สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 27, 2015, 09:46:17 pm



หัวข้อ: สร้างป่าด้วยศรัทธา วัดป่าภูก้อน
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 27, 2015, 09:46:17 pm


(http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2015/11/pra02251158p1.jpg)

สร้างป่าด้วยศรัทธา วัดป่าภูก้อน

ภาคอีสานขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งศรัทธาธรรมมาช้านาน ครูบาอาจารย์สายวิปัสสนาธุระผู้ครองธรรมฝ่ายอรัญวาสี หรือสายวัดป่าจาริกธุดงค์ปักกลดตระเวนไปทั่วดินแดนอีสานและข้ามไปถึง สปป.ลาว เป็นธงชัยพระอรหันต์ปกแผ่เป็นหลักศีลธรรมให้แผ่นดินอีสานอยู่เย็นเป็นสุข

แต่ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ของภาคอีสานลดน้อยถอยลงมาก ที่เป็นป่าที่ราบก็กลายเป็นทุ่งนาบ้านเรือนคน ที่เป็นพื้นที่ภูที่เขาก็โล่งเตียนกลายเป็นเขาหัวโล้น จะหาพื้นที่สงัดเงียบเป็นป่าชัฏให้พระสงฆ์เข้าไปฝึกสมาธิวิปัสสนาก็ยากยิ่งตามลำดับ อาศัยว่าเมื่อที่ใดมีพระสงฆ์สายวัดป่าอยู่ ชาวบ้านมีกำลังศรัทธาก็มาช่วยอุปถัมภ์รักษาเป็นเขตอภัยทาน ป่าก็จะกลับฟื้นมาพร้อมกับสัตว์ป่าทั้งหลายให้เป็นร่มเงาผู้คนได้พึ่งพาอาศัย ไม่ใช่ว่าวัดไปรุกที่ป่าแต่อย่างใด

ตัวอย่างของวัดป่าที่ช่วยฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมจนเป็นผืนป่าอุดมและกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองคือวัดป่าภูก้อน อ.นายูง จ.อุดรธานี บนผืนป่าสงวนนายูง-น้ำโสม ใน พ.ศ. 2527 ซึ่งผืนป่าบางส่วนได้เสื่อมโทรมถูกบุกรุกทำลายจนเป็นเขาหัวโล้น มีแต่ความแห้งแล้งให้เห็น คุณโอฬารและ คุณปิยวรรณ วีรวรรณ อุบาสกอุบาสิกาผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาเดินทางมากราบคารวะ พระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก ที่วัดป่านาคำน้อยซึ่งอยู่ละแวกใกล้เคียง ได้พบว่า ภูก้อนซึ่งขณะนั้นเป็นป่าเขาเสื่อมโทรมนั้นมีลักษณะคล้ายคลึงกับพระพุทธรูปปางไสยาสน์ จึงปรึกษากับครูบาอาจารย์ว่าจะจัดสร้างวัดป่าเพื่อช่วยฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ ถวายเป็นพุทธบูชาให้เป็นที่สงบสันโดษเหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรของพระสงฆ์ และถวายเป็นราชสักการะสดุดีแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


(http://www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2015/11/pra02251158p2.jpg)

วัดป่าภูก้อนได้รับการอนุญาตให้จัดตั้งเป็นวัดตามระเบียบกรมการศาสนาใน พ.ศ. 2530 และได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้เข้าทำประโยชน์จัดตั้งเป็นพุทธอุทยาน เพื่อช่วยรักษาและบำรุงป่าใน พ.ศ. 2531 นับแต่นั้น กำลังศรัทธาก็ช่วยพลิกฟื้นคืนผืนป่าที่เสื่อมโทรมให้เขียวชอุ่ม และในพ.ศ. 2547 คณะศรัทธาญาติโยมได้วางแผนสร้างพระพุทธไสยาสน์หินอ่อนและวิหารขึ้นบนยอดภูก้อน เป็นจุดเด่นสวยงามสง่าดึงดูดผู้แสวงบุญและนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศมาเยี่ยมชม เมื่อสร้างสำเร็จสมบูรณ์ใน พ.ศ. 2554 พระวิหารและพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามุนีก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งใหม่ของจังหวัดอุดรธานีที่ทุกคนที่มาถึงต่างกล่าวขานและขึ้นเป็นภาพโฆษณาตามหน้านิตยสารท่องเที่ยวต่าง ๆ

พระวิหารและองค์พระปฏิมาไสยาสน์ นอกจากจะเปี่ยมพร้อมด้วยกำลังศรัทธาแล้ว ยังเต็มไปด้วยความวิจิตรงดงามอย่างมีรสนิยม ไม่รุงรังด้วยกล่องเรี่ยไรบริจาคหรือการค้าพาณิชย์ มีความสงบสงัดสมกับเป็นวัดป่า ผู้มาสักการะมีพื้นที่เดินภาวนาจงกรมรอบองค์พระปฏิมา และพื้นที่นั่งสมาธิภาวนา อีกทั้งส่วนบริการอื่นๆ เช่น ห้องน้ำ ร้านค้า ก็แยกเป็นสัดส่วนออกจากองค์พระวิหาร และส่วนกุฏิเสนาสนะของพระภิกษุก็แบ่งส่วนออกจากกันชัดเจนเพื่อการปฏิบัติสมาธิภาวนาตามวิสัยวัดป่า บริเวณรอบพื้นที่ของวัดเป็นพุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติ พื้นที่ 1,000 ไร่ซึ่งได้รับดูแลจากกรมป่าไม้ ก็เต็มไปด้วยป่าไม้หนาแน่น มีสัตว์ป่าชนิดต่างๆ มาอาศัย ทั้งไก่ฟ้า ไก่ป่า นกนานาพันธุ์ และลิงป่า พื้นที่ป่าโดยรอบนอกเหนือจากพื้นที่พุทธอุทยานของวัดก็พลอยได้อานิสงส์ไม่มีใครกล้าบุกรุกตามไปด้วย เป็นกุศโลบายที่ได้ผลดียิ่งในการรักษาผืนป่าโดยมีผู้คนอยู่ร่วมกัน

การพัฒนา การท่องเที่ยว การค้าและผืนป่าธรรมชาติ ไม่ใช่ทางคู่ขนานที่ไปด้วยกันไม่ได้เสมอไป หากตั้งใจคิดตั้งใจกระทำด้วยความรอบคอบและจิตศรัทธาดีงาม ประโยชน์ทั้งในเบื้องปัจจุบันและในภายภาคหน้าก็จะเกิดอย่างสมบูรณ์ดังเช่นวัดป่าภูก้อนแสดงให้เห็น



คอลัมน์ เดือนหงายที่ชายโขง โดย ธีรภัทร เจริญสุข(มติชนรายวัน 25พ.ย.2558)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1448448153 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1448448153)