|
หัวข้อ: มมร.โต้ "ไพบูลย์" ไม่รู้จริงเรื่อง ม.สงฆ์ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 10, 2015, 09:39:57 pm (http://www.dailynews.co.th/images/1076833?s=750x500) มมร.โต้ "ไพบูลย์" ไม่รู้จริงเรื่อง ม.สงฆ์ พศ.เผยสรุปแนวปฏิรูป 3 ระยะเสนอ ครม.แล้ว ขณะที่ มมร.โต้"ไพบูลย์" ไม่รู้จริงเรื่องมหาวิทยาลัยสงฆ์ระวังเสียผู้ใหญ่ ย้ำชัดพระเสียค่าหน่วยกิต ต้องเรียนทางธรรมคู่ทางโลกไว้สอนพุทธศาสนิกชน วันนี้ (10 มิ.ย.) พระเทพวิสุทธิกวี (เกษม สญฺญโต) รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) เปิดเผยว่า จากกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูป (สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สปช. ออกมากล่าวพาดพิง ว่า พระสงฆ์ควรเรียนแต่ทางธรรม ไม่ควรเรียนทางโลก รวมทั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์ เน้นสอนทางโลกมากกว่าทางธรรม นิสิตอยู่ฟรี กินฟรีทุกอย่าง ไม่เสียค่าเทอม นั้น มหาวิทยาลัยสงฆ์ตั้งมาตามพระราชดำริของพระเจ้าแผ่นดิน ที่ทรงต้องการให้พระสงฆ์ สามเณร รู้โลก รู้ธรรม เนื่องจากพระบางรูปบวชมาตั้งแต่เป็นสามเณรยังไม่รู้โลก จึงต้องมาศึกษาวิชาการทางโลกด้วย ซึ่งแม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง พระองค์ทรงศึกษาวิชาการทางโลกก่อนถึงจะมาศึกษาทางธรรม ดังนั้น หากพระรู้แต่ทางธรรม ไม่รู้ทางโลกก็เรียกได้ว่า โง่ทางโลก แล้วจะไปสอนใครได้ และพระนิสิตต้องเสียค่าหน่วยกิต จะมีบางรูปเท่านั้นที่จะได้รับทุนการศึกษาเหมือนกับมหาวิทยาลัยทั่วไป ดังนั้น อยากฝากถึงนายไพบูลย์ว่า ควรต้องหาข้อมูลก่อนที่จะพูด ถือว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง หากพูดไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริง จะเสียคนได้ หากไม่รู้เพียงแค่เปิดเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง ก็ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง เลิกเชื่อพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือ พระพุทธอิสระได้แล้ว :96: :96: :96: :96: :96: ด้าน นายชยพล พงษ์สีดา รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ พศ.ได้สรุปแนวทางที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ศึกษาข้อเสนอการปฏิรูปพุทธศาสนาของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ตามกรอบที่กำหนด ใน 4 ประเด็นหลักเสร็จเรียบร้อยแล้ว คือ 1.ทรัพย์สินของวัดหรือพระภิกษุ 2.พระธรรมวินัย 3.การทำให้พระวินัยให้วิปริต และ 4.ฝ่ายอาณาจักรต้องสนับสนุนฝ่ายศาสนจักร ภายใน 30 วัน โดยได้สรุปขั้นตอนปฏิรูปพระพุทธศาสนาเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 เดือนมิ.ย.-ธ.ค.2558 ดำเนินการบังคับใช้ระเบียบหรือกฎหมายที่มีอยู่ รวมถึงประชุมระดมความคิดเห็นแนวทางต่างๆ โดยจะเริ่มประชุมใหญ่ วันที่ 17-18 มิ.ย.นี้ ระยะที่ 2 เดือน ม.ค.-ธ.ค.2559 ดำเนินการปฏิรูปจากระยะที่ 1 อะไรที่ดำเนินการได้จะดำเนินการทันที และ ระยะที่ 3 ปี 2560-2562 สอดคล้องโรดแม็ปของรัฐบาล จะเป็นการประเมินผลระยะที่ 2 การเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมต่างๆ เพื่อให้การปฏิรูปเกิดความชัดเจนเดินหน้าไปได้ :25: :25: :25: :25: “สำหรับรายละเอียดข้อมูลนั้น พศ.ได้หารือร่วมกับ 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่า ทรัพย์สินของวัดหรือพระภิกษุ มีระเบียบ มส.ที่ทุกวัดต้องดำเนินการอยู่แล้ว เพียงแต่จะต้องทำให้เข้มข้นขึ้น และในปีนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) ได้กำหนดตัวชี้วัดให้ พศ.จะต้องให้วัดรายงานบัญชีให้ครบทั้ง 3 หมื่นกว่าแห่ง โดยตั้งเป้าหมายว่าปี 2558 วัดจะต้องรายงานบัญชีทรัพย์สินให้ได้ 17,000 แห่ง อย่างไรก็ตามขั้นตอนจากนี้พศ.จะนำข้อสรุปผลการศึกษาเสนอต่อนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอต่อ ครม. ว่า จะมีความเห็นเช่นไรต่อไป โดยไม่ต้องผ่านมหาเถรสมาคม(มส.) เพราะเป็นเรื่องที่ส่วนราชการมอบหมาย แต่หลังจาก ครม.มีมติแล้วจึงต้องนำรายงาน มส.อีกครั้ง ” รอง ผอ.พศ. กล่าว. ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/327309 (http://www.dailynews.co.th/education/327309) |