หัวข้อ: สทฺธา สาธุ ปติฏฺฐิตา : ศรัทธาตั้งมั่นแล้ว ยังประโยชน์ให้สำเร็จ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 12, 2015, 09:07:48 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_12_11_15_9_08_23.jpeg) สทฺธา สาธุ ปติฏฺฐิตา : ศรัทธาตั้งมั่นแล้ว ยังประโยชน์ให้สำเร็จ โดย พระมหาบุญไทย ปุญญมโน วันนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 เป็นวันปวารณาออกพรรษา แม้ฟ้าฝนจะยังคงตกลงมาเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่อาจจะทำให้พิธีกรรมของสงฆ์ยกเลิกไปได้ พระสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาในอารามใดอารมหนึ่งยังคงลงพระอุโบสถและประกอบพิธีปวารณาตามปกติ ในวันนี้ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงจังหวัดหนองคายและบึงกาฬ ผู้คนยังคงเฝ้ารอปรากฏการณ์พิเศษที่อยู่นอกเหนือจากการพิสูจน์นั่นคือบั้งไฟพญานาค ซึ่งจะเกิดขึ้นทุกปีในช่วงวันออกพรรษา ที่มีดวงไฟกลมโตลอยขึ้นบนท้องฟ้าก่อนจะมลายหายไป ไม่ปรากฏเศษวัตถุอะไรให้เห็นอีกเลย ผู้คนสองฝั่งโขงจึงเชื่อว่านั่นคือบั้งไฟพระยานาค แม้จะมีนักวิชาการพยายามอธิบายปรากฏการณ์นี้ว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ ก๊าชธรรมชาติผุดขึ้นจากการสะสมของเศษวัสดุทั้งหลายจนกลายเป็นแรงดันของก๊าซชนิดหนึ่ง พอถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมซึ่งมักจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 พอดีก็จะพุ่งขึ้นจากใต้ผิวน้ำ ที่ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นบั้งไฟพญานาคที่จะจุดบูชาในเทศกาลออกพรรษา ศรัทธาความเชื่อที่นำไปสู่การทำความดีให้ยิ่งขึ้นไป ควรได้รับการสนับสนุน จะเป็นบั้งไฟพระยานาคตามความเชื่อของชาวบ้านหรือเป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติตามที่นักวิชาการเข้าใจ วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ก็ยังมีประชาชนเดินทางไปที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงเพื่อชมสิ่งที่จะเกิดขึ้นในท้องน้ำยามค่ำคืน :49: :49: :49: :49: อีกความเชื่อหนึ่งที่มีมานานแล้วนั่นคือวันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธ หรือวันขึ้น 15 ค่ำ ที่ตรงกับวันพุธทางภาคเหนือส่วนเชื่อกันว่า พระอุปคุตจะขึ้นมาบิณฑบาตหลังเที่ยงคืน โดยจำแลงเพศมาในรูปลักษณ์ของสามเณรน้อย ในบางท้องที่ยังมีประเพณีตักบาตรหลังเที่ยงคืนวันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธ เพราะอิทธิพลความเชื่อเรื่องพระอุปคุต พระอุปคุตเชื่อกันว่าเป็นพระเถรอรหันต์องค์หนึ่งที่มีฤทธิ์มาป้องกันอันตรายต่างๆ มีชีวิตอยู่ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชราวพุทธศตวรรษที่ 3 พระเจ้าอโศกจัดงานฉลองเจดีย์ที่พระองค์สร้างขึ้นแต่มักจะถูกพระยามารมารบกวน จึงได้นิมนต์พระอุปคุตมาคุ้มครองจนงานฉลองสำเร็จบริบูรณ์ พร้อมทั้งปราบพระยามารจนยอมจำนน จึงทำให้เกิดแนวความเชื่อว่าหากจัดงานใหญ่ไม่ให้มีอันตรายก็ต้องตั้งศาลพระอุปคุตไว้คอยคุ้มครองป้องกันภัย บางคนอาจจะแย้งว่าก็เหตุการณ์ผ่านมาตั้งสองพันปีแล้ว พระอุปคุตก็น่าจะนิพพานไปแล้ว เหตุไฉนจึงจะยังออกมาบิณฑบาตได้อีกเล่า :29: :29: :29: :29: ความเชื่อบางอย่างแม้จะพิสูจน์ไม่ได้ แต่หากเป็นความเชื่อที่นำไปสู่การทำความดี ความเชื่อนั้นก็ไม่ควรมองข้าม ปีหนึ่งมีวันขึ้นสิบห้าค่ำที่ตรงกับวันพุธไม่น่าจะเกินสามครั้ง เช่นในปีพุทธศักราช 2557 มีเพียงสองวันคือวันพุธที่ 15 เดือนมกราคม 2557 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 และวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2557 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ปีนี้มีเพียงสองครั้ง แม้จะมีคนมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ แต่บางทีในหนึ่งปีทำเรื่องไร้สาระสักวันสองวันก็ไม่น่าจะเป็นไร ชีวิตบางครั้งไร้สาระบ้างอาจจะทำให้บางอย่างดีขึ้นก็ได้ ยังมีอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้คือจะเกิดจันทรุปราคา แต่ในกรุงเทพมหานครคงมองไม่เป็นเพราะท้องฟ้าถูกปิดบังด้วยเมฆหมอก ฟ้าครึ้มจึงมองไม่ทะลุเมฆไปถึงดวงจันทร์ แต่ในบางพื้นที่อาจจะพอมองเห็นได้บ้าง เหตุการณ์นี้ก็นานๆเกิดขึ้นสักครั้ง :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144: ทั้งสามเหตุการณ์ คือ บั้งไฟพระยานาค และวันเพ็ญพุธ และจันทรุปราคา เกิดขึ้นในวันเดียวกันคือวันพุธขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 เป็นเรื่องของศรัทธาความเชื่อ ในพระพุทธศาสนาคำว่า “ศรัทธา” เป็นกำลังอย่างหนึ่ง ในคุณธรรมทั้งเจ็ดประการ ดังที่แสดงไว้ในพลสูตร อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต(23/4/3) ความว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย พละ 7 ประการนี้ 7 ประการเป็นไฉน คือ ศรัทธาพละ วิริยพละ หิริพละ โอตตัปปพละ สติพละ สมาธิพละ ปัญญาพละ” มีคำอธิบายคำว่า “ศรัทธาพละ” ไว้ว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศรัทธา คือ เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตว่าแม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ ฯลฯ เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม นี้เรียกว่า ศรัทธาพละ” (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_12_11_15_9_10_54.jpeg) ส่วนที่ละไว้มีคำเต็มว่า “แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้วทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่น ยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม พระตถาคตพระองค์นั้น ทรงทำโลกนี้ พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งของพระองค์เอง แล้วทรงสอนหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ ให้รู้ตาม พระองค์ทรงแสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ก็การได้เห็นพระอรหันต์ทั้งหลาย เห็นปานนั้น ย่อมเป็นการดีแล” :25: :25: :25: :25: ผู้ที่มีศรัทธาตั้งมั่นดีแล้วย่อมนำไปสู่ความสำเร็จ ดังที่พระพุทธเจ้าทรงตอบคำถามของเทวดา ชราสูตร สังยุตตนิกาย สคาถวรรค (15/158-159/50) เทวดาทูลถามว่า “อะไรหนอยังประโยชน์ให้สำเร็จจนกระทั่งชรา อะไรหนอตั้งมั่นแล้วยังประโยชน์ให้สำเร็จ อะไรหนอเป็นรัตนะของคนทั้งหลาย อะไรหนอโจรลักไปได้ยาก” พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า “ศีลยังประโยชน์ให้สำเร็จจนกระทั่งชรา ศรัทธาตั้งมั่นแล้วยังประโยชน์ให้สำเร็จ ปัญญาเป็นรัตนะของคนทั้งหลาย บุญอันโจรลักไปได้ยาก” แปลมาจากภาษาบาลีว่า "สีลํ ยาว ชรา สาธุ สทฺธา สาธุ ปติฏฺฐิตา ปญฺญา นรานํ รตนํ ปุญฺญํ โจเรหิ ทูหรนฺติ" คนมีศีลย่อมรักษาความเป็นปกติทางกายและวาจาไว้ได้ มีโอกาสมีชีวิตอยู่ยืนยาวจนกระทั่งชรา ส่วนศรัทธาที่ตั้งมั่นดีแล้วย่อมนำไปสู่ความสำเร็จได้ เชื่อในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่เชื่อ ปัญญานั้นเป็นรัตนะอันประเสริฐของคนทั้งหลาย ส่วนบุญที่ทำแล้ว แม้พวกโจรก็ไม่อาจจะขโมยไปได้ บุญจึงเป็นทรัพย์ภายในที่อยู่กับผู้กระทำ และจะติดตามตัวไปเหมือนเงาติดตามตน ans1 ans1 ans1 ans1 ความเชื่อเรื่องบั้งไฟพระยานาค และความเชื่อเรื่องพระอุปคุตมีพื้นฐานมาจากความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา มีหลักฐานในมหาปรินิพพานสูตรตอนหนึ่งที่พระสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าส่วนหนึ่งอยู่ที่เมืองของพระยานาค ดังที่แสดงไว้ในมหาปรินิพพานสูตร ทีฆนิกาย มหาวรรค(10/62/133) ความว่า “พระสรีระของพระพุทธเจ้าผู้มีพระจักษุ แปดทะนาน เจ็ดทะนาน บูชากันอยู่ในชมพูทวีป ส่วนพระสรีระอีกทะนานหนึ่งของพระพุทธเจ้า ผู้เป็นบุรุษที่ประเสริฐอันสูงสุด พวกนาคราชบูชากันอยู่ในรามคาม พระเขี้ยวองค์หนึ่งเทวดา ชาวไตรทิพย์บูชาแล้ว ส่วนอีกองค์หนึ่ง บูชากันอยู่ในคันธาร บุรี อีกองค์หนึ่งบูชากันอยู่ในแคว้นของพระเจ้ากาลิงคะ อีก องค์หนึ่ง พระยานาคบูชากันอยู่” ศรัทธาความเชื่อที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แม้ว่าในปัจจุบันวิทยาการสมัยใหม่อาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ล้าหลัง นั่นเพราะความเชื่อบางอย่างยังพิสูจน์ไม่ได้ด้วยความรู้สมัยใหม่ สิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้อาจจะมีอยู่จริงก็ได้ วิทยาการสมัยใหม่อาจบางทีก็ตอบคำถามของคนยุคเก่าไม่ได้ โบราณจึงบอกว่าบางอย่างไม่เชื่อก็อย่าพึ่งลบหลู่ ศรัทธาความเชื่อที่ตั้งมั่นไว้ดีแล้วย่อมยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ ไซเบอร์วนาราม.เน็ต เผยแพร่เมื่อ : 08 ตุลาคม 2557 www.cybervanaram.net/index.php/2009-12-17-14-44-23-14/1108-2014-10-08-13-46-08 (http://www.cybervanaram.net/index.php/2009-12-17-14-44-23-14/1108-2014-10-08-13-46-08) หัวข้อ: Re: สทฺธา สาธุ ปติฏฺฐิตา : ศรัทธาตั้งมั่นแล้ว ยังประโยชน์ให้สำเร็จ เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ พฤศจิกายน 12, 2015, 07:06:43 pm ขออนุโมทนาสาธุ ครับ |