สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

ฉะกรมศิลปากรไม่อนุมัติงบฯปี59 บูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ ส่งผลงานชะงัก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณฯหวั่นไม่ได้งบบูรฯะต่อกลายเป็น“พระปรางค์สองสี” วอน “วีระ”ช่วยหาทางแก้ไข

วันนี้ (6ต.ค.) พระศากยปุตติยวงศ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เปิดเผยว่า ตามที่กรมศิลปากรบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ โดยมีแผนดำเนินงานตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556-2558 ใช้งบฯ 130 ล้านบาท โดยขณะนี้ทำการบูรณะพระปรางค์ประกอบเสร็จแล้ว กำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะพระปรางค์องค์ประธานแต่เนื่องจากการดำเนินการบูรณะที่ผ่านมาได้รับงบฯมาไม่เต็มตามจำนวนที่ขอไป ทำให้มียอดงบประมาณตกค้างทับถม และเมื่อขอใช้งบฯ2559แทนกรมศิลปากร ก็ไม่ได้อนุมัติงบฯให้ ทำให้ขาดงบประมาณในการบูรณะพระปรางค์องค์ประธานอยู่ประมาณ 50 ล้านบาท ส่งผลให้การบูรณะต้องหยุดชะงักไป 7 เดือนเป็นอย่างน้อยเพราะต้องมีการทำเรื่องของบประมาณใหม่

      ans1 ans1 ans1 ans1

    "ขณะนี้ได้เริ่มบูรณะในส่วนบนของพระปรางค์องค์ประธานแล้ว เกรงว่าหากหยุดการบูรณะจะส่งผลให้สีขององค์พระปรางค์ระหว่างด้านล่างกับด้านบนมีสีที่แตกต่างกันทำให้ไม่สวยงามเช่นเดิม และจะส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยด้วย เพราะพระปรางค์วัดอรุณฯ ถือเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
     โดยล่าสุดเว็บไซต์การท่องเที่ยวระดับโลกทริปแอดไวเซอร์(TripAdvisor)จัดให้วัดอรุณฯ อยู่ในอันดับ 8ของทวีปเอเชียในหมวดของสถานที่สำคัญยอดนิยม ดังนั้น จึงอยากให้นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม มาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน
     อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการปล่อยข่าวว่าพระปรางค์วัดอรุณฯปิดไม่ให้เข้าชม ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไปมาก ซึ่งทางวัดขอชี้แจงว่าพระปรางค์วัดอรุณฯยังเปิดให้เข้าชมตามปกติ เพียงแต่พระปรางค์ประธาน จะมีนั่งร้านคลุมอยู่ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่จะให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพได้ รวมถึงปรางค์ประกอบที่มีลักษณะเหมือนกับปรางค์ประธานที่มีศิลปะที่งดงามเช่นกัน” พระศากยปุตติยวงศ์ กล่าว

      st11 st11 st11 st11

สื่อข่าวรายงานว่า การบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯในครั้งนี้เป็นการบูรณะครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ14ปีที่ผ่านมา โดยกรมศิลปากรมีแผนในการดำเนินงานตั้งแต่ปีงบประมาณ2556ถึงปีงบประมาณ2558ใช้งบประมาณ130ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับประวัติการบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ เริ่มมีการบันทึกตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่1 ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่2มีพระราชดำริที่จะเสริมสร้างพระปรางค์หน้าวัดให้สูงขึ้น แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน

ต่อมารัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่3ในปี2385ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เสริมพระปรางค์ขึ้นต่อมาปี 2452พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่5ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้บูรณะปฏิสังขรณ์พระปรางค์ถมลานให้สูงขึ้นและทำรั้วเหล็ก สถาปนาวัดอรุณฯขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก

 st12 st12 st12 st12

นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังเคยมีพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าฯ กรมพระจักรพรรดิพงษ์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เสด็จประทับ ณ พระราชวังเดิมมีใจความสำคัญว่า“พระปรางค์นี้ตั้งอยู่ในพระอารามสำคัญเป็นของพระเจ้าแผ่นดินทรงสร้างเป็นการบำรุงพระพุทธศาสนาแลสง่างามแก่พระนคร จะต้องรักษาไว้ไม่ให้ชำรุดไปโดยเร็วได้”จากนั้นมีประวัติการบูรณะอีกครั้งโดยกรมศิลปากรเมื่อปี2510-2511และปี 2540-2542

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/352693 (http://www.dailynews.co.th/education/352693)

มันเป็นเรื่อง ระบบ การเมือง กัน ลามมาแต่ วัดกัลยาณมิตร ด้วยนั่นแหละ เพราะผู้ปกครองส่วนนี้ อยู่ใกล้กันห่างกันแค่ 2 - 3 กม. และพันธมิตรของ วัด อรุณ ก็ สนับสนุน วัดกัลยา ด้วย

   สงฆ์ ผูกมือกัน ก็ต้อง กดดันสงฆ์ ......

   ผมเคยเข้าไปคุยกับ พระสงฆ์ 8 วัดย่านนั้น ตั้งแต่และอีกหลาย ๆ วัดย่านนี้ ล้วนแล้วแสดงความเห็นชอบกับ เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร เรื่องการก่อสร้าง และขับไล่ ชาวบ้านรอบวัดที่บังทัศนียภาพ นะครับ แต่เป็นพระระดับ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสขึ้นไป นะครับ หรือเจ้าคณะต่าง ๆ ประมาณนั้น ถ้าเป็นพระลูกวัดก็จะเงียบ

    :021: :021: :021: