หัวข้อ: ติดโซเชียลมีเดียเกินขนาด! นับถอยหลังโรคตาเสื่อม เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 10, 2015, 10:21:06 am (http://www.khaosod.co.th/upload/files/1444289521_image00.png) ติดโซเชียลมีเดียเกินขนาด! นับถอยหลังโรคตาเสื่อม ปัจจุบันโซเชียลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิงหรือผู้ชายต่างใช้โซเชียลมีเดียในการติดต่อสื่อสาร ทำให้เราใช้ดวงตามากจนไม่รู้ตัว จนเกิดเป็นอันตรายที่มาจากพฤติกรรมการติดจอที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตา คนยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แบบ “ชีวิตติดจอ” ใช้จอต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น จอคอมพิวเตอร์ จอแท็บเล็ต หรือ จอสมาร์ทโฟน ในการอัพเดทสถานะ โซเชียลมีเดีย เล่นเกม ดูหนัง ดูซีรี่ส์ ส่งข้อความ ซื้อของออนไลน์ ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ทำให้เราใช้สายตาเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งสถิติข้อมูลการใช้จอพบว่าอัตราการใช้สายตากับหน้าจอคอมพิวเตอร์และจอต่างๆ ของคนไทยเฉลี่ยวันละ 7.2 ชั่วโมงเลยทีเดียว และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการที่คนเราใช้สายตาส่วนใหญ่ในการจ้องมองหน้าจอ หรือจ้องตัวหนังสือที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงจอสมาร์ทโฟนนานๆ นั้น จะส่งผลให้กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก เพราะการเกร็งตาเป็นเวลานาน และลืมกระพริบตา เพิ่มโอกาสที่จะทำให้สายตาเสียได้มากขึ้น (http://www.khaosod.co.th/upload/files/1444289557_image02.jpg) อาการที่พบได้ในโรคนี้ทำให้เกิดอาการ ตาล้า ตาพร่า ตาเบลอ ตาแห้ง แสบตา สู้แสงไม่ได้ ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่คุณไม่รู้ตัว และหากเราใช้สายตามากขึ้น ความรุนแรงของอาการจะยิ่งมากจนเกิดอาการคอมพิวเตอร์วิชัน ซินโดรม ซึ่งนอกจากจะมีอาการทางสายตาแล้ว ยังมีอาการของกล้ามเนื้อด้วย เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยบ่า ต้นคอ และอาจเป็นสาเหตุตูของโรคตาอื่นๆ เช่นต้อหิน ต้อกระจก ตามมาได้ (http://www.khaosod.co.th/upload/files/1444289587_image01.png) วิธีดูแลดวงตา 1.จำกัดเวลาเล่น ตามความเหมาะสม 2.หางานอดิเรกใหม่ ๆ ทำ เพื่อเบนความสนใจของตัวเองเสียหน่อย ก็ออกกำลังกาย ทำสวน อ่านหนังสือ อาจช่วยให้คุณเพลินจนลืมท่องโซเชียลมีเดียไปเลยก็ได้ เราสามารถถนอมดวงตาได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารและวิตามินบำรุงสายตา อย่างผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ อาทิ บลูเบอร์รี่และแบล็กเคอร์แรนต์ ที่มีงานวิจัยว่า มีสารแอนโธไซยานินสูง ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์ตา ช่วยให้การมองเห็นตอนกลางคืนดีขึ้น และช่วยเพิ่มการไหลเวียนในหลอดเลือดฝอยในดวงตา ช่วยคลายความเหนื่อยล้าของดวงตา รวมถึงช่วยป้องกัน และชะลอความเสื่อมจากโรคต้อกระจก และจอตาส่วนกลางเสื่อมสภาพได้ด้วย และ วิตามินเอที่ผลงานวิจัยระบุว่าช่วยในการมองเห็น และยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดภาวะตาแห้งได้ (http://www.khaosod.co.th/upload/files/1444289620_image03.png) อย่างไรก็ตาม หากจะต้องทำงานอยู่หน้าจอเป็นเวลานานๆ ควรหมั่นพักสายตาและกระพริบตาบ่อยๆ อย่างน้อย 10-15 ครั้งต่อนาที และทุกควรพักหลับตา หรือมองออกไปไกลๆ ประมาณ 2-3 นาที เท่านี้ก็สามารถถนอมสุขภาพตาเราไปได้อีกนานแม้จะอยู่หน้าจอกันมากกว่า 7.2 ชั่วโมงต่อวัน ขอขอบคุณข้อมูลจาก BRAND'S Veta http://www.facebook.com/BrandsVeta (http://www.facebook.com/BrandsVeta) http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444289672 (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444289672) หัวข้อ: Re: ติดโซเชียลมีเดียเกินขนาด! นับถอยหลังโรคตาเสื่อม เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ ตุลาคม 10, 2015, 11:05:17 pm ดูสีมาก เสื่อมครับ หัวข้อ: Re: ติดโซเชียลมีเดียเกินขนาด! นับถอยหลังโรคตาเสื่อม เริ่มหัวข้อโดย: suchin_tum ที่ มีนาคม 08, 2016, 08:49:06 am :91:
สงสัยจะมีส่วนค่ะ ที่ว่าตาเสื่อมเพราะบางคราว รู้สึก แสบตามาก ถ้าใช้เครื่องนานๆ |