สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 07:35:13 pm



หัวข้อ: เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่รูปใหม่ อาจให้ชาวบ้านเลือกตั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 07:35:13 pm
(http://www.dailynews.co.th/images/1059178?s=750x500)

เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่รูปใหม่ อาจให้ชาวบ้านเลือกตั้ง

เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เตรียมสอบสินทรัพย์หลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ 25 พ.ค. ส่วนแต่งตั้งเจ้าอาวาสอย่างเป็นทางการอาจใช้วิธีให้ชาวบ้านเลือกตั้ง ด้านหลานยันหลวงพ่อไม่รู้เห็นหนี้สิน 95 ล้าน สร้างวิหาร

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพิธีสวดพรอภิธรรมบำเพ็ญกุศล พระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ในคืนที่ 6 เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เจ้าอาวาสวัดด่านใน ต.ด่านใน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมาได้ประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่า

พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงนามคำสั่งคณะสงฆ์จังหวัดนครราชสีมาที่ จจ10/2558 ลงวันที่ 18 พ.ค.2558 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคม และวัดบ้านไร่ โดยมีคณะกรรมการรวมทั้งสิ้น 31 คน ทั้งจากฝ่ายสงฆ์และฆราวาส หากประชาชนท่านใดต้องการทราบรายละเอียดทรัพย์สิน สามาราถเข้าร่วมประชุมในวันที่ 25 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ณ ศาลาการเปรียญวัดบ้านไร่ โดยเน้นย้ำว่ามิใช่การตรวจสอบทรัพย์สินแต่เป็นการประเมินทรัพย์สินเท่านั้น


(http://www.dailynews.co.th/images/1059179?s=750x500)

สำหรับกรณีความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้นพระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์กล่าวว่า การแต่งตั้งพระภาวนาประชานาถ (นุชรตนวิชโย) เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เป็นสิทธิ์ที่เจ้าคณะตำบลกระทำได้ อีกทั้งชาวบ้านวัดบ้านไร่ต่างยินยอมพร้อมใจกันแต่การแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดอย่างเป็นทางการนั้น จะมีการประชุมหารืออีกครั้ง โดยอาจใช้วิธีการเลือกตั้งให้ชาวบ้านไร่ใช้สิทธิ์เขียนชื่อหยอดลงในบาตรและนำผลการเลือกตั้งเสนอต่อเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาพิจารณาต่อไป

(http://www.dailynews.co.th/images/1059180?s=750x500)

จากกรณีการสร้างวิหารเทพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กลางสระน้ำหลังอุโบสถวัดบ้านไร่ และมีข่าวว่า หลวงพ่อคูณเป็นหนี้ในการก่อสร้างถึง 95 ล้านบาทนั้น นายสาธร จันทร์เพ็ง อายุ 59 ปี หลานชายหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า หลวงพ่อคูณไม่เคยมีดำริ และยินดีต่อการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใด ๆ โดยเมื่อครั้งที่หลวงพ่อยังมีสุขภาพแข็งแรงดี ท่านเคยเอ่ยถามลูกศิษย์ว่า

พวกมึงจะรื้อจะสร้างอะไรกันโดยเฉพาะที่สระน้ำหลังโบสถ์นั้นห้ามเด็ดขาด พวกมึงรู้ไหม หากไปทำอะไรกับบ่อน้ำนั้น ชีวิตกูจะสั้นลงถ้าพวกมึงจะทำจะสร้างอะไร ก็กลับไปสร้างที่บ้านของพวกมึง และหลวงพ่อคูณยังเคยเล่าว่า สระน้ำหลังโบสถ์ เป็นบ่อน้ำโบราณมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่จำนวนมาก ค่ำวันหนึ่งหลวงพ่อคูณได้ชวนตนไปที่สระน้ำ จากนั้นได้โยนพระพุทธรูปทองคำแท้ลงไปกลางสระน้ำกระทั่งปี 2554 มีการสูบน้ำออกจากสระ เพื่อก่อสร้างวิหารเทพ หลวงพ่อคูณก็เริ่มป่วยอาพาตอย่างหนัก จนต้องเข้าพักรักษาตัวที่ รพ.มหาราช และ รพ.ศิริราช อยู่นานเกือบปี


(http://www.dailynews.co.th/images/1059181)

"ส่วนการแต่งตั้งเจ้าอาวาสจะรักษาการหรือถาวร ตนสนับสนุนไม่ว่าใคร พระภาวนาประชานาถ (นุชรตนวิชโย) ที่รักษาการอยู่ตอนนี้ ตนนั้นก็มีความสนิทชิดเชื้อกันดี เพราะท่านเป็นพระนักพัฒนาที่ดีคนหนึ่ง อดีตตอนท่านยังเป็นฆราวาส เคยร่วมฝ่าฟันและสร้างวัดบ้านไร่มากับหลวงพ่อคูณ ส่วนกรณีหลวงพ่อคูณเคยไล่ใครออกจากวัดบ้านไร่หรือไม่นั้น

ขออธิบายว่า หลวงพ่อคูณไม่เคยกล่าวขับไล่ หรือห้ามลูกศิษย์คนใดเข้ามาวัดบ้านไร่หลวงพ่อมักจะเตือนลูกศิษย์ว่า อย่ามายุ่งเกี่ยวกับวัดบ้านไร่ พยายามอยู่ห่าง ๆ วัด เพราะเรื่องผลประโยชน์มันมากมาย อาจฆ่ากันตายได้ส่วนตนเองไม่เคยได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวใด ๆ ทั้งสิ้นแค่ได้ขายก๋วยเตี๋ยวและเปิดร้านจำหน่ายวัตถุมงคลหลวงพ่อคูณเล็กๆ น้อยๆ ก็พออยู่ได้แล้ว" นายสาธร กล่าว..


ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/regional/323209 (http://www.dailynews.co.th/regional/323209)