หัวข้อ: ชีวิตคุณติดจอมากเกินไปหรือเปล่า? สัญญาณอันตรายทำร้ายดวงตา เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 14, 2015, 08:12:21 am (http://www.thairath.co.th/media/EyWwB5WU57MYnKOuXocdyI7bLGNImCPWjdm9c9RJHZs4QGvRlTmNAf.jpg) ชีวิตคุณติดจอมากเกินไปหรือเปล่า? สัญญาณอันตรายทำร้ายดวงตา ถ้าคุณเป็นคนที่หยิบมือถือมาดูทุก 5 นาที ปล่อยให้มี notification แจ้งเตือนแอพต่างๆ ทิ้งไว้ไม่ได้ วันๆ นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากกว่า 7 ชั่วโมง ก่อนนอนอย่างสุดท้ายที่ทำคือหยิบมือถือมาดู...ถ้าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ คุณก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีชีวิตติดจอแน่นอน ปัจจุบันนี้ผู้คนมากมายต่างพากันใช้เทคโนโลยี สมาร์ทโฟนมากมาย จนกลายเป็นปัจจัย 5 ที่ใช้ในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะเห็นแต่ผู้คนก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ทโฟนของตัวเองกันไปหมด จากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2557 (Thailand Internet User Profile 2014) โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พบว่าคนไทยมีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต เฉลี่ยถึง 7.2 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งนับว่าคนไทยเป็นชาติที่ขาดไอทีไม่ได้ติดอันดับต้นๆ ของโลก แต่รู้หรือไม่ว่าการจ้องคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตนานเกินไป จะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาโดยเฉพาะสุขภาพตา โรคยอดฮิตที่นับวันยิ่งทะลุเพิ่มมากขึ้นคืออาการ computer vision syndrome ยิ่งคนใช้อุปกรณ์ gadget ต่างๆ โดยเฉพาะมือถือ จะดูตัวหนังสือที่แสดงในจอมีขนาดเล็ก ยิ่งทำให้ต้องเพ่งจอ หรือการใช้จอเป็นเวลานานก็ทำให้เกิดอาการเกร็งตาจนลืมกะพริบตา ก็ทำให้มีอาการตาล้า แสบตา หรือตาพร่าได้ (http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1D61b4zEpZmlV5yRqOU38YjHmWrIM.jpg) โรค computer vision syndrome เป็นโรคที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ gadget ทั้งหลายเช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นเวลานานมากเกินไป จนเกิดอาการเกร็งตา ลืมกะพริบตา นานๆ เข้าก็จะมีอาการปวดศีรษะ ตาล้า สายตาพร่ามัว แสบตา เมื่อยคอ ปวดหลัง การที่เราจ้องหน้าจอเป็นเวลานานแล้วเกิดอาการดังกล่าวข้างต้น แสดงว่าคุณเป็น computer vision syndrome หรือ "โรคซีวีเอส"แล้ว (http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1D61b4zEpZmlV5yRrl3wRLc1xQVNi.jpg) วิธีป้องกันอาการ computer vision syndrome 1. ถ้ารู้สึกตัวว่าจ้องหน้าจอนานเกินไป ให้กะพริบตาให้บ่อยขึ้น หรือพักสายตาโดยการละสายตาจากคอมพิวเตอร์ หลังจากใช้ไปประมาณ 20 และนั่งในท่าที่เหมาะสม ผ่อนคลาย 2. ปรับห้องและบริเวณทำงาน อย่าให้มีแสงจ้าส่องเข้าตามากเกินไปการใช้แผ่นกรองแสงวางหน้าจอ หรือใส่แว่นกรองแสง (ปรึกษาหมอตาก่อน) อาจลดแสงสะท้อนเข้าตาได้บ้าง 3. จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ในระยะทำงานพอเหมาะที่ตามองได้สบายๆ โดยเฉลี่ยระยะจากตาถึงจอภาพควรเป็น 0.45 ถึง 0.50 เมตร จอภาพควรตั้งสูง 0.72-0.75 เมตร เหนือพื้นห้อง ปรับเก้าอี้นั่งให้พอเหมาะ ให้ตาอยู่สูงจากพื้นโดยเฉลี่ย 1.0 – 1.15 เมตร ตาควรอยู่สูงกว่าขอบบนของจอภาพเล็กน้อย :49: :49: :49: :49: ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สามารถบรรเทาปัญหาทางสายตาได้ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่โดยเฉพาะบิลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีแอนโทไซยานินสูงช่วยชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา และ มีบทบาทสำคัญต่อการถนอมสุขภาพตา เพราะมีงานวิจัยว่า ช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นที่เซลล์ของดวงตา จึงช่วยป้องกันเลนส์และจอประสาทตาจากการถูกทำลาย ช่วยคลายความเหนื่อยล้าของดวงตา และช่วยให้ดวงตาแข็งแรง (http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1D61b4zEpZmlV5yRhmZYW1PFAZtdV.jpg) ปัจจุบันมีการใช้สารสกัดจากผลเบอร์รี่ในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในการรักษาสุขภาพตาและหลอดเลือด ซึ่งการรับประทานผลเบอร์รี่เพื่อให้ได้ผลในการถนอมดวงตานั้น อาจเลือกรับประทานสดหรือเพื่อความสะดวก อาจเลือกรับประทานในรูปของเบอร์รี่สกัดเข้มข้นก็ได้เช่นกัน (http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1D61b4zEpZmlV5yRjDougdskoBEUa.jpg) ดังนั้นหากคุณเป็นคนมีชีวิตติดจอไม่ว่าจะเป็น คนทำงาน หรือนักเรียนนักศึกษา ซึ่งจะใช้อุปกรณ์ gadget ต่างๆ เป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะใช้ในการทำงานหรือพักผ่อนคุยกับเพื่อน ควรดูแลสุขภาพดวงตาด้วยการ ไม่ควรจ้องจอนานจนเกินไป พักสายตา มองไปไกลๆบ้าง ดูแลเป็นพิเศษด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นประจำ ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/531687 (http://www.thairath.co.th/content/531687) หัวข้อ: Re: ชีวิตคุณติดจอมากเกินไปหรือเปล่า? สัญญาณอันตรายทำร้ายดวงตา เริ่มหัวข้อโดย: Hero ที่ ตุลาคม 14, 2015, 10:28:29 am เชื่อสิ ว่า ปัจจุบันนี้ ระบบพวกนี้ มันเป็นสิ่งที่ติดตัว ใครเดินบนถนนไปที่ไหน ไม่พกสมาร์ทโฟน ละก็ ไม่แมน ไม่วูแมน นะครับ มันเป็นเรื่องปกติที ต้องมีไปแล้ว
:49: |