สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

(5 ต.ค.58) ชาวบ้านใน อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา  เล่าว่ามีไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้ ใน ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ตายกว่า 100 ตัว พบส่วนใหญ่มีร่องรอยถูกกัดบริเวณลำตัว และถูกล้วงเอาแต่ไส้ออกไปกิน จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไปว่าเป็นผีกระสือหรือผีปอบอาละวาด จึงเดินทางไปตรวจสอบ 

เมื่อไปสำรวจที่บ้านของนายบุญสืบ ภู่รัตน์ใน ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา  พบว่าที่หน้าบ้าน มีซุ้มไก่ และเล้าไก่อยู่ข้างบ้าน มีขนไก่ตกอยู่กระจายเกลื่อน โดยนายบุญสืบ เปิดเผยว่า ไก่ชนที่ตายไปส่วนใหญ่เป็นลูกไก่และพ่อพันธ์ุแม่พันธุ์ไก่ ตายไปครั้งละ 5-6 ตัว  กระจายเกลื่อนอยู่บริเวณโดยรอบบ้าน ได้นำไปฝังกลบหมดแล้ว เมื่อตนได้ดูไก่ที่ตายแต่ละตัว พบว่ามีบาดแผลตามลำตัว บางตัวไม่มีไส้  บางตัวที่รอดชีวิตอยู่ก็มีบาดแผลเป็นทางยาวคล้ายถูกตะปบ และมีรอยกัดที่ตูดไก่ ไม่รู้ว่าเป็นสัตว์หรืออะไรแน่ ยังหาสาเหตุไม่ได้ หากเป็นสุนัขน่าจะกัดหรือกินเพียงตัวเดียว แต่นี่มาตายพร้อมกันหลายตัว และข้ามไปอีกหมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างกันก็มีไก่ตายในลักษณะเดียวกัน จนชาวบ้านหลายคนเชื่อว่าอาจจะเป็นผีกระสือหรือผีปอบ


นอกจากนี้ เมื่อไปดูบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งมีไก่ชนที่เลี้ยงเอาไว้จำนวนกว่า 100 ตัว พบว่าตายในลักษณะเดียวกัน จนเกือบหมดเล้า โดยนายธีรยุทธ ปิ่นรัตน์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาไก่ชนที่เลี้ยงเอาไว้ในเล้า ตายครั้งละ 30-40 ตัว จนต้องอพยพเอาไก่มาเลี้ยงไว้ในบ้านและต้องเดินสายไฟไว้รอบเล้าไก่เพราะคิดว่าน่าจะเป็นสัตว์เข้ามากัด โดยไก่แต่ละตัวที่ตายมีบาดแผลคล้ายกับถูกกัด ตนจึงเตรียมที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบไก่ที่ตายจำนวนมากๆ ขนาดนี้มาจากสาเหตุอะไร


ทั้งนี้นายทองเจือ ชาญชัยศรี ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าเบื้องต้นไก่ที่ตายน่าจะถูกสัตว์กัดกินมากกว่า ทำให้ต้องทำการสำรวจในหมู่บ้านว่ามีการลักลอบเลี้ยงสัตว์ป่าเอาไว้บ้างหรือไม่

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1444039275 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1444039275)