หัวข้อ: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 23, 2015, 09:11:15 am ask1
1.ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน 2.ทำไม ที่นี่ ศิษย์พระอาจารย ไม่ช่วยตอบคำถาม คำถามจาก ครูนภา อาริสา เพียงเพ็ญ ประสิทธิ์ kobyamkala fasai nirvanar55 หมวยจ้า รักหนอ saieaw juntra danapol kittisak catwoman nimit mongkol komol translate ranimain sakol naka-54 bajang นักเดินทาง sompong poepun samapol chatchay doremon หัวข้อ: เข้าพรรษา ปกติไม่เคย โพสต์ หรือ ตอบ เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 23, 2015, 09:18:01 am ก่อนอื่น ต้องชี้แจง ดังนี้ก่อน
1. ในพรรษาทุกปี ทีผ่านมา ฉันไม่เคยตอบคำถาม หรือ โพสต์ ใด ๆ นะ เพราะอุทิศเวลาให้กับ การภาวนา เป็นส่วนใหญ่ สำหรับปีนี้ ต้องออกมาตอบเอง หลายครั้ง หลายหน จนเหมือนเป็นกิจวัตร ที่จะต้องคอยตอบ สาเหตุจริงก็เพราะว่า คนช่วยตอบไม่มี เลย จริงในวิชากรรมฐาน 2. เนื่องด้วย พระอาจารย์ ทำงานปิดทองหลังพระ เป็นพระหลักลอย คนทั้งหลายเข้าหายาก แม้ศิษย์ที่ดูแลใกล้ชิด ก็ใช่ว่า จะเข้ามาหากันง่ายอย่างเมื่อก่อน เนื่องด้วยเพื่อส่งเสริมการเผยแผ่ธรรมทาน ให้ต่อเนื่อง จำเป็นต้องจำกัด ขอบเขตน์ไว้ เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ พระอาจารย์ ยังสามารถทำให้กับครูอาจารย์ได้ ตามปณิธาน 3. ถึงแม้ว่า ธรรมทาน ก็มีความสำคัญแต่การภาวนา เพื่อไปสู่ มรรค ผล นิพพาน ของตนเองนั้น มีความสำคัญ ยิ่งกว่า ดังนั้น จึงต้องสละเวลาให้กับการภาวนา 80 เปอร์เซ็นต์ การเผยแผ่ 20 เปอร์เซ้นต์ เท่านั้น ดังนั้นท่านจึงเห็นว่า ช่วงนี้ บทความของพระอาจารย์ น้อยลง และการบรรยายสด งด เปลี่ยนเป็นเสียงบันทึกแทน 4. ที่นี่ ทำงานปิดทองหลังพระ หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 23, 2015, 09:25:15 am (http://www.madchima.org/kid/images/forimg58/atta-01.jpg)
จากภาพ สามเหลี่ยม แทนอัตราส่วน ( อนุมาน แต่คิดว่า น่าจะใช่ ใช้ สถิติของประเทศไทย ) สีทอง เท่ากับ พระอรหันต์ ( 0.000001) สีเขียว เท่ากับ พระอนาคามี ( 0.0001 ) สีเหลือง เท่ากับ พระสกทาคามี ( 0.001 ) สีฟ้า เท่ากับ พรโสดาบัน ( 0.01 ) สีขาว เท่ากับ กัลายาณชน ( 0.1 ) สีฟ้าเข้ม เท่ากับ ปุถุชน ( .98 ) อัตราส่วนของ ปุถุชน นั้น ประกอบด้วยจำนวน ศาสนาอื่น ๆ ลัทธิ อื่น ๆ ด้วย แม้กัลยาณชน ก็เช่นกัน (http://www.madchima.org/kid/images/forimg58/atta-02.jpg) มองตามมุม ด้วยแนวคิด ธรรมทาน ถ้าปุถุุชนมีมากในขณะนั้น การเผยแผ่ ธรรม ต้องใช้ อัตรา 2 : 2 : 1 ( ความเป็นไปได้ ) คือ ปุถุชน 2 คน : กัลยาณชน 2 คน : มีความเป็นไปได้ ที่จะได้ พระโสดาบัน 1 คน ทฤษฏี ความจริง คือ ไม่มี และ เป็นไปไม่ได้ ทฤษฏี ความเป็นไปได้ ก็คือ ศรัทธา ( ความเชื่อมั่น ในความดี เพราะความดี วัดเป็นตัวเลขไม่ได้ ) ดังนั้นการเผยแผ่ ธรรม มุ่งที่จำนวน ปุถุชน เป็นเบื้องต้น และ กรอง กัลยาณชน เพื่อ มาเป็น พระอริยะ ความเป็นจริง ยิ่งมีพระอริยะ มากเท่าใด การเผยแผ่ธรรม ก็ ยิ่งมีน้อยลง เพราะพระอริยะ ท่านมุ่งสันโดษในปัจจุบัน เพราะเห็นว่า การเผยแผ่ธรรมนั้น มี พระไตรปิฏกแล้ว นั่นเอง ไม่เหมือนครั้งพุทธกาล เผยแผ่โดยพระดำรัส คือ ส่งพระสาวกไปองค์ละทิศ องค์ละที่ เพื่อประกาศธรรม (http://www.madchima.org/kid/images/forimg58/atta-03.jpg) ดังนั้น ถ้ามองให้ดี จะเห็นว่า ตั้งแต่ครั้งพุทธกาลเป็นต้นมา พระอริยะบุคคลหาย ไปทีละลำดับ ดั่งพระดำรัสของพระพุทธเจ้า ถ้าจะมีอยู่ ก็เพียงน้อยนิด หรือ ไม่เปิดเผยเพราะยุคปัจจุบัน มีความเสี่ยงทางด้านพระวินัย หากเปิดเผย ย่อมต้องถูกสอบสวน โดย พระปุุถุชน ความวิบัติอยู่ตรงนี้ คือ พระปุถุชน สอบสวนพระอริยะบุคคล ดังนั้น ยุคของพระศาสนา จึงมีพระอริยะบุคคลน้อยลงไปเรื่อย ๆ นั่นเอง หัวข้อ: ในที่สุด ก็ต้องตอบ คำถาม เธอ กันแล้ว นะ เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 23, 2015, 10:09:56 am ask1
1.ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน ans1 1.ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน ก็เพราะกรรมฐาน เป็นเรื่อง ของพระอริยะบุคคล คนที่ปรารถนา เป็นพระอริยะบุคคล จริง ๆ มีน้อย มาก ในปัจจุบัน และประกอบกับครูอาจารย์ สำนักกรรมฐาน ทั่วไปเน้น คนฝึกสติ ซึ่งออกไปทางแนว กัลยาณชน มากกว่า ความเป็น อริยะชน ดังนั้น จำนวนผู้สนใจจริง ๆ ในวิชากรรมฐาน จาก กัลยาณชน มีจำนวนมาก แต่ เมื่อปฏิบัติภาวนาไปตามหลักกรรมฐานแล้ว กัลยาณชน จะถอดใจจากวิชากรรมฐาน เพราะว่า ยิ่งทำยิ่งไม่มีผลตอบแทน ทางโลกธรรม คือไม่มี ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ อันเจือด้วยอามิส มีแต่สุข กับ การพ้นจากกิเลส เป็นรางวัล ดังนั้น กัลยาณชน ที่ไม่ปรารถนา การเป็นพระอริยะชนอยู่แล้ว พอเจอสภาพ ที่ต้องรันทด ข่นแค้น เพราะไม่มี อามิสโลกธรรม ตอบแทน ต่างก็จะเดินหนี หรือไม่เอาด้วย กัลยาณชน ยังหวังเสียงสรรเสริญ สุขภาพ เป็นส่วนใหญ่ คือ ทำความดี ก็อยากให้มีคนชื่นชม กล่าวสรรเสริญ บ้างก็ทำกรรมฐาน เพื่อให้สุขภาพดีแข็งแรง หายจากโรค จากภัย หรือทำทานสร้างกุศล ก็หวัง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย โชคดีมีทรัพย์ งอกงามไพบูลย์ อยู่ดี มีสุข กันทั้งครอบครัว ทั้งคนที่รัก ที่นี้กรรมฐาน มันเป็นเรื่องของการตัดรัก ตัดหลง ตัดสงสาร ดังนั้น ยิ่งทำดี ยิ่งไม่ได้ความดี เพราะความดีเป็นเพียงปีติในใจเท่านั้น คนที่ไม่แข็งแรง ไม่มุ่งมั่นการเป็นพระอริยะ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่ได้ ในโลกธรรมแล้ว ย่อมหลีกรี้ หนีหายจากการภาวนา ไปยิ่งมากขึ้น การเผยแผ่ธรรมของพระอาจารย์ มุ่งหวังให้ศิษย์ไป นิพพาน นั่นก็คือ การเป็นพระอริยะบุคคล ดังนั้นเมื่อมุ่งเผยแผ่ อย่างนี้ จำนวนคนที่จะไปด้วย มันจึงเท่ากับ มีน้อย หรือ ไม่มี เคยได้นิมิตร อยู่หลายครั้ง ว่าการสอนของเรานั้น ถ้าหากไม่ได้สร้าง ธรรมสถานเจดีย์ ขึ้นมาแล้ว หลวงปู่ท่านให้ภาพว่า มีแต่เพียงเราที่เดินข้ามฝั่ง นอกนั้นยืนมองตาแป๋ว มองส่งเท่านั้นจริง ๆ นี่คือ สาเหตุ ที่คนมาเรียนน้อย ศึกษาน้อย และยิ่งน้อยไปเรื่อย ๆ เพราะกฏมันเป็นอย่างนั้น ครั้งตอนเปิดเว็บ ให้โยมกิตติศักดิ์ ประกาศเรื่อง ดูดวง หาฤกษ์ อย่างนี้ คนเข้ามาเว็บอย่างคับคั่ง ในครั้งนั้น เรื่องโหราศาสตร์ มีคนเข้าดูอ่าน อย่างทะลุทะลวง เห็นว่าไม่ใช่เป้าหมาย จึงให้โยมกิตติศักด์ หยุดช่วยเหลือเรื่องพวกนี้ ผล คนหายไปอย่างจำนวนมากมายในปีถัดมา พอเผยแผ่พระธรรมขั้นสูง ในระดับ พระโสดาบันขึ้นมา คนก็เริ่มน้อย เพราะอ่านข้อความแล้วไม่เข้าใจ ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่เข้าใจ ยิ่งไม่ได้ภาวนามาก่อน ก็ยิ่งไม่เข้าใจ พอไม่เข้าใจก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยาก เหลือเกินวิชากรรมฐาน สายนี้ยากมาก ที่่ยากก็เพราะว่า คนอ่านไม่ได้ภาวนามาก่อน และไม่ปรารถนา ความเป็นพระอริยะ มาอ่านวิชา ที่ทำให้เป็นพระอริยะ ยิ่งอ่าน ยิ่งมึน สุดท้ายก็จะบอกว่า ไปสายสติ ตั้งสติ ดูกาย ดูใจ อะไรอย่างที่เขาเคยทำกัน ขอบอกเลยว่า ยิ่งกลัวเรื่องการฝึกสมาธิ ก็ยิ่งจะไม่ได้ จะรอให้สติ พัฒนาเป็นสมาธิ สอดแทรก อย่างครูอาจารย์หลายท่านสอน ก็เหมือนเอาขนมหวาน ล่อเด็กให้มากิน อย่างไร เด็ก ก็เป็นเด็ก วันยังค่ำ เพราะญาณ ทัศนะ วิมุตติ ย่อมมีแก่ผู้ถึงพร้อมเท่านั้น นี่คือสาเหตุใหญ่ ๆ ที่หลายท่าน หลบรี้หนีหาย ไป จากการภาวนา หัวข้อ: ในที่สุด ก็ต้องตอบ คำถาม เธอ กันแล้ว นะ ( 2 ) เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 23, 2015, 10:12:35 am ask1
2.ทำไม ที่นี่ ศิษย์พระอาจารย ไม่ช่วยตอบคำถาม ans1 เพราะยังไม่ถึง ญาณ ที่เขาจะตอบได้ จึงไม่กล้า ตอบ อีกอย่างจำนวน ศิษย์ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ ภาวนาเก่ง ๆ นั้น มีน้อยมาก ที่เก่ง แต่ไม่ใช่ คอมพิวเตอร์ นั้นก็มีหลายท่าน แต่ท่านเหล่านั้น ก็ไม่ได้เข้ามาตอบ นั่นเอง หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: Hero ที่ กันยายน 23, 2015, 11:43:18 am thk56 st12
ทำให้มองภาพรวม ของ การเผยแผ่ พระอาจารย์ในขณะนี้ออก เลย เนื้อหาข้อความธรรม ของพระอาจารย์ ช่วงหลัง ไม่ใช่ข้อความที่สื่อถึง กัลยาณชน จริง ๆ เพราะข้อความดูเหมือนจะสื่อถึงพระอนาคามี เป็นส่วนใหญ่ ยิ่งในห้อง วิชาศิษย์สายตรงด้วยแล้ว เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ดังนั้นคนที่เข้ามาอ่านในช่วงหลังนี้ จึงไม่ค่อยจะเข้าใจความหมายในอรรถ และ ธรรม ที่พระอาจารย์สื่อ หลาย ๆ คน จึงไปชมชอบ แต่เรื่อง โคลงกลอน ประมาณนั้นไป ซึ่งแม้จะเป็นเช่นนั้นความหมาย ของธรรม ก็ยังเป็นระดับสูง อนุโมทนา สาธุ ครับ หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: mongkol ที่ กันยายน 23, 2015, 12:49:26 pm st11 st12 st12
หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: patra ที่ กันยายน 23, 2015, 01:20:30 pm ที่มา รู้ดีไม่รู้ที่ไป คนเรามันเลือกเกิดเองไม่ได้
แต่เราเลือกได้จะเป็นเช่นไร เลือกได้จะทำตามใจด้วยตัวของเรา หลายคน เชื่อในเรื่องโชคชะตา บางคนเชื่อมั่นในตัวเอง ชีวิต เรากำหนดของเราเอง จะแพ้ชนะไม่เกรงจะสักเท่าไร ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ เรื่องราวมากมายที่ทำ ได้ใจโอบก็หวั่นไหว แต่ก็มีเหตุผลสำคัญ ให้บางคนยอมถอดใจ (http://zazana.com/wp-content/uploads/2014/08/article-good.jpg) หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: ก้านตอง ที่ กันยายน 23, 2015, 03:18:06 pm st11 st12 st12
หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ กันยายน 23, 2015, 03:23:29 pm อนุโมทนา สาธุ รู้สึกว่า ช่วงหลังมานี้ ห้องเงียบไปเยอะนะคร้า
ขาดคุณธรรมธวัช คุณ aaaa ท่าน ปัญญสโก st12 st12 st12 หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: รักหนอ ที่ กันยายน 23, 2015, 03:24:48 pm ก็อย่างที่ พระอาจารย์ ท่านเล่าไว้นั่นแหละ คือ พอหัวข้อธรรม เริ่ม สู่ระดับสูง คนก็จะน้อยลง เพราะคุณธรรมขั้นสูง คนไปได้น้อย จ้า
:25: st11 st12 หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ กันยายน 23, 2015, 06:31:17 pm ขอบพระคุณ ที่พระอาจารย์ สละเวลามาตอบ คะ
st11 st12 st12 หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: saieaw ที่ กันยายน 23, 2015, 06:33:02 pm อย่างนี้ หนู ก็คิดว่า ที่ไม่เข้าใจ ก็เพราะว่า ปฏิบัติไม่ถึง จึงยังไม่เข้าใจ ถึงมีความรู้สึกว่า ช่วงหลัง ๆ มานี้ อ่านไม่ค่อยจะเข้าใจ คะ จึงอยากให้พระอาจารย์ ลดระดับข้อความ ลงเพื่อชนที่ยังมีความหวังในการภาวนา ได้หรือไม่ คะ
:58: st12 st12 :25: :25: หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กันยายน 23, 2015, 07:30:45 pm :welcome:
ขออนุโมทนาสาธุ ครับ ครูบาอาจารย์ ส่วนสำหรับ เราท่านทั้งหลาย การได้มาเจอกัน สนทนาธรรมกัน แล้วก็ดีอยู่ ทุกสิ่งมิใช่เรื่องบังเอิญ ความท้อแท้ บางครั้งมันก็เป็นของดีเหมือนกัน เมื่อเรายังนึกถึงคำสอนของพระตถาคต ก็จงค่อยๆ ปลูกจิตรีไวส์ ลุกขึ้นมา มีตัวเราเองที่จะให้กำลังใจตัวเราเอง ได้ไวที่สุด เอาคำของครูอาจารย์เข้ามาเป็นกำลังพละ ล้มลุกบ่อยๆ ล้มลุกบ่อยๆเดี๋ยวมันก็ชิน.........เราจะได้ ภาวนากันใหม่ ภาวนาแบบไม่โลภ ราคะบาง ลองใช้สติ ตรวจสอบผลภาวนาของตัวเอง บ่อยๆ ว่า ความอยากของเราน้อยลงหรือไม่ บางครั้งไม่มีแรง จะเดินต่อ ท้อแท้ ธาตุไม่เสมอ ลองกลับไปกินข้าวอาหาร ให้มีแรง อาบน้ำให้ชื่นใจ แล้วเข้าที่ส่วนตัว อาราธนา พระกรรมฐาน แล้วเริ่มเดินใหม่ แบบคนไม่เคยรู้อะไรมาก่อนเลย แล้วภาวนาแบบเราผู้มาใหม่เริ่มใหม่...อย่าไปถากถางตัวเอง ไม่มีประโยชน์เพราะเราจะไม่ก้าว แต่ทว่า........เราต้องก้าวต่อไป.....ตามปณิธาน....เหตุผลเดียว...พวกเราเป็นศิษย์มีครู ขออนุโมทนาสาธุ ในธรรมของทุกท่าน หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ กันยายน 23, 2015, 08:42:31 pm st12 st12 st12
หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: rainmain ที่ กันยายน 23, 2015, 09:44:36 pm พระอาจารย์ ตอบอย่างกระจ่าง นั่นเป็นเพราะว่า หลักธรรมสูงขึ้นไปจากสภาวะที่เรามีอยู่ เราจึงรู้สึกได้ว่า ไม่เข้าใจ และ ไม่รู้ในอรรถธรรม เหล่านั้น โชคดีที่ครูอาจารย์ ท่านรู้..และก็พยายามสรรหา คำอธิบาย ที่ให้เราเข้าใจง่าย แต่มันจะง่าย ขึ้นถ้าเราปฏิบัติตามมาด้วย นั่นเอง
thk56 st11 st12 หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กันยายน 24, 2015, 05:27:25 am st11 st12 st12
สาธุ กระจ่างแจ้ง ในคำตอบ เป็นเพราะว่า คนในยุคนี้ปรารถนา การสิ้นสังสารวัฏ น้อยลง :13: หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: chatchay ที่ กันยายน 24, 2015, 12:24:10 pm :25 :25: thk56 like1 st12
หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ กันยายน 24, 2015, 01:52:55 pm st11 st12 :25: like1
หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กันยายน 24, 2015, 06:00:36 pm การภาวนาเจริญพระกรรมฐาน อุปัฏฐากครูอาจารย์ ใช่ว่าจักได้สุข มีแต่จะเห็นชาติ ชรา เขลา มรณา คนไม่เห็นคุณค่าของศีล คนดีบัดซบ คนคดศรีวิไล คำถามถามว่าเราจะเอาอะไรกับสังคม ผู้คน ที่ทุรยศ ศีลหม่นไหม้ อยู่เฉียดเหยียบยืนใกล้มีแต่จะให้เร้าร้อน แวดระแวง พระกรรมฐานใช่สู่ใจสุข ทุกข์เห็น วิบากผลาญ ชะตาลำเค็ญ ใช่ว่ารี้หาหนแก้ไข เราแท้นั้นต้องตรอง ยอมปลด และปล่อย ปลง เพื่อพ้น นั่นคือหนทางที่ต้องครวน
หัวข้อ: ความฉลาด ในสมาธิ ย่อมทำให้ ศิษย์ถึง ปลายทาง ในเจโตวิมุตติ เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 24, 2015, 08:17:02 pm เพราะจิตไม่ ใคร่ ฝึกภาวนาในส่วนบน จิตจึงหน่วงทุกข์ หนัก ข้างฝ่าย ปัญญาวิมุตตุ คือ คิด พิจารณา ไตร่ตรอง
กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เป้าหมายคือ ความสุขอันเกิดจากสมาธิมี พระพุทธเจ้าเป็นหลักชัย เรียกว่า นิโรธสุข เป็นหนึ่งในอริยยสัจจะ4 ถ้าหากผู้ปฏิบัติ เห็นทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ แต่ไม่เห็นนิโรธ ก็ไม่รู้จักมรรคจริง นั่นเอง ต่อให้แขนขา ขาหัก อดอยาก ยากแค้น ถูกกดขี่ ข่มเหง อันนี้เรียกว่า ความเทุกข์ เป็นคุณชาต ของปัญญาวิมุตติ แต่หากผู้ที่ประสบภัย อย่างที่กล่าวมาด้วย วิบากกรรมของตนที่เคยสร้างไว้ เข้าถึง นิโรธสุข ในเบื้องต้น ทุกข์ทั้งปวง ที่มีอยู่ ก็จะดับไป ( ไม่ใช่สูญไป ) เป็นหนทาง สู่ เจโตวิมุตติ ตามแนวกรรมฐาน สุข เกิด แต่สมาธิ ย่อมล่วงถึง อุเบกขา อันควร และ เอกัคคตา ธรรม อันนำไปสู่ วิปัสสนา ในความเป็น พระเจโตวิมุตติ ถามว่า นางปฏาจารา ไปฆ่าใคร ? ในชาติปัจจุบัน นั้น นางเป็นธิดา เศรษฐี รื่นรมย์ในความสวย ความงาม รักชอบจริงใจ ต่อบุคคลที่ต่ำกว่า คือ ข้าทาส จึงยอมหนีตระกูล ไปทนลำบาก กับชายที่รัก ในวันเดียวกัน นางสูญเสีย คนที่ตนรัก ถึง 5 คน 1. สูญเสียสามี เพราะถูก งูกัดตาย 2. สูญเสียบุตร ทั้งสอง ในระหว่างข้ามแม่น้ำ 3. สูญเสีย บิดา มารดา พี่น้อง ในตอนเดินทางกลับ สติ นางขาดเพราะหัวใจ มันหล่น เนื่องด้วย วิบากกรรมที่เคยสร้าง ไว้ ตามราวี ขาดสติ เป็นคนบ้า เดินแก้ผ้า เที่ยวไปในเมือง จากหญิงที่สวยงาม มีการศึกษา กลายเป็นหญิงที่ปราศจากสติ ถูกทุบดี ถูกขว้าง ด้วยก้อนอิฐ ก้อนดิน ต้อนขับไล่ ทุกข์ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็น เหตุ แห่ง ปัญญาวิมุตติ ในตอนหลัง ( ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของกรรมฐาน ) เพราะผู้ที่ต้องผ่านวิบากแบบนี้ มีโอกาสน้อยที่จะได้ พบพระอรหันต์ ที่มีปัญญามาก และ มากด้วยบารมี นางปฏาจารา พระอรหันต์ ในสมัยก็ช่วยไม่ได้ นอกเสียจาก พระอรหันต์ สัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น โชคยังเป็นของนาง บารมีของนาง เต็มรอบแล้ว จึงมีโอกาสได้พบ พระศาสดา ดังนั้น ศิษย์กรรมฐาน ควรตั้งความสุข คือ ผลของสมาธิ แล้วเจริญธรรมขาว อันสมควร เพื่อการไปสู่ มรรค ผล และ นิพพาน ตามสมควรแก่ฐานะ เจริญธรรม / เจริญพร หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กันยายน 24, 2015, 08:28:44 pm ขออนุโมทนา สาธุครับ หัวข้อ: 8 ปี มานี้ ถ้าจะพูดความจริง แบบชาวโลก ฉันไม่มีความสุข เข่นกัน เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 24, 2015, 08:33:01 pm 8 ปี มานี้ ถ้าจะพูดความจริง แบบชาวโลก ฉันไม่มีความสุข เข่นกัน
แต่ทั้งหมด มันเป็นแค่ ฝ่ายกาย ที่ยังดำรงค์ขันธ์ ทุกข์ ที่เกิด มีดังนี้ 1. การแสวงหาอาหาร ที่ไม่สามารถ แสวงหาอาหารได้ ดั่งพระปกติ ต้องซื้อฉัน ทุกวัน ( หมายถึงตอนมีปัจจัย แต่ปัจจัย ไม่ได้ มีมาก ดั่งนั้น จึงเลือก อด 2 กิน 1 อด 1 กิน 1 สลับกันไป บางครั้งก็อดไปหลายวัน อาศัย อาหารดิบ คือ อาหารซอง บ้าง นม บ้าง น้ำผึ้งบ้าง ทุกข์ ส่วนนี้ นับว่า มาก จริง เพราะหลายครั้ง ทำให้ท้องเสีย เป็นประจำ เนื่องด้วยบางครั้ง ฉันอาหารหมดอายุ 2. การที่ต้องรักษาธรรม การเผยแผ่ ธรรม ในขณะที่ไม่มี รายได้ นั้นเป็น เรื่อง ที่ลำบากใจ อัตคัต ขัดสน เช่นกัน 3. การทำงาน และ ภาวนา อยู่ในกลุ่มที่ เขาไม่ส่งเสริม และ ขัดแย้ง ไม่นับถือ ก็เป็นเรื่องที่ลำบากใจ บางครั้งถูกกลั่นแกล้ง ถูกด่าประจาน หลายครั้ง หลายหนเช่นกัน 4. มีหลายครั้ง ทึ่เราต้องช่วย บุคคลที่เดือดร้อน ที่คอยเข่นฆ่า เรา กลั่นแกล้ง ตลอดเวลา แต่ก็ต้องกระทำการช่วยเหลือเหล่านั้น ตามที่ร้องขอมา 5. การเป็นพระสงฆ์ ที่เผยแผ่ธรรม แต่ไม่มีรายได้ เป็นเรื่อง ลำบาก ( วันนี้ได้ศิษย์ สองสามท่าน สนับสนุนอยู่ พอได้รอด ) 6. การเผยแผ่ ธรรมทาน ที่เป็นดาบสองคม จากผู้ร่วมสำนักกัน ที่เข่นฆ่า เราก็มี ถ้าศิษย์ร่วมสำนักช่วยเหลือจริง ๆ ทุกวันนนี้ ก็จะไม่เดือดร้อน แต่เพราะไม่ได้ ช่วยเหลือ แต่หลายคนทั้งจดหมายโจมตี กระพือความขัดแย้ง ( ปิดทองหลังพระ ไม่เมีเกรียตยศ ไม่มีลาภ ไม่มีสรรเสริญ ไม่มีสุข อันเกิดแต่ ความสมหวัง มีแต่เพียง หน้าที่ ๆ ทำตามเชื้้อสายพุทธวงศ์ เท่านั้น ) ทุกข์ที่ฉันได้รับ มันยังไม่หมด แต่ ก็ไม่อยากพิมพ์ความรันทด เหล่านั้น ออกมาให้ใครทราบ เพราะใจฉัน ถึงความสงบภายในแล้ว เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถึงแม้จะแย่ แต่ ก็ใช่ว่า จะทำให้ ใจเราเป็นทุกข์ไปได้ ดังนั้น ความทุกข์ เป็นเพียงภายนอกใจเราเท่านั้น ถามว่ามันหมดไปหรือไม่ ตราบใดที่มีการดำรงค์ขันธ์ อยู่ ทุกข์ภายนอกที่มีในสังคมนี้ ก็ไม่มีทางหมดไป นอกเสียจากเราไม่ต้องกลับมาเกิดอีกต่อไป นั่นเอง สังสารวัฏ มีโทษ เพราะความรัก และ ความชัง มี โสกะปริเทวะ เป็นรางวัล ไม่ว่า คุณจะดี เช่นไร หรือ เลวระยำปานไหน ก็มีสองเหตุเป็นผูกพั นั่น ก็คือ รัก และ ชัง พอใจ หรือ ไม่พอใจ สุข หรือ ทุกข์ อันเจือด้วยอามิส คือ ตัณหา บัณฑิต ผู้ฉลาด ย่อมต้องประคอง ใจ ไม่ให้เศร้าหมอง เพราะ ความรัก ชอบ อันประกอบด้วยตัณหา นั้น เจริญธรรม / เจริญพร หัวข้อ: ทีแท้ เป็นเช่นนี้ เอง เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 24, 2015, 08:48:08 pm (http://www.madchima.org/kid/images/forimg58/atta-02.jpg)
ว่าด้วยหลักการ ของ การเผยแผ่ ธรรมทาน ที่มี ผล จากภาพ ถ้าเรามี ปุถุชน 3 คน ก็จะมี แค่ กัลยาณชน 1 คน ( ดังนั้นถ้ามีจำนวน เท่านี้ มองไม่เห็นความเป็นไปได้ ตอนนี้ เป็นเช่นนี้ ) แต่ถ้าเราสร้าง ฐานเพื่มขึ้น คือ 5 : 3 : 1 ดังนั้น ครูท่าน จึงบอกว่า ให้มี พระโสดาบัน 1 คน การเผยแผ่ จึงเป็นไปได้ ฉันพึ่งจะเข้าใจ เมื่อสักครู่ นี้เอง พอดูภาพสามเหลี่ยยแล้ว พึ่งจะเข้าใจ คำครู เมื่อสักครู่ ที่นี้ 5 : 3 : 1 นั้นเราไม่สามารถวัดได้จริง เพราะเป็น คุณธรรมในใจ สิ่งที่ต้องทำก็คือ หยุด ธรรมทาน ไม่ได้ ถ้าหยุด 1 จะไม่เกิด ถ้าไม่หยุด ยังมีโอกาส อยู่นั่นเอง ทีจะมี 1 ดังนั้นจะกล่าวได้ ว่า ผลงาน ของธรรมทาน นี้เพื่อ พระอริยะ โสดาบัน 1 คนเท่านั้นเอง ที่ต้องการ ;) หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กันยายน 24, 2015, 11:04:34 pm st12
ขออนุโมทนาสาธุ ครับ หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: ratree ที่ กันยายน 25, 2015, 01:19:28 am พระอาจารย์ ตอบได้ซึ้ง กินใจ มองเห็นหลักธรรม เบื้องต้น ในการภาวนา กรรมฐาน มาก เลยคะ
:25: :58: หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กันยายน 28, 2015, 10:48:22 am จริง ๆ คะ หัวข้อธรรม พระอาจารย์ แสดงช่วงนี้เข้มข้นขึ้นไม่ใช่ ระดับของคนทั่วไปที่จะอ่านแล้วเข้าใจ ต้องมีการปฏิบัติมาด้วย มีพื้นฐานมาด้วย แต่ ส่วนตัวมองว่า เป็นการต่อยอด อย่างมีระบบ ยังไม่เคยพบพระสงฆ์รูปใดแสดงธรรมได้ละเอียด โดยไม่อิงเรื่องราวสัพเพเหระเลย มีพระอาจารย์เป็นรูปแรก ที่แสดงธรรมโดยตรง ทั้งพยัญชนะ และ อรรถ ที่สำคัญสอดคล้องกับพระไตรปิฏก
จึงมีความเห็นว่า แท้ที่จริงพระไตรปิฏก นั้นมีธรรมที่ถูกต้อง อยู่แล้ว .. st11 st12 st12 หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: chatchay ที่ กันยายน 28, 2015, 11:18:30 am แต่ถ้าพระอาจารย์ ออกข้อความ บทความอย่างนี้ไปเรื่อย ยอดคนเข้าอ่าน จะตก นะครับ เพราะว่า ดูแล้วระดับข้อความธรรม เป็นระดับ ที่สูงกว่า กัลยาณชน นะครับ อาจจะมีผลกับตัวเว็บเองที่จะมีคนเข้ามาหาเนื้อหาส่วนนี้น้อยลง
st11 st12 st12 หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กันยายน 28, 2015, 11:41:13 am จำนวนคนอ่าน ไม่ได้ เป็นปัญหา กับฉัน ให้มีคน อ่านเป็น ล้าน แต่ ไม่มี พระอริยะเลย เท่ากับฉันทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ แต่ถ้ามีคนอ่าน สองสามคน แต่ ได้พระอริยะ ตั้งแต่ พระโสดาบัน ขึ้นไป เท่ากับฉันทำหน้าที่ สมบูรณ์แล้ว เพราะที่นี่ปิดทองหลังพระ ไม่ใช่พระเอก ที่มากู้โลก ใด ๆ ทั้งสิ้น ฉันเผยแผ่ธรรม ก็เพื่อให้คนไปสู่ ประตูอมตะธรรม ไม่ใช่เผยแผ่ธรรม เพื่อให้มาท่องจำ นะ
แค่ พระโสดาบัน คนเดียว ก็ถือว่า สมบูรณ์แล้ว สำเร็จเว็บนี้ แค่ พระโสดาบัน คนเดียว สิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดนั้น จะนับว่าไม่สูญเปล่าเลย เจริญพร ;) หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: Hero ที่ กันยายน 29, 2015, 12:26:00 pm st11 st12 st12 st12
คงไม่มีพระรูปไหน สายกรรมฐาน ที่ออกมา ทำงานแบบปิดทองหลังพระอย่างนี้อีกแล้ว เท่าที่ทราบมา พระอาจารย์สนธยา ท่านถูกโจมตี จาก สำนักส่วนกลางด้วย ผมเคยพาพวกไป ขึ้นกรรมฐาน สอบถามเรื่องพระอาจารย์สนธยา มีพระกล่าวว่า เป็นพวก ลอกเลียนแบบ เหมือนไม่ยอมรับ ว่า เป็นอาจารย์กรรมฐาน สายนี้ มี ฆราวาส ท่านหนึ่งท่านว่าแรงมาก บอกว่า เป็นพวกวัวลืมตีน แอบอ้าง ประมาณนั้น เลยนะครับ ผมไปอยู่หลายครั้ง แต่ผมสอบถามเพราะต้องการรู้ประวัติ ท่าน แต่พิจารณาจาก ตัวเว็บและการทำงานของพระอาจารย์สนธยา แล้ว น่านับถือ เพราะท่านเน้นสอน และ ก็สอน โดยไม่ได้สิ่งตอบแทน จากผู้ที่มาเรียน และ จากสำนักส่วนกลาง ที่จริงผมมองว่า ในเมื่อเว็บนี้ ทำงานให้กับ คณะ 5 ทำไม คณะ 5 ไม่ช่วยเหลือ สนับสนุน ค่าใช้จ่ายของเว็บ ไปเลยเพราะที่นี่ ผมว่ามีคนรู้จัก กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ แพร่หลายกว่า ที่เว็บอื่น และเป็นเอกเทศ ทางด้านกรรมฐาน น่าเสียดาย ที่ผมเห็น ก็คือ ความไม่สามัคคีของศิษย์สายนี้ ไม่ได้มองเห็น คุณประโยชน์ ในการทำงานของพระอาจารย์สนธยา ผมแม้จะเป็นคนนอกติดต่อข้อความเว็บนี้มาตลอด 8 ปีแล้ว นะครับ st11 st12 st12 กับ ทีมงาน ที่ ร่วมปิดทองหลังพระ ครับ หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: kittisak ที่ กันยายน 29, 2015, 03:56:18 pm ผมมีความรู้สึกว่า พระอาจารย์ใกล้ออกวิเวกแล้ว น่าจะ 9 ปี ประมาณนี้
:49: st12 st12 หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ กันยายน 29, 2015, 04:21:39 pm st11 st12 like1
หัวข้อ: Re: ทำไม คนเรียนกรรมฐาน น้อย หรือ ไม่สนใจเรื่องกรรมฐาน เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ กันยายน 29, 2015, 09:22:49 pm ถ้าเคารพศรัทธาครูบาอาจารย์ ถึงเวลาเมื่อใด ก็ออกมาช่วยงานกัน ครับ ตอนนี้ปฏิบัติธรรมกันให้ก้าวหน้า ก่อนนะครับ สาธุ สาธุ พบกันตอนที่ชาติต้องการตัว |