สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 12, 2015, 09:12:24 am



หัวข้อ: ปุจฉา จาก กรณีภาพยนตร์ ‘อาบัติ’
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 12, 2015, 09:12:24 am

(http://www.posttoday.com/media/content/2015/10/11/DC16E48C64114B0193F05E2E2DCF3FD5.jpg)

ปุจฉา จาก กรณีภาพยนตร์ ‘อาบัติ’
โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา มีปุจฉาว่าด้วยเรื่องภาพยนตร์ที่ชื่อ อาบัติ เหมาะสมหรือไม่... ควรหรือไม่ ที่องค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาจะต่อต้าน...

อาตมาไม่ทราบในเนื้อหาสาระของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวทั้งหมด จึงไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ให้คุณโทษต่อพุทธศาสนาอย่างไรหรือไม่ เรื่องดังกล่าวควรเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของกระทรวงวัฒนธรรม หรือกระทรวงศึกษาธิการ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ควรพิจารณาลงไปในรายละเอียดทุกมิติ เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายโดยเฉพาะพระพุทธศาสนาของเรา

 ans1 ans1 ans1 ans1

คำว่า อาบัติ นั้น จริงๆ แล้ว เป็นศัพท์บาลีคำหนึ่งที่นำมาใช้ในพระพุทธศาสนา แปลว่า การล่วงละเมิดในศีลหรือสิกขาบทที่พระพุทธองค์ทรงแสดงบัญญัติไว้ดีแล้ว จัดเป็นบาป เมื่อกระทำการล่วงละเมิด ส่วนจะเป็นบาปหรือโทษในระดับใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระแห่งอาบัตินั้นๆ ซึ่งจัดแบ่งไว้ถึง ๗ กอง (ปาราชิก, สังฆาทิเสส /ถุลลัจจัย, ปาจิตตีย์, ปาฏิเทสนียะ, ทุกกฎ และทุพภาสิต) เป็นสองคณะ (ครุกาบัติและลหุกาบัติ)

ในทั้งเจ็ดกองสองคณะนั้น ปาราชิก/ครุกาบัติ เป็นบาปหรือโทษหนักที่สุด เทียบเท่ากับโทษประหารชีวิตของทางโลก ทำให้ผู้ล่วงละเมิดขาดจากความเป็นภิกษุ ส่วนอาบัติมีโทษหนักรองลงมาชื่อสังฆาทิเสส มี ๑๓ สิกขาบท ผู้ล่วงละเมิดต้องประพฤติวัตรอย่างหนึ่งจึงจะพ้นอาบัติได้ ส่วนอีกห้ากองที่เหลือ เป็นอาบัติฝ่ายลหุกาบัติหรือมีโทษเบา ผู้ล่วงละเมิดออกจากอาบัติ (บาป/โทษ) นั้นได้ ด้วยต้องประกาศสารภาพผิดต่อหน้าภิกษุด้วยกัน ที่เรียกว่า “ปลงอาบัติ”

 :91: :91: :91: :91:

สำหรับในภาพยนตร์ เรื่อง อาบัติ ดูจะเป็นการแสดงความผิดในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิง... และไม่ทราบว่าเป็นภิกษุหรือสามเณร ซึ่งถ้าเป็นสามเณร ก็ไม่ควรใช้คำว่า “อาบัติ” เพราะสามเณรสำเร็จเข้าสู่กระบวนการบรรพชาด้วยการเข้าถึงพระไตรสรณคมน์และรับสิกขาบท (ศีล) สิบ หากประพฤติผิดสิกขาบท เรียกว่า ล่วงละเมิดศีล... โดยมีการโยงเรื่องไปเกี่ยวเนื่องกับภูตผีเปรตทั้งหลายของผู้กระทำบาปอันหยาบช้า ล่วงเกินสิกขาบทในพระพุทธศาสนา

หากพิจารณาดูจุดประสงค์ของภาพยนตร์ดังกล่าว ถ้าเป็นไปตามเนื้อหาสาระโดยสรุปที่พอจะหามาได้ก็คงรับได้ ถ้ามองในเชิงบวกว่า... ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆ จะได้กระตุ้นให้สังคมชาวพุทธรู้จักคำว่า อาบัติ จะได้สนใจนำมาศึกษาว่าด้วยเรื่องอาบัติต่างๆ ที่เป็นบทลงโทษชี้ความเป็นบาป เมื่อภิกษุในพระพุทธศาสนานี้ได้กระทำการล่วงเกินสิกขาบทหรือข้อควรศึกษาที่ทรงบัญญัติแสดงไว้ดีแล้ว ในทางตรงข้ามจะได้เห็นคุณประโยชน์ของผู้ประพฤติอยู่ในสิกขาบท รักษาไว้ซึ่งศีลหรือวินัยของภิกษุอย่างบริสุทธิ์หมดจดว่า ให้คุณานุประโยชน์เป็นอย่างไร... สมดังที่กล่าวว่า ศีลเป็นรากแก้วของศาสนา วินัยเป็นรากเหง้าเค้ามูลของกุศลธรรมทั้งปวง... โลกียบุญกุศล โลกุตตรบุญกุศลเกิดขึ้นได้ด้วยการประพฤติถูกต้องตรงตามศีล... ตามวินัย...

 :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

แต่อย่างไรก็ตาม ในการนำเสนอเนื้อหาสาระใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ควรอย่างยิ่งที่จะต้องนำเสนอให้ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกด้าน หมายถึง ต้องนำเสนออย่างปราศจากอคติต่อพระพุทธศาสนา... เพื่อจะไม่ชี้นำสังคมที่ไร้แก่นสาร เข้าสู่ความรู้ ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนผิดไปจากธรรม

จึงควรระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกระแสโลกาภิวัตน์ ที่สัตว์สังคมตกอยู่ในอิทธิพลของสื่อ ...ผู้นำเสนอเรื่องราวต่างๆ ผ่านสื่อทุกชนิดจึงต้องรอบคอบ และควรวัดผลย้อนกลับจากกรณีการนำเสนอนั้นๆด้วย...  ...จะคิดคำนึงแค่เพียงประโยชน์ส่วนตน สนุกสนาน ถูกใจตัวอย่างเดียวไม่ได้ โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องที่กระทบต่อกระแสศรัทธา ดังเช่น กรณีนำเรื่องศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้องในการนำเสนอ... ซึ่งหากมีผลสะท้อนเกิดขึ้น ไม่ว่าในรูปแบบใด ผู้นำเสนอต้องตอบสังคมได้ตามวิถีแห่งธรรม!...

เจริญพร


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.posttoday.com/dhamma/393182 (http://www.posttoday.com/dhamma/393182)


หัวข้อ: Re: ปุจฉา จาก กรณีภาพยนตร์ ‘อาบัติ’
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ ตุลาคม 12, 2015, 08:47:57 pm
 :021: :d030: :035: :035: :035:
           สร้างหนังเพื่อทรัพย์

          แต่อายุศาสนา จะสั้นลง 

            สรุปแล้วเป็นกรรม