สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 29, 2015, 10:03:08 pm



หัวข้อ: เที่ยวอิ่มบุญรับวันวิสาขบูชา สืบทอดศาสนา “พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา” วัดเทพศิรินทร์
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 29, 2015, 10:03:08 pm

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257601.JPEG)
บรรยากาศภายในห้อง “ห้องตรัสรู้” ที่ “พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา”

เที่ยวอิ่มบุญรับวันวิสาขบูชา สืบทอดศาสนา ที่ “พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา” วัดเทพศิรินทร์
โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
     
       สุดสัปดาห์นี้มีวันหยุดติดกันหลายวัน เพราะวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (1 มิ.ย.) คือ “วันวิสาขบูชา” วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก โดยวันดังกล่าวเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธโคดม สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยทั้ง 3 เหตุการณ์ได้เกิดในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขะ (ต่างปีกัน) ชาวพุทธจึงถือว่า เป็นวันที่รวมเกิดเหตุการณ์สำคัญและอัศจรรย์ จึงเรียกการบูชาในวันนี้ว่า "วิสาขบูชา" ย่อมาจาก "วิสาขปุรณมีบูชา" แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ
       
       และเนื่องจากเป็นวันหยุดที่พิเศษ ฉันจึงวางแผนไว้ว่าจะไปไหว้พระทำบุญ และร่วมกิจกรรมที่วัด และศึกษาพุทธประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และฉันก็เป็นคนที่โชคดีอย่างมาก เพราะได้ถูกชักชวนไปเข้าร่วมกิจกรรม “เคทีซีปันรักให้น้องด้วยความรู้” ซึ่งทางบัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย (KTC) เป็นผู้จัดขึ้น โดยเป็นกิจกรรมพาน้องนักเรียนโรงเรียนวิจิตรวิทยา ไปเที่ยวและศึกษาพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ที่ “พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา” วัดเทพศิรินทร์ ซึ่งกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ฉันไม่พลาดอย่างแน่นอน


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257602.JPEG)
อาคารพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา

        ดังนั้นเพื่อให้เข้ากับเทศกาลงานบุญวิสาขบูชานี้ ฉันจึงขอพามาที่ "พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา" ซึ่งอยู่ภายในวัดเทพศิรินทร์ โดยมีคณะน้องๆ นักเรียน และวิทยากรพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาพาชม ฉันมีความรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวกับน้องๆ นักเรียน เหมือนได้ย้อนวัยกลับมาเป็นนักเรียนที่มาทำกิจกรรมทัศนศึกษาอีกครั้ง แต่ก่อนที่ทุกๆ คนจะย้างก้าวเข้าสู่อาคารพิพิภัณฑ์นั้น พี่วิทยากรก็ได้เล่าถึงประวัติวัดเทพศิรินทร์แบบคร่าวๆ ให้ได้ฟังกันก่อน
       
       “วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร” เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2419 หรือเมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้ 25 พรรษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระบรมราชชนนีของพระองค์ที่ทรงสิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ยังทรงพระเยาว์
       
       ชมคลิป เที่ยว “พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา” วัดเทพศิรินทร์ เรียนรู้วันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน
       ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=8tXXqlGMicw (https://www.youtube.com/watch?v=8tXXqlGMicw)       

        หลังจากนั้น วิทยากรก็ได้เล่าถึงประวัติของตัวอาคารพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาให้ได้ฟังกันต่อมา โดยอาคารหลังนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรม ใน พ.ศ. 2433 เป็นอาคารแบบตะวันตกสองชั้น และได้ยังเป็นที่จำพรรษาของอดีตเจ้าอาวาส 2 รูป ได้แก่ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์และสมเด็จพระวันรัต ซึ่งในปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงให้กลายเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา เพื่อสืบทอดและเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้แก่พุทธศาสนิกชน โดยภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นห้อง 7 ห้อง มีการจัดแสดงนิทรรศการเป็นแบบ 4 มิติ
       
       พี่วิทยากรพาฉันและน้องๆ เดินขึ้นไปยังชั้นบนก่อน โดยเริ่มต้นที่ห้องแรกคือ “ห้องปฐมบท” ที่ได้บรรยายธรรมมะตั้งแต่การเกิดสิ่งมีชีวิตบนโลก และเหตุการณ์วันประสูติของพระพุทธเจ้า ที่บรรยายว่าพระองค์ได้ประสูติ ณ ใต้ต้นสาละในสวนป่าลุมพินี เป็นพระราชโอรสของพระนางสิริมหามายา พระอัครมเหสีในพระเจ้าสุทโธทนะแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ และบรรยายถึงเหตุที่พระองค์ได้ตัดสินพระทัยออกบวชเพื่อค้นหาความจริงของชีวิตมนุษย์
       
       และเข้าสู่ห้องที่ 2 ที่มีชื่อว่า “ห้องตรัสรู้” ภายในห้องจัดบรรยากาศขณะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ และบรรยายถึงการบำเพ็ญเพียรเพื่อการบรรลุธรรมจนพระองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฉันชอบห้องนี้มากๆ เพราะบรรยากาศการแสดงแบบ 4 มิติ แสง สี แสง และบรรยากาศดูเสมือนจริง ทำให้การชมไม่น่าเบื่อและเข้าใจได้ง่าย


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257603.JPEG)
ฟังพระพุทธเจ้าแสดงธรรมปฐมเทศนา ที่ “ห้องปฐมเทศนา”

        หลังจากประทับใจกับการบรรยายในห้องที่ 2 เราก็เดินต่อไปยัง “ห้องปฐมเทศนา” ห้องจัดแสดงห้องที่ 3 ห้องดังกล่าวบรรยายเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ โดยมีการจัดบรรยากาศให้เหมือนเมืองสารนาถ สถานที่แสดงธรรม และได้บรรยายถึงพระองค์ที่ได้เดินทางเพื่อสั่งสอนพุทธศาสนิกชนทั้งหลายตลอดระยะเวลา 45 พรรษา เพื่อให้ศาสนิกชนได้พบเห็นทางที่นำไปสู่ความสุขอย่างแท้จริง

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257604.JPEG)
พระพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันปรินิพพาน

        และฉันก็เดินต่อไปยังห้องที่ 4 ห้องสุดท้ายของชั้นที่ 2 คือ “ห้องปรินิพพาน” ภายในห้องได้มีการจำลองบรรยากาศพร้อมกับการบรรยายเหตุการณ์ขณะที่พระพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันปรินิพพาน ใต้ต้นสาละคู่ ณ กรุงกุสินารา ขณะมีพระชนมายุ 80 พรรษา

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257605.JPEG)
“ห้องพระราชประวัติ”

        เมื่อได้ชมห้องจัดแสดงครบทั้ง 4 ห้อง พี่วิทยากรก็จะพาเราเดินลงบันไดไปชมห้องนิทรรศการที่ชั้นล่างกันต่อ โดยที่ชั้นล่างนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ห้องได้แก่ “ห้องพระราชประวัติ” ที่จัดแสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี และพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257606.JPEG)
บรรยากาศ “ห้องพระอุโบสถ” จำลองภายในพระอุโยบสถให้ได้ชม

        ถัดไปก็จะเป็น “ห้องพระอุโบสถ” ที่จัดแสดงประวัติการก่อสร้างพระอุโบสถวัดเทพศิรินทร์ โดยได้มีการจำลองความงดงามภายในพระอุโบสถมาให้ได้ชม และจะมีการบรรยายถึงรายละเอียด ของลวดลายจิตรกรรมฝาผนัง ซุ้มประตูหน้าต่าง พร้อมทั้งบรรยายประวัติและรายละเอียดของเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ประดับไว้บนเพดานของพระอุโบสถ และฉันก็จะไปชมของจริงหลังจากการชมพิพิธภัณฑ์เสร็จเรียบร้อย

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257607.JPEG)
“ห้องกำแพงแก้ว” จัดแสดงและบรรยาย ประวัติ “พระศรีมหาโพธิ์”

        และห้องสุดท้าย “ห้องกำแพงแก้ว” เป็นห้องที่จัดแสดงและบรรยายถึงประวัติการอัญเชิญพระศรีมหาโพธิ์ มาปลูกที่วัดเทพศิรินทร์ โดยต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น เป็นพันธุ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ของวัดนิเวศธรรมประวัติ จังหวัดอยุธยา ที่นำพันธุ์มาจากเมืองพุทธคยาอีกทีหนึ่ง รัชกาลที่ 5 ได้ทรงเพาะเมล็ด ต่อมาเมื่อเมล็ดเติบโตเป็นต้นแล้ว พระองค์จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้เชิญไปปลูกที่วัดเทพศิรินทร์

(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257608.JPEG)
“พระอุโบสถ” และ “ต้นพระศรีมหาโพธิ์”

        เมื่อได้ทราบถึงที่ประวัติทั้งหมดแล้ว ก็ได้เวลาไปชมพระอุโบสถวัดเทพศิรินทร์ของจริง เดินมาไม่ไกลมากฉันก็ได้พบกับพระอุโบสถที่มีขนาดใหญ่และสง่างาม ด้านนอกมีเสาพาไลต้นใหญ่ๆ อยู่โดยรอบ และเมื่อได้ย่างก้าวเข้าไปภายในพระอุโบสถ ฉันก็ได้พบความงดงามแทบทุกมุม โดยเฉพาะองค์พระประธานที่ประดิษฐานบนฐานชุกชีทรงประสาทจัตุรมุข องค์พระพระประธาน มีพระนามว่า “พระทศพลญาณ” เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่หล่อในสมัยกรุงสุโขทัย และอัญเชิญจากเมืองพิษณุโลกมาประดิษฐานในปี พ.ศ. 2438
       
       และด้านบนเพดานของพระอุโบสถยังถูกประดับประดาด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ถูกแกะสลักไว้อย่างสวยงาม อาทิ เครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราชวราภรณ์ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือก เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ซึ่งงดงามเกินบรรยายจริงๆ และภาพจิตรกรรมฝาผนังก็ยังงดงามน่าชม โดยเป็นลวดลายดอกรำเพย ซึ่งเป็นพระนามเดิมของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257609.JPEG)
ความงดงามภายในพระอุโบสถ

        หลังจากฉันได้ชมความงดงามของพระอุโบสถจนเต็มอิ่มแล้ว ฉันก็ขอเดินชมบรรยากาศภายในวัดต่อ นอกจากพระอุโบสถอันงดงามแล้ว ภายในวัดก็ยังมีโบราณสถานต่างๆ ให้ได้ชมกันอีกด้วย อาทิ อนุสรณีย์จาตุรนตอนุสสารี , อนุสรณีย์ภาณุรังสีอนุสสร , ต้นพระศรีมหาโพธิ์ , วิหารอัฐิท่านเจ้าคุณนร ,ตึกแม้นศึกษาสถาน ที่สร้างด้วยศิลปะแบบกอธิค


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257610.JPEG)
“พระทศพลญาณ” ประดิษฐานบนฐานชุกชีทรงประสาทจัตุรมุข

        การได้มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาของฉัน ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ช่างคุ้มค่าจริงๆ เพราะฉันได้รับรู้เรื่องราวในพุทธประวัติที่มีเหตุการณ์ตรงกับวันวิสาขบูชา ซึ่งทำให้ฉันได้ความรู้และความเข้าใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งฉันยังได้มีโอกาสไหว้พระขอพรเสริมความเป็นสิริมงคล และชมความงดงามของพระอุโบสถวัดเทพศิรินทร์ หากเพื่อนๆ คนไหนมีความสนใจในเรื่องราวพุทธประวัติแล้ว ฉันก็ขอแนะนำให้มาเที่ยว รับรองได้ว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน


(http://mpics.manager.co.th/pics/Images/558000006257611.JPEG)
“เครื่องราชอิสริยาภรณ์” ความงดงามบนเพดาน พระอุโบสถวัดเทพศิรินทร์
               
       พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ในวัดเทพศิรินทร์ เปิดให้บริการวันจันทร์ - วันเสาร์ หยุดวันอาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. ผู้ที่ต้องการเข้าชมต้องมาติดต่อขอเข้าชมล่วงหน้ากับทางพิพิธภัณฑ์ฯ และจะต้องมาเป็นหมู่คณะ โดยเข้าชมได้ฟรี ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2224-7762
       
       การเดินทาง รถโดยสารประจำทางสาย : 15,47,48,53,204,508 โดยลงที่บริเวณหน้าโรงเรียนเทพศิรินทร์และเดินเข้ามายังบริเวณวัด โดยพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา จะตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของพระอุโบสถ


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000060450 (http://manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000060450)


หัวข้อ: Re: เที่ยวอิ่มบุญรับวันวิสาขบูชา สืบทอดศาสนา “พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา” วัดเทพศิรินทร์
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ พฤษภาคม 30, 2015, 07:54:45 pm

     ขออนุโมทนาสาธุ