|
หัวข้อ: ใครขัดมติมส. จะเกิดอะไรขึ้น ‘สมเด็จช่วง’ ไม่ตอบ ดันหมู่บ้านรักษาศีล เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 13, 2015, 08:07:03 am (http://www.thairath.co.th/media/EyWwB5WU57MYnKOuFtPOq5tZxXwrdROnMcGcADecE2vgumTsc9aHik.jpg) ใครขัดมติมส. จะเกิดอะไรขึ้น ‘สมเด็จช่วง’ ไม่ตอบ ดันหมู่บ้านรักษาศีล เจ้าคณะภาค 15 สั่ง “พระธรรมปัญญาภรณ์” ทำหนังสือชี้แจงเหตุถูกกล่าวหาไม่สนองงานโครงการหมู่บ้านศีล 5 ด้าน “ศิษย์สำนักวัดมหาธาตุ” โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ยอมรับเหลือความหวังน้อยนิดที่ “พระธรรมปัญญาภรณ์” จะได้กลับมาเป็นเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ทั้งยอมรับการตัดสิน เพราะวัดปากน้ำฯเป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรของวัดมหาธาตุ ขณะที่ “สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์” เตือนพระสังฆาธิการ ไม่สนองงานโครงการหมู่บ้านศีล 5 ถือว่าปฏิบัติขัดมติ มส. จากกรณีที่พระพรหมเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ในฐานะเจ้าคณะภาค 15 มีคำสั่งพักงานพระธรรมปัญญาภรณ์ (ไพบูลย์ ชินวํโส) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ จ.ราชบุรี จากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี พร้อมทั้งแต่งตั้งพระมหาปราโมทย์ ปโมทิโต วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม จ.ราชบุรี ในฐานะรองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี โดยเหตุผลของคำสั่งพักงานในครั้งนี้มาจากการที่พระ ธรรมปัญญาภรณ์ไม่สนองงานคณะสงฆ์ ในการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 :96: :96: :96: :96: ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเรื่องนี้ว่าพระพรหมเวที ได้ขอให้พระธรรมปัญญาภรณ์ ทำเรื่องชี้แจงกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งพระธรรมปัญญาภรณ์ได้ทำเรื่องชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวส่งไปยังพระพรหมเวทีแล้ว ขณะที่นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้เช่นกัน ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังมีคำสั่งพักงานพระธรรมปัญญาภรณ์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่ลูกศิษย์ลูกหา โดยในเฟซบุ๊กของ น.อ.ทองย้อย แสงสินชัย ในฐานะศิษย์สำนักวัดมหาธาตุ ราชบุรี ก็มีการโพสต์ข้อความ “หนึ่งล้านกำลังใจ ให้พระธรรมปัญญาภรณ์” โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า “ท่านเจ้าคุณเป็นศิษย์มีครู เพราะคำว่าศิษย์มีครู ของท่านเจ้าคุณ แม้เวลาความหวังของเหล่าบรรดาศิษย์จะน้อยนิดที่อยากจะเห็นท่านเจ้าคุณกลับมาสู่ตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดอีกครั้ง นี่จึงเป็นที่มาของการ “ไม่ปริปาก-ไม่โต้แย้ง-ไม่แสดงอาการขัดขืนใดๆ ทั้งสิ้น-ยอมรับคำตัดสินที่ไม่มีการไต่สวนนี้โดยสงบ เพราะวัดปากน้ำฯ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของวัดมหาธาตุมาตลอดเวลาอันยาวนาน” st12 st12 st12 st12 นอกจากนี้ พบว่ามีการส่งต่อรูปใบปลิวผ่านทางสื่อออนไลน์ เช่น แอพพลิเคชั่นไลน์ในกลุ่มพระสงฆ์ โดยในใบปลิวดังกล่าวมีข้อความโจมตีพระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง ระดับเจ้าอาวาสวัดดังใน จ.ราชบุรี กับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี (พศจ.ราชบุรี) โดยระบุว่าเป็นที่มาของการดำเนินการโค่นล้มพระธรรมปัญญาภรณ์ ทั้งยังระบุด้วยว่ามีการแจกใบปลิวดังกล่าวในพื้นที่ จ.ราชบุรี ด้วย ส่วนที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ วันเดียวกัน คณะสงฆ์ โดยมหาเถรสมาคม (มส.) ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดการประชุมสัมมนาขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 พร้อมมอบโล่รางวัลเกียรติคุณผู้ขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 โดยมี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน พร้อมทั้งกล่าวว่า โครงการนี้มีระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2557-2560 โครงการระยะที่ 1 กำลังจะผ่านพ้นไปด้วยดี ซึ่งการดำเนินการโครงการนี้ต้องร่วมมือกันทั้งคณะสงฆ์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด รวมไปถึงวัฒนธรรมจังหวัด หากมีการดำเนินการที่ขัดกันแล้ว โครงการก็ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ดังนั้น จึงต้องพร้อมใจกันดำเนินการโครงการนี้ st11 st11 st11 st11 ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวต่อไปว่า โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นมติของมส. ดังนั้นพระสงฆ์ทั่วประเทศจะต้องปฏิบัติตาม หากไม่ปฏิบัติตาม จะถือว่าขัดมติของ มส. ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อขัดมติ มส.นั้น ไม่ขอตอบ ทั้งนี้ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 มีแนวทางในการนำศีล 5 ไปสู่การปฏิบัติของประชาชนทั่วประเทศ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้แก่คนในชาติ จึงอยากให้คณะสงฆ์และผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดต่างๆร่วมผลักดันให้โครงการนี้ขยายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น และน้อม นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ไปใช้ในการดำเนินชีวิตด้วย ด้านนายพนม ศรศิลป์ ผอ.พศ.ให้สัมภาษณ์ว่า การขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 จากนี้ไปในระยะที่ 2 ปี 2558-2560 จะเน้นสร้างคุณภาพโครงการ โดยเน้นให้มีผู้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีประชาชนเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศยังไม่ถึงร้อยละ 50 ดังนั้น คณะสงฆ์ และ พศ.จึงตั้งเป้าหมายว่าต้องมีประชาชนเข้าร่วมโครงการให้เกินร้อยละ 50 หรือมากกว่า 30 ล้านคนให้ได้ ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/498450 (http://www.thairath.co.th/content/498450) |