาวบ้านสงสัยก็ยังเป็นที่คาใจ และเจ้าอาวาสวัดบ้านยางก็ยังไม่กลับมาชี้แจงในเอกสาร ทำให้ชาวบ้านที่เคลือบแคลงใจในการเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านยางมากขึ้นและจะเดินหน้าหาหลักฐานต่างๆ มาชี้ความผิดให้ชัดเจนให้ได้ โดยบอกว่าชาวบ้านได้บอกแล้วว่าหากยังโปร่งใส่จะขอไปทำบุญที่วัดอื่นก่อน เพราะปัญหาทั้งเรื่องเงินกฐิน เงินทำบุญ เงินก่อสร้างพระประธาน และเงินต่างๆ ก็ยังไม่ได้รับการชี้แจงให้ชัดเจนและยังมีอีกหลายเรื่องในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งก็จะกลับมาอีกหากมีหลักฐานแม้วันนี้เจ้าอาวาสจะหลบหน้าไป (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367402.JPEG) (http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000005367401.JPEG) จากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการเจรจากันนานกว่า 5 ชั่วโมง ชาวบ้านจึงทยอยกลับด้วยความสงบแต่ได้ทิ้งข้อสงสัยไว้หลายข้อที่ยังเคลือบแคลงใจ และส่วนหนึ่งอยากให้มีการพิจารณาตัวในการลาสิขาออกไปใช้ชีวิตแบบประชาชนธรรมดา เพราะการบริหารการเงินมีคณะกรรมการเพียงไม่กี่คนและเชื่อว่ามีการเมืองระดับท้องถิ่นที่เป็นกำลังหลักสนับสนุนพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดบ้านยาง ทำให้วัดเสื่อมโทรมและมีสิ่งของเช่นไม้ยางและการให้เช่าที่ดิน 300 ไร่ นั้นก็ไม่มีการแสดงรายได้ชัดเจน และยังมีพฤติกรรมที่เป็นมาเฟียมีลูกน้องหลายคนคอยดูแล ความปลอดภัย โดยคาดจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง จนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน ขอบคุณภาพข่าวจาก http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000051852 (http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000051852) |