สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 09, 2015, 07:14:35 pm



หัวข้อ: สงฆ์ กทม. ชู "ชุมชนศีล 5" เริ่มจากเล็กไปใหญ่
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 09, 2015, 07:14:35 pm


(http://www.dailynews.co.th/images/1103856?s=750x500)

สงฆ์ กทม. ชู "ชุมชนศีล 5" เริ่มจากเล็กไปใหญ่

เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เผย สงฆ์ฝ่ายมหานิกาย409 วัด ติดป้ายรณรงค์ชุมชนศีล5 แล้วใช้วิธีดำเนินการแบบเล็กไปหาใหญ่ ขณะที่ "พระพรหมเสนาบดี" ชี้ พศจ.บางแห่งทำงานไม่ตรงเป้าหมาย ย้ำลงตรวจพื้นที่ไม่ได้จับผิด

วันนี้ ( 9 ก.ค.) พระพรหมดิลก (เอื้อนหาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะเขต เจ้าคณะแขวง และเลขานุการในเขตพื้นที่คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร เพื่อขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ในเขตกรุงเทพฯ ที่วัดสามพระยา เมื่อเร็วๆนี้ พบว่า วัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ในพื้นที่กรุงเทพฯทั้ง 409 วัด ได้มีการติดป้ายรณรงค์ชุมชนรักษาศีล 5 แล้ว ทั้งนี้ เหตุที่ในเขตกรุงเทพฯต้องดำเนินการในลักษณะของชุมชนศีล 5 แทน เพราะมีความหลากหลายของประชากรมาก บางหมู่บ้านมีทั้งผู้ที่นับถือ ศาสนาพุทธคริสต์ อิสลาม ดังนั้น จึงเห็นว่าให้มีการดำเนินการในลักษณะชุมชนจะเกิดประสิทธิผลมากกว่า

นอกจากนี้ตนยังเน้นในใช้วิธีการดำเนินการแบบเล็กไปหาใหญ่ คือ ให้มุ่งรณรงค์ในสถานศึกษาก่อน เพื่อให้นักเรียนนำไปบอกต่อยังครอบครัว และชุมชน พร้อมทั้งให้คณะสงฆ์ทุกเขตจัดการแข่งขันเกี่ยวกับการรณรงค์รักษาศีล 5 ในสถานศึกษา และจะมีการจัดการแข่งขันรอบสุดท้ายที่วัดสามพระยา

 :96: :96: :96: :96:

พระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ญาณวีโร) เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของโครงการในพื้นที่เขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง ตะวันออก เหนือ เหลือเพียงหนใต้ ซึ่งจะมีการลงพื้นที่ในเดือนกรกฎาคมนี้ นั้ัน พบว่า

คณะสงฆ์มีความตื่นตัว แต่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.)บางแห่งยังทำงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งยังไม่รู้วิธีการขับเคลื่อนเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามยืนยันว่าคณะกรรมการฯ ไม่ได้ลงพื้นที่ เพื่อไปจับผิด แต่ลงพื้นที่เพื่อให้ทราบปัญหาและหาทางแก้ไข

ส่วนวิธีการรับสมัครผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการฯที่จะต้องให้ระบุเลขประจำตัวประชาชน13 หลักด้วยนั้น จากการสอบถาม ผอ.สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ยืนยันว่ามีความปลอดภัยแน่นอน เพราะแค่เลข 13 หลัก ไม่สามารถนำไปใช้หาผลประโยชน์ได้ และหลังจากเสร็จการลงพื้นที่ติดตามประเมินผลในรอบแรกแล้ว ทางคณะกรรมการฯจะมีการลงพื้นที่ติดตามผลในรอบที่สองต่อไป คาดว่าจะเป็นในช่วงเข้าพรรษา เพื่อจะได้รับฟังปัญหาในการดำเนินการโครงการนี้ และหาทางแก้ไขให้กับจังหวัดต่างๆได้ครอบคลุมมากขึ้น.

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/333725 (http://www.dailynews.co.th/education/333725)