หัวข้อ: ดราม่า ทหารจีนสั่ง นศ.หญิงนอนห่มผ้ากลางแดดบนพื้นยางมะตอย เหตุห้องพักไม่เรียบร้อย เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 20, 2015, 08:36:49 am (http://www.posttoday.com/media/content/2015/09/19/E8792E4AE65845A2A974331EDA753BB0.jpg) ดราม่า!ทหารจีนสั่งนศ.หญิงนอนห่มผ้ากลางแดดบนพื้นยางมะตอย เหตุห้องพักไม่เรียบร้อย ทหารจีนสั่งนศ.หญิงนอนห่มผ้ากลางแดดบนพื้นยางมะตอย ลงโทษเหตุห้องพักไม่เรียบร้อย อาจารย์รุมจวก"ทำเกินกว่าเหตุ" การฝึกทหารถือเป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ซึ่งนักศึกษาน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศจีนทุกคนล้วนต้องปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง โดยจะมีผู้คุมฝึกเป็นทหารจริงๆ คอยมาฝึกสอนโดยวิธีการต่างๆ เช่น การเดินสวนสนามกลางฝน ฝึกวางขวดน้ำบนศีรษะ และทำความเคารพผู้อำนวยการ ทั้งหมดนี้เป็นการฝึกฝนโดยมีจุดประสงค์ให้นักศึกษาน้องใหม่ทุกคนพร้อมที่จะเผชิญกับโลกในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งในความเป็นจริงกลับเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับนักศึกษาทุกคนอย่างมาก ล่าสุด เว็บไซต์ข่าว'เซียงไฮ้อิสต์'ได้เผยเรื่องราวดราม่าจากการฝึกกิจกรรมทหารแก่นักศึกษาใหม่ในมหาวิทยาลัยหูหนาน เมื่อครูฝึกได้สั่งทำโทษนักศึกษาหญิงกว่า 20 รายที่เก็บข้าวของในห้องพักไม่เรียบร้อยตามมาตรฐาน ด้วยการให้นำผ้าห่มมานอนห่มกลางแดดบนพื้นยางมะตอย ก่อนจะให้ใช้กาละมังครอบศีรษะวิ่งไปรอบๆ ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ นับพัน :41: :41: :41: :41: :41: 'หลุย หมิน' นักศึกษาคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าเรื่องราวไม่ได้แย่อย่างที่คิด "ครูฝึกตรวจเช็กก่อนว่าผ้าห่มของนักศึกษาไม่หนาเกินไป แถมทำโทษนานไม่เกิน 10 นาที" ขณะที่'ฮุย หลิง'นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจกลับมองว่า เป็นการลงโทษที่ลดทอนความเป็นมนุษย์และเป็นการทำให้นักศึกษารู้สึกอับอาย ด้านคณาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่างมองว่าเป็นการลงโทษที่อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพและจิตใจของนักศึกษาได้ ทั้งยังได้พูดเตือนไปยังครูฝึกทหารให้คำนึงถึงความปลอดภัยและสภาพจิตใจของนักศึกษาด้วย ขณะที่ชาวโลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุสำหรับนักศึกษาหญิง และเหมือนกำลังฝึกให้นักศึกษาไปเป็น"ทาส"มากกว่า หลังจากครูฝึกสอนได้รับทราบคำวิพากษ์วิจารณ์ก็เริ่มอ่อนข้อยอมรับว่าทำเกินกว่าเหตุไปจริงๆ สำหรับนักศึกษาหญิง และพร้อมจะลดหย่อนเรื่องมาตรการฝึกทหารลง ที่มา : shanghaiist, cctv http://www.posttoday.com/world/news/389020 (http://www.posttoday.com/world/news/389020) |