|
หัวข้อ: เดินหน้า พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 01, 2015, 08:45:24 am (http://www.dailynews.co.th/images/1176080) เดินหน้า พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม “พระพรหมโมลี” เผยที่ประชุมคณะกรรมการจัดทำร่างพ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม วางกรอบรายละเอียดการศึกษา3 แผนกธรรม-บาลี-สามัญ เน้นวางรากฐานการศึกษาคณะสงฆ์ วางระบบการบริหารไม่ยึดตัวบุคคล วันนี้ (30 ก.ย.) พระพรหมโมลี (สุชาติธมฺมรตโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะแม่กองบาลีสนามหลวง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ที่ประชุมคณะกรรมการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม ซึ่งมีพระพรหมมุนี (สุชินอคคฺชิโน) กรรมการ มส.เป็นประธาน ได้วางกรอบการจัดทำรายละเอียดการศึกษาพระปริยัติธรรม 3 แผนก ได้แก่ แผนกธรรม บาลี และ สามัญศึกษา พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยมีตนเป็นประธาน และให้พิจารณารายละเอียดแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้โดยให้คำนึงถึงความมั่นคงของการศึกษาพระปริยัติธรรมตั้งแต่ระบบการบริหาร การสนับสนุนงบประมาณ และสิทธิที่ผู้เรียน บุคคลากรพึงมีพึงได้ ซึ่งเนื้อหาต้องครอบคลุมการศาสนศึกษาทั้งระบบให้มีมาตรฐาน ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยให้นำเสนอต่อคณะกรรมการจัดทำร่างพ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรมพิจารณาอีกครั้ง โดยคาดว่าจะเสนอ มส.พิจารณาได้ภายในปี 2558 นี้ :25: :25: :25: :25: พระพรหมโมลี กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงรายละเอียดทุกส่วนการศึกษา โดยแผนกธรรม มี 3 ระดับ คือ ตรี โท และเอก สำหรับในส่วนของบาลี มีประโยค1-2และเปรียญธรรม(ป.ธ.) ประโยค3-9 โดยเฉพาะการเทียบระดับการศึกษากับทางระบบการศึกษาทางโลก ซึ่งตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)นักธรรมตรี โท เอกเทียบได้กับมัธยมศึกษาตอนต้น ขณะที่ของบาลี ป.ธ.3 เทียบได้กับ มัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งการศึกษาบาลีไม่ได้จบเพียงเท่านี้ยังมีป.ธ.4-9 อีก ดังนั้น อาจจะต้องมีการหารือเกี่ยวกับเทียบการศึกษาให้แก่ผู้จบป.ธ.4-9 กับทุกส่วน เพื่อไม่ขัดต่อกฎหมายการศึกษาอื่นๆ โดยที่ประชุมเห็นว่าควรเปิดช่องในพ.ร.บ.นี้ให้ มส.หรือ พศ.ออกกฏหมายลูก ระเบียบเทียบชั้นการศึกษาในส่วนของบาลีกับการศึกษาทางโลกได้ด้วย st12 st12 st12 st12 "เมื่อมี พ.ร.บ.ดังกล่าวจะสร้างความมั่งคงต่อการศึกษาคณะสงฆ์ ซึ่งที่ผ่านมาในส่วนของสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม บาลี และ สามัญฯ นั้น ความมั่งคงขึ้นอยู่กับตัวบุคคลหากเจ้าสำนักเรียนมีกำลังก็ทำให้รุ่งเรือง แต่เจ้าสำนักเรียนไหนไม่มีกำลัง ก็อาจจะทำให้สำนักเรียนล่มสลายได้ แต่ถ้ามี พ.ร.บ.นี้ก็จะเกิดระบบในการบริหารความมั่นคง ไม่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล คล้ายกับระบบราชการที่มีระบบ เมื่อผู้บริหารไประบบงานก็เดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะการจัดการเรียนการสอนที่ต้องมีระบบและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ และสถานะความเป็นอยู่" แม่กองบาลีสนามหลวง กล่าว. ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/351290 (http://www.dailynews.co.th/education/351290) |