หัวข้อ: สาวฮ่องกงผุดไอเดียลดอ้วน "กินแดดแทนข้าว" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 07, 2015, 09:39:28 pm (http://www.posttoday.com/media/content/2015/09/07/3932D130B15948E385F2E5F6A9A3703F.jpg) สาวฮ่องกงผุดไอเดียลดอ้วน "กินแดดแทนข้าว" สาวฮ่องกงยืนตากแดดช่วงเย็นเชื่อช่วยลดความอยากอาหาร แพทย์เตือนเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง-โรคตา เมื่อวันที่ 7 ก.ย. เว็บไซต์เดลี เมล สื่อชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ เผยรายงานจากฮ่องกงว่าปัจจุบันกระแสลดความอ้วนแบบใหม่ที่เรียกว่า "กินแดดหรือการจ้องแดด" กำลังมาแรงและฮอตฮิตมากในหมู่สาว ๆ ฮ่องกง รวมถึงจีนโดยเฉพาะในวัยประมาณ 30-40 ปี พวกเธอต่างใช้วิธีการที่แปลกประหลาดนี้ในการลดน้ำหนักและยังเห็นว่าช่วยเรื่องปัญหาด้านสุขภาพ โดยช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนพระอาทิตย์ตก สาวฮ่องกงกลุ่มนี้เลือกที่จะทานแสงแดดแทนข้าว โดยจะใช้วิธีหันหน้าเข้าหาพระอาทิตย์และมองจ้องแสงแดดเป็นเวลานาน โดยเชื่อว่าแสงแดดจะช่วยลดความอยากอาหาร อีกทั้งยังช่วยในการมองเห็นและช่วยให้นอนหลับดีขึ้นด้วย บรรดาสาวๆ ฮ่องกงที่ศรัทธาในความเชื่อนี้ จะเดินทางไปยังชายหาดบริเวณหมู่บ้านชาวประมงลียงมุนทุก ๆ เย็น โดยเริ่มถอดรองเท้า หยิบแว่นกันแดดขึ้นมาใส่พร้อมกับตั้งเวลาปลุกเป็นเวลาประมาณ40 นาที ก่อนพากันยืนหันหน้ารับแดดกันอย่างเพลิดเพลิน :49: :49: :49: :49: หญิงสาวรายหนึ่งอ้างว่า ทานอาหารได้น้อยลงหลังจากใช้วิธีการจ้องมองแดดนี้ บางคนที่ไม่ทานอาหารเลยก็มี โดยช่วงแรก ๆ จะเริ่มจากวันละ 10 วินาที จากนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงตอนนี้เป็นเวลา 9 เดือนแล้ว ที่ใช้เวลาจ้องแสงแดดถึงวันละ 44 นาที ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ด้านผิวหนัง ออกมาแสดงความเป็นกังวลถึงกระแสดังกล่าวว่า ในแถบประเทศที่เป็นเขตร้อน การออกไปอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่มีรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตสูงจะส่งผลกระทบต่อชั้นผิวหนังและมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง แม้ว่าจะใช้อุปกรณ์ช่วยบังแสงแต่ก็ช่วยได้เพียงส่วนน้อยเท่านั้น และที่สำคัญด้านจักษุแพทย์ยังเตือนว่า การกระทำเช่นนี้ส่งผลข้างเคียงกับดวงตาทำให้เกิดโรคต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ งานนี้ชาวเน็ตหลายคนเเนะนำว่า เอาเวลา 40 นาทีที่จ้องเเสงเเดดไปออกกำลังกายในรูปเเบบต่างๆ เพื่อสุขภาพเสียดีกว่า ที่มา http://hk.on.cc/hk/bkn/cnt/news/20150816/bkn-20150816202716353-0816_00822_001.html?refer=fn2 (http://hk.on.cc/hk/bkn/cnt/news/20150816/bkn-20150816202716353-0816_00822_001.html?refer=fn2) http://www.posttoday.com/world/news/386602 (http://www.posttoday.com/world/news/386602) |