|
หัวข้อ: กำชับ พระ-พจศ.-สวจ. อย่าเกี่ยง "งานหมู่บ้านศีล 5" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 12, 2015, 06:57:58 pm (http://www.dailynews.co.th/images/1048270?s=750x500) กำชับ พระ-พจศ.-สวจ. อย่าเกี่ยง "งานหมู่บ้านศีล 5" ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ย้ำ พศจ.-สวจ.อย่าเกี่ยงงานหมู่บ้านรักษาศีล 5ประสานกันทำงาน เข้มพระสังฆาธิการไม่ทำถือว่าขัดมติ มส.ด้าน "พนม ศรศิลป์" ตั้งเป้าเพิ่มยอดประชาชนร่วมโครงการระยะ 2 มากกว่า 30 ล้านคน วันนี้ (12 พ.ค.) ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วงวรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานเปิดการประชุมสัมนาขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาหมู่บ้านรักษาศีล 5 พร้อมมอบโล่รางวัลเกียรติคุณผู้ขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล5 โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวสัมโมทนียกถาว่า โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นมติของมหาเถรสมาคม (มส.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในการนำหลักของศีล 5 ไปสู่การปฎิบัติของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้แก่คนในชาติจึงอยากให้คณะสงฆ์และผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดต่างๆ ร่วมผลักดันให้โครงการนี้ขยายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้คนในชุมชนและหมู่บ้านต่างๆน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปใช้ในการดำเนินชีวิตด้วย :25: :25: :25: :25: สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวต่อไปว่า ฝากถึงคณะสงฆ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด(พศจ.) และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) อย่าเกี่ยงงานกัน ให้ร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ขับเคลื่อนต่อไปได้ไม่เกิดปัญหา ขณะเดียวกันฝากถึงคณะสงฆ์ขอให้เน้นเทศน์เรื่องศีล 5 เป็นหลักไม่ว่าจะงานบุญ งานศพ หากพระเทศน์ให้ญาติโยมได้ฟังบ่อยๆ หลายๆวิธีการ ก็จะทำให้ประชาชนซึมซับเรื่องของศีล 5 ได้ โดยเฉพาะพระสังฆาธิการต้องปฏิบัติตามมติ มส.เรื่องโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 หากไม่ดำเนินการจะถือว่าขัดต่อมติ มส.ได้ ด้านนายพนม ศรศิลป์ ผอ.พศ.กล่าวว่า การขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ในระยะที่ 2 ปี 2558-2560 จะเน้นสร้างคุณภาพโครงการ โดยเน้นการปูพรมให้มีผู้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีประชาชนเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศยังไม่ถึงร้อยละ 50 ดังนั้นคณะสงฆ์ และ พศ.จึงตั้งเป้าหมายว่าต้องมีประชาชนเข้าร่วมโครงการให้เกินร้อยละ 50 หรือ กว่า 30ล้านคนให้ได้.“ ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/education/320648 (http://www.dailynews.co.th/education/320648) |