|
หัวข้อ: พศ.แจ้งผู้ว่าฯแจง ชาวพุทธ โซเชียลบิดเบือนหมู่บ้านศีล 5 เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 31, 2015, 10:39:12 pm (http://www.dailynews.co.th/images/1152469?s=750x500) พศ.แจ้งผู้ว่าฯแจง ชาวพุทธ โซเชียลบิดเบือนหมู่บ้านศีล 5 ผอ.สำนักพุทธฯ ร่อนหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ชี้แจงชาวพุทธอย่าหลงเชื่อ สังคมออนไลน์แชร์ ข่าวบิดเบือนว่า ลงชื่อร่วมโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ใช้ช่วยพระธัมมชโย พ้นผิด วันนี้ ( 31 ส.ค.) นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า พศ.ได้ทำหนังสือที่ พศ.0002/2558 เรื่องสังคมออนไลน์ได้ลงข่าวโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 บิดเบือนข้อเท็จจริง ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เนื่องจากสังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่ข้อความว่า เรื่องด่วน สำคัญมาก ช่วยบอกต่อๆไปว่า ถ้ามีใครมาให้ลงชื่อปฏิบัติศีล 5 หรือ เรื่องเกี่ยวกับศีล 5 อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด เพราะพระธัมมชโย กำลังรวบรวมรายชื่อ เพื่อให้ตนเองพ้นผิด ช่วยบอกต่อๆด้วย ซึ่ง พศ. ขอแจ้งให้ประชาชนรวมถึงหน่วยงานทุกภาคส่วนได้รับทราบว่า โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” เป็นโครงการที่คณะสงฆ์ โดยมหาเถรสมาคม(มส.) ร่วมกับ พศ. เสนอต่อรัฐบาล เพื่อดำเนินการตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ได้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ ยึดถือสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยมีพศ.เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าคณะจังหวัด และหน่วยงานส่วนท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1.เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ 2.เพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชน และ 3.เพื่อสันติสุขแห่งประเทศชาติ :96: :96: :96: :96: นายพนม กล่าวต่อไปว่า การขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ตามแนวทางที่ มส.กำหนดให้ขับเคลื่อนถึงระดับตัวบุคคล แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน (ระยะที่1) ตั้งแต่เดือน มิ.ย.- ส.ค.2557 ให้มีการลงนามข้อตกลงในการขับเคลื่อนโครงการครอบคลุมทุกพื้นที่ ระยะปานกลาง (ระยะที่2) ตั้งแต่เดือน ก.ย.2557-ก.ย.2558 ประชาสัมพันธ์ให้พุทธศาสนิกชนสมัครเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของประชากรชาวพุทธ ระยะยาว (ระยะที่ 3) ตั้งแต่เดือน ต.ค.2558 - ก.ย.2560 ดำเนินการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของประชากรชาวพุทธ ซึ่งจะเห็นได้ว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัวของคนใดคนหนึ่ง หรือ ช่วยให้ใครพ้นผิดได้ ตามที่สื่อออนไลน์ได้มีการส่งต่อหรือลงข่าว ดังนั้น เพื่อให้สังคมได้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับโครงการนี้อย่างถูกต้อง พศ.จึงขอให้ทุกจังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ให้พุทธศาสนิกได้รับทราบอย่างทั่วถึงและถูกต้องตามความเป็นจริงต่อไป. ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/345140 (http://www.dailynews.co.th/education/345140) |