สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

      ศรีลังกา : แม้ศรีลังกาจะมีกฎหมายและมาตรการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมก็ตาม แต่ถือว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ พวกโจรล่าสมบัติอาละวาดขุดเจาะและทำลายโบราณวัตถุในพุทธศาสนาอย่างหนักทั่วประเทศ เพื่อค้นหาของมีค่า
       
       ตัวอย่างเช่น ในปี 2005 พระเนตรข้างขวาและที่พระเขนย(หมอน) ของพระพุทธไสยาสน์ ในเมือง Danagirigala ถูกทำลาย หรือกรณีเลวร้ายในปี 2012 และ 2013 ที่พื้นถ้ำหลายแห่งถูกขุด กุฏิอดีตเจ้าอาวาสถูกรื้อถอน และที่พำนักสงฆ์ถูกทำลายลง ซี่งตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ตำรวจเผยมีการลักลอบขุดทำลายโบราณวัตถุกว่า 4,000 คดี
       
       “พวกโจรล่าสมบัติหวังว่าจะขุดพบทองคำ เงิน เพชรพลอย หรืองาช้าง ตามคำบอกเล่าของชาวบ้าน ซึ่งขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน จึงต้องกลับบ้านมือเปล่า และการกระทำเช่นนี้ ชี้ให้เห็นว่า คนยุคนี้ขาดซึ่งคุณธรรมและศีลธรรม” เสนารัถ ดิสนัยเก ผู้อำนวยการทั่วไปกองโบราณคดีแห่งศรีลังกา กล่าว
       
       ขณะที่ อุเทนี วิกรมสิงเห หัวหน้ากองพิทักษ์วัตถุโบราณ วิจารณ์ว่า “ปัญหาก็คือ มีคนจำนวนมากที่แยกไม่ออกระหว่างประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงกับตำนานที่แต่งขึ้น เช่นกรณีพระพุทธรูปนั่งในเมืองนูร์วาราแคนดา ถูกเจาะที่พระอุระ(อก) พระนาภี(สะดือ) และใต้ฐาน เพราะมีตำนานเล่าว่า พระสงฆ์ซ่อนของมีค่าไว้ในองค์พระ”
       
       ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมรดกแห่งชาติ ได้เตรียมขอแก้ไขกฎหมายการลักขโมยโบราณวัตถุให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อยื่นขออนุมัติในที่ประชุมรัฐสภา
       
จาก Buddhistdoor
จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 174 มิถุนายน 2558 โดย เภตรา
http://manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9580000062287 (http://manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9580000062287)

       พวกมิจฉาชีพก็คงหาประโยชน์  กับมรดกของชาติครับ