สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 11:47:18 pm



หัวข้อ: แพทย์เผย "3 โรคร้ายในพระสงฆ์" ครองแชมป์ 3 ปีซ้อน
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 23, 2015, 11:47:18 pm

(http://p3.isanook.com/he/0/ud/0/801/istock_000067684123_medium.jpg)

แพทย์เผย "3 โรคร้ายในพระสงฆ์" ครองแชมป์ 3 ปีซ้อน

อธิบดีกรมการแพทย์เผย 3 โรคร้ายในพระสงฆ์ ครองแชมป์ 3 ปีซ้อน

แพทย์ชี้ 3 โรครุมเร้าพระสงฆ์-สามเณร “โรคเกี่ยวกับระบบการย่อยและดูดซึมสารอาหาร ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน” เหตุจากฉันอาหารที่มีรสจัด หวานจัด เค็มจัด มีแป้ง ไขมันสูงและขาดการออกกำลังกาย แนะควรเลือกอาหารใส่บาตรด้วยหลักลด หวาน มัน เค็ม พร้อมแนะพระสงฆ์บริหารร่างกายด้วยการเดินบิณฑบาต การเดินจงกรม กวาดลานวัด เพื่อป้องกันโรค

นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ ว่า จากข้อมูลการรักษาผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลสงฆ์ ปีงบประมาณ 2555-2557 พบพระสงฆ์- สามเณรอาพาธด้วยโรค 3 อันดับแรก คือ โรคเกี่ยวกับระบบการย่อยและดูดซึมสารอาหาร ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน นอกจากนี้ยังพบโรคอื่นๆ ที่เป็นปัญหาสำคัญ เช่น ไขมันในเลือดสูง ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไตวายเรื้อรัง ข้อเข่าเสื่อม ต้อกระจก เป็นต้น

สาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ การฉันภัตตาหารที่รสจัด เช่น หวานจัด เค็มจัด มีแป้งและไขมันสูง และขาดการออกกำลังกายหรือการบริหารร่างกาย ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้การดำเนินชีวิตและการปฏิบัติศาสนกิจของพระสงฆ์ อาจมีความแตกต่างจากสมัยพุทธกาล เช่น การเดินบิณฑบาตในเมือง ในระยะทางที่สั้นลง รวมถึงการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันและการปฏิบัติศาสนกิจที่แตกต่างจากบุคคลทั่วไป ตามพุทธบัญญัติที่พระสงฆ์ควรอยู่ในอาการที่สำรวมเป็นผู้ดำรงอยู่ในศีล 227 ข้อทำให้พระสงฆ์มีข้อจำกัด ไม่สามารถออกกำลังกายเหมือนบุคคลทั่วไปได้ ส่งผลให้มีโอกาสเกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย

 :49: :49: :49: :49:

แนวทางการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับพระสงฆ์จำเป็นต้องสำรวมและเป็นที่ยอมรับของสังคม จึงควรเลือกสถานที่ที่เป็นส่วนตัว เช่น ในกุฏิ ห้องออกกำลังกายสำหรับพระสงฆ์ พื้นที่โล่งในเขตวัด มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก สำหรับการนุ่งห่ม อาจนุ่งสบง รัดประคด เพื่อให้กระชับรัดกุม ไม่จำเป็นต้องสวมจีวร เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหว ถ้าเป็นการเดิน ควรเดินในทางราบเรียบ ไม่ชื้นแฉะ และควรสวมใส่รองเท้าที่เบาสบาย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่ฝ่าเท้า เพราะการเดินด้วยเท้าเปล่าอาจทำให้เหยียบถูกของมีคมหรือก้อนกรวดบนพื้นได้ โยเฉพาะพระสงฆ์ที่อาพาธด้วยโรคเบาหวาน

วิธีการออกกำลังกายที่พระสงฆ์สามารถทำได้โดยง่ายและเหมาะสมกับทุกวัย คือ การเดิน เช่นการเดินบิณฑบาต การเดินจงกรม ซึ่งควรเดินต่อเนื่อง 30 นาทีขึ้นไป หรือเดิน 10 -15 นาที 2-3 รอบ สะสมรวมกัน 30 นาที นอกจากนี้ ควรมีกิจกรรมอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น การกวาดลานวัด หรือการขึ้นลงบันได ยกเว้นพระสงฆ์สูงอายุที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่งก่อนและหลังการออกกำลังกายควรมีการอบอุ่นร่างกายและยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ช่วยลดความตึงและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อและกล้ามเนื้อ และควรออกกำลังกายในช่วงที่ไม่หิวหรืออิ่มเกินไป ถ้าฉันภัตตาหาร ไปแล้วควรรอหลังอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากมีอาการแน่นหน้าอก เหนื่อยมาก หอบ หายใจไม่ทัน วิงเวียนศีรษะ หน้าซีด คล้ายจะเป็นลม ควรหยุดออกกำลังกายทันที

 :32: :32: :32: :32:

อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ควรคำนึงถึงอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเลือกแต่อาหารที่มีประโยชน์ ไม่มีรสเค็มจัดหวานจัด หรือมันจัดแต่เน้นอาหารที่มีผักมากๆ ถูกต้องตามหลักโภชนาการ คือ
    - อาหารประเภทนม ควรเลือกถวายนมพร่องไขมัน เหมาะสำหรับพระสงฆ์ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง
    - อาหารประเภทข้าว ควรเลือกถวายอาหารประเภทข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท เพราะจะให้ประโยชน์เรื่องใยอาหารและวิตามินบีรวม
    - อาหารประเภทเนื้อสัตว์ ควรเลือกเนื้อปลา หรือเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ
    - อาหารประเภทผัก ควรเป็นผักหลากสีซึ่งจะมีวิตามินต่างกัน
    - อาหารประเภทผลไม้ ควรเลือกผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด เช่น ส้ม มะละกอ แตงโม แคนตาลูป ส้มโอ ฝรั่ง สับปะรด กล้วย แอปเปิ้ล แก้วมังกร เป็นต้น
    - ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการถวายอาหารที่ใช้น้ำมันจำนวนมากในการปรุง เช่น อาหารที่มีกะทิ อาหารที่ปรุงโดยการผัดน้ำมันมากๆ และ
    - อาหารทอด ควรงดเว้นหรือหลีกเลี่ยงการถวายขนมที่มีรสหวานจัด เพื่อให้พระสงฆ์-สามเณรมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง


ภาพประกอบจาก istockphoto.com
แหล่งข่าวโดย » ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมการแพทย์
ที่มา http://health.sanook.com/801/ (http://health.sanook.com/801/)


หัวข้อ: Re: แพทย์เผย "3 โรคร้ายในพระสงฆ์" ครองแชมป์ 3 ปีซ้อน
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 07:05:06 am

   ก็เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับทางด้านสุขภาพครับ