หัวข้อ: วิธีเจริญเมตตาดับโทสะ (โยนิโสมนสิการ) ไม่ห่างจากการฝึกสมาธิชั้นสูง เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ พฤศจิกายน 19, 2010, 06:24:27 pm วิธีเจริญเมตตาดับโทสะ (โยนิโสมนสิการ) ไม่ห่างจากการฝึกสมาธิชั้นสูง
-------------------------------------------------------------------------------- เมตตาธรรม เป็นธรรมที่ดับโทสะ หรือความโกรธได้โดยตรง ท่านว่าเมื่อโกรธ ถ้าจะหายต้องเจริญเมตตา แต่สิ่งที่ยากก็คือ จะทำอย่างไรจึงจะมีเมตตาได้ เมื่อมีความโกรธเกิดขึ้นมาแล้ว เราจะต้องคิดอย่างไร ความเมตตาจึงจะเกิด ความคิดอย่างนี้ถือเป็นความคิดอันแยบคาย ( โยนิโสมนสิการ ) ซึ่งมีหลักที่น่าคิด บางประการดังนี้ ๑. คิดแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา ว่าเขากับเราก็เหมือนกันนั่นเอง ทุกคนก็ปรารถนาความสุข เกลียดความทุกข์กันทั้งสิ้น ทุกอย่างที่ทำไปก็ล้วนมีแต่เหตุปัจจัยให้กระทำทั้งนั้น ทุกคนต่างก็รักตัวเอง แต่ก็ทำพลาดไปกันได้ เพราะกิเลสที่เข้ามาในใจ คือ โลภ โกรธ และหลง กันทั้งสิ้น เมื่อพลาดไปแล้ว ก็ไม่รู้จะโกรธกันไปทำไม อะไรให้อภัยได้ก็ให้อภัยกันจะดีกว่า ๒. คิดว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง โลกนี้ไม่เที่ยง ทุกคนเกิดมาไม่นานก็ต้องตาย ต้องเจ็บป่วย ต้องแก่ชราหนังเ:P่ยว ต้องพลัดพรากจากกันทั้งสิ้น ไม่เกิน ๑๐๐ ปี ก็ต้องตายกันหมด และบางครั้งก็เร็วกว่านั้นมาก ทุกคนล้วน เป็นสิ่งที่น่าสงสาร ไม่รู้จะป่วย จะตายกันเมื่อไหร่ เหมือนสัตว์ที่ถูกบรรทุกไปโรงฆ่า น่าสงสารมาก จะตายกันอยู่รอมร่อแล้วยังกัดกันในรถอีก ๓. คิดว่า ความโกรธเป็นความเศร้าหมองทุกข์ใจ แต่ถ้าให้อภัยกันปรารถนาดีต่อกันจะมีความสุขขึ้นมาทันที เราควรจะมีชีวิตอยู่กับสิ่งที่ดี มีความสุขมากกว่า ไม่รู้จะพากันทำตัว ทำใจให้เศร้าหมองกันไปทำไม การคิดอย่างนี้ ทำให้เกิดธรรมมะขึ้นมาในใจ ทำให้ปล่อยวางและให้อภัยได้ง่าย จากนั้นก็คิดว่า ขอให้เราทุกคน ทั้งเขาและเรา จงมีความสุขเถิด และความคิดจากหลังสุดนี้แหละ คือการเจริญเมตตา ขอให้หมั่นเจริญเมตตาเถิด มีคำสอนที่เป็นพุทธพจน์สอนไว้ในพระสูตร ชื่อว่า “เวลามสูตร” ว่าแม้ทำทานมากมาย หรือมีการสมาทานรักษาศีลห้า หรือ เบญจศีล อานิสงส์ก็ไม่เท่า การเจริญเมตตา แม้แต่เพียงนิดเดียวเลย ทรงสอนอีกว่า "เมื่อเจริญเมตตา แม้เพียงนิดเดียว ถือว่าไม่ห่างจากการฝึกสมาธิชั้นสูง จนมีฌานสมาบัติเลยทีเดียว" * ที่มา : หนังสือ พรอันประเสริฐ |